ผู้จัดการรายวัน - “โชว์ห่วย” นัดม็อบใหญ่ 27 มี.ค.รวมพลกว่า 60 พื้นที่กว่า 2 พันคนกดดันรัฐบาล “สุรยุทธ์” แก้ปัญหาผลกระทบค้าปลีกดั้งเดิมของไทยที่ถูกห้างยักษ์ต่างชาติรุกขยายสาขาเข่นฆ่าค้าปลีกท้องถิ่น ยื่นคำขาดนายกฯ นำเข้า ครม.มีมติสั่งห้างค้าปลีกทุนนอก “เทสโก้ โลตัส” หยุดขยายสาขาทั่วประเทศทันทีจนกว่าจะมีกฎหมาย “ค้าปลีกค้าส่ง” บังคับใช้ ยันไม่ให้คำตอบม็อบหน้าทำเนียบฯ ยาวแน่ เผยก่อนยกทัพเข้ากรุง 26 มี.ค.นัดยื่นผู้ว่า พร้อมกันทั่วประเทศ
บรรดาแกนนำสมาพันธ์คนไทยต้านค้าปลีกข้ามชาติ นำโดยนายพันธุ์เทพ สุลีสถิร ประธานสมาพันธ์ฯ ได้นัดผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่น (โชว์ห่วย) ทั่วประเทศ ร่วมตัวกดดันรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานท์ นายกรัฐมนตรี ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งในวันอังคารที่ 27 มี.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี นำปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่น เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 3 เม.ย.50 เพื่อให้มีมติสั่งการให้ห้างค้าปลีกต่างชาติ ทั้งห้างเทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, คาร์ฟู และแม็คโคร หยุดการขยายสาขาของห้างไปยังท้องถิ่นทุกพื้นที่ จนกว่าจะมีกฎหมายควบคุมบังคับใช้ เช่น ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ค้าปลีกค้าส่ง, พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว และ พ.ร.บ.แข้งขันทางการค้าที่เป็นธรรม
รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทย และกรมโยธาธิการและผังเมือง นำประกาศของกรมโยธาธิการและผังเมืองมาบังคับใช้เพื่อชะลอการขยายสาขาและบรรเทาความเดือดร้อนของค้าปลีกดั้งเดิมของคนไทย อีกทั้งให้ยกเลิกมาตร 39 ทวิ ที่ห้างต่างชาติมีอภิสิทธิ์เข้ามาก่อสร้างได้โดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย
การชุมนุมครั้งนี้ทางแกนนำสมาพันธ์ฯ เปิดเผยว่า จะมีผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่นตามอำเภอต่างๆ ในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศที่ห้างค้าปลีกต่างชาติดังกล่าว โดยเฉพาะห้างเทสโก้ โลตัส ที่มีโครงการเข้าไปขยายสาขาห้างในรูปแบบต่างๆ เดินทางมาร่วมชุมนุมด้วยจำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่า จะมีมากกว่า 2,000 คน โดยการชุมนุมอาจจะยืดเยื้อไปจนกว่าทางสมาพันธ์ฯจะได้คำตอบจากนายกรัฐมนตรี นำปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่นเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ตามที่เรียกร้อง หากไม่ได้รับคำตอบทันทีในวันนั้น ทางสมาพันธ์ฯ อาจจะมีการปักหลักชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป เช่นเดียวกับการชุมนุมของกลุ่มผู้เดือดร้อนที่เป็นเกษตรกรไปจนกว่าจะได้รับคำตอบ
นายพันธุ์เทพ เปิดเผยว่า ผลกระทบที่ผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่นได้รับจากห้างค้าปลีกต่างชาตินั้นรุนแรงมาก และทำให้สูญเสียรายได้ไปแล้วค่อนข้างมหาศาล การขยายสาขาเข้าไปในท้องถิ่นของห้างค้าปลีกต่างชาติดังกล่าวนั้นได้ส่งผลให้ค้าปลีกท้องถิ่นดั้งเดิมของไทยล่มสลายไปแล้วจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งผลกระทบนี้ยังเป็นลูกโซไปยังแรงงานในท้องถิ่นต้องตกงานกันเพิ่มมากขึ้นด้วย
“ผมอยากถามว่ารัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ ยังจะปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้เรื้อรังต่อไปอีกหรือ ผมในนามสมาพันธ์คนไทยต้านค้าปลีกข้ามชาติ ยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้ ทางสมาพันธ์ฯ จะไม่ย่อมถอยหลังให้รัฐบาลอีกต่อไป และถ้านายกรัฐมนตรียังวางเฉย ไม่รับคำเรียกร้องไปดำเนินการให้กับพวกเรา ผมก็ถือว่าท่านนายกรัฐมนตรีใส่เกียร์ว่างเสียเอง” นายพันธุ์เทพ กล่าว
นายพันธุ์เทพ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทางสมาพันธ์ฯ ได้เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหามาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนเกิดการยึดอำนาจของทหาร ทางสมาพันธ์ฯก็ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) และได้ยื่นต่อรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงมหาดไทย, กรรมาธิการรับเรื่องราวร้องทุกข์, กรรมาธิการการพาณิชย์ และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างก็รับปากว่าจะดำเนินการแก้ไขให้ แต่จนบัดนี้ห้างค้าปลีกต่างชาติโดยเฉพาะเทสโก้ โลตัส ก็ยังไม่ยุติที่จะขยายสาขาเข่นฆ่าค้าปลีกท้องถิ่น
“ที่ผ่านมาทางผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ได้เคยมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าค้าปลีกท้องถิ่นดั้งเดิมของคนไทยนั้นได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบอย่างรุนแรงจากการขยายสาขาของห้างค้าปลีกต่างชาติจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความคลางแคลงใจให้กับคนไทยว่าบ้านนี้เมืองนี้เกิดอะไรขึ้น มีอำนาจแฝงอันใดหรือรัฐบาลไทยจึงไม่สามารถช่วยเหลือคนไทยด้วยกันได้ หรือประเทศไทยตกเป็นเมืองขึ้นของต่างชาติไปแล้ว” นายพันธุ์เทพ กล่าว
นายพันธุ์เทพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางสมาพันธ์คนไทยต้านค้าปลีกข้ามชาติ และประชาชนทั่วไป มีความวิตกกังวลต่อการดำเนินการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ใส่เกียร์ว่างที่มีความล่าช้าจนสายเกินแก้แล้ว จนพวกเราเริ่มไม่มั่นใจกับรัฐบาลขมิ้นอ่อนที่เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง แต่ยังตกอยู่ในความครอบงำของอำนาจเก่า ไม่เร่งช่วยเหลือคนไทย ไม่เห็นความวิบัติหายนะจากสงครามทางเศรษฐกิจที่เร่งขยายสาขารุกยึดพื้นที่ค้าปลีกดั้งเดิมของคนไทย สถานการณ์ของชาติบ้านเมืองวันนี้ กำลังได้รับความวิบัติหายนะจากการบุกรุกของทุนนิยมสามานย์ต่างชาติ ดังนั้น ทางสมาพันธ์ฯ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลนี้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยด่วน ก่อนที่จะตกเป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจของทุนต่างชาติ
ด้านนางเพียรใจ โรจนสินวิไล เลขาสมาพันธ์คนไทยต้านค้าปลีกข้ามชาติ กล่าวว่า ในวันจันทร์ 26 มี.ค.50 แกนนำแต่ละพื้นที่จะเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละจังหวัดเพื่อเรียกร้องให้นำประกาศกรมโยธาธิการและผังเมือง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ในการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องถิ่นตามที่นายพงศ์โพยม วาสภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท.0710/ว 220 ลงวันที่ 19 ม.ค.50 เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เนื่องจากจนถึงขณะนี้หนังสือด่วนที่สุดของปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ส่งไปยังผู้ว่าฯทั่วประเทศนั้นทางผู้ว่าฯยังใส่เกียร์ว่างอยู่เลย
หลังยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ในเช้าวันที่ 27 มี.ค. ช่วงตั้งแต่เวลา 08.00 น. ผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเข้าไปขยายสาขาของห้างค้าปลีกต่างชาติ โดยเฉพาะห้างเทสโก้ โลตัส จะเดินทางไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีนำปัญหาของผู้ประกอบการท้องถิ่นเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 3 เม.ย.ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้อาจจะยืดเยื้อหากนายกรัฐมนตรีไม่รับปากยืนยันในวันนั้นทันทีว่าจะแก้ปัญหาให้ตามที่ทางสมาพันธ์ฯ เรียกร้อง
แหล่งข่าวจากสมาพันธ์คนไทยต้านค้าปลีกข้ามชาติ เปิดเผยว่า สำหรับสมาชิกของสมาพันธ์ฯ ที่ร่วมกันเคลื่อนไหวคัดค้านห้างค้าปลีกต่างชาติ โดยเฉพาะห้างเทสโก้ โลตัสนั้น นับตั้งแต่มีการรวมตัวกันเป็นสมาพันธ์ฯ จนถึงขณะนี้มีสมาชิกกว่า 60 แห่งแล้วทั่วประเทศ และเริ่มมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเพิ่มจากพื้นที่ที่ห้างเทสโก้ โลตัส กำลังมีโครงการจะเข้าไปขยายสาขาในรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่เป้าหมายอีก โดยที่ไม่สนใจกระแสคัดค้านของค้าปลีกท้องถิ่นดั้งเดิมของคนไทยที่นับวันจะล้มสลายลง
“สมาชิกของเราที่มีกว่า 60 แห่ง นับตั้งแต่ที่ร่วมต่อสู้กันมาจนขณะนี้ถูกห้างเทสโก้ โลตัส เปิดสาขาสำเร็จไปแล้วกว่า 20 แห่ง เช่นที่เขตเทศบาลเมืองพล จ.ขอนแก่น เขตเทศบาลตำบลแก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เขตเทศบาลตำบลป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เขตเทศบาลตำบลมหาชัย อ.เมืองฯ และเขต อบต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เป็นต้น ผลปรากฏว่า หลังจากห้างค้าปลีกต่างชาติรายนี้เข้าไปเปิดสาขาสำเร็จ ผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่นในพื้นที่ดังกล่าวต่างพากันปิดกิจการไปแล้วจำนวนมาก ส่วนที่ยังพอมีทุนอยู่บ้างก็เปิดร้านสู้ต่อแต่รายได้หดหายไปกว่าครึ่ง” แหล่งข่าวระบุ