xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภ.7 จับมือยิงพี่เขย “จาตุรงค์ มกจ๊ก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครปฐม - ผบช.ภ.7 นำทีมไล่ล่าแถลงข่าวผลงานจับกุมมือยิงพี่เขยตลกจาตุรงค์ มกจ๊ก ส่วนอีกรายรวบมือยิงหนุ่มใหญ่นครชัยศรี ปมขัดแย้งเงินค่าขายปืน

วันนี้ (24 ต.ค.) เวลา 12.00 น.ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.เรวัช กลิ่นเกสร รอง ผบก.กสส.ศสส.ภ.7 พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ตันบุญเอก โฆษกตำรวจภูธร ภาค 7 พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม สว.สส.ภ.จว.นครปฐม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายคดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดราชบุรี

โดยรายแรก พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ปราโมทย์ จงใจ ผกก.สภ.อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้รับการติดต่อจาก นายณรงค์ จินดาประดับ อายุ 54 ปี พนักงานขับรถเทศบาลตำบลเจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี อยู่บ้านเลขที่ 125/3 ม.6 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อขอเข้ามอบตัวในคดีตกเป็นผู้ต้องหาคดียิง นายกฤษฎา ศักดิ์ทรัพย์ทวี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 ม.4 ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 21 ต.ค.2549 ที่ภายในฟาร์มจาตุรงค์ ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงวัวขนาดใหญ่ ของมีนายจาตุรงค์ มกจ๊ก ตลกชื่อดังเป็นเจ้าของ

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อนายกฤษฎา ศักดิ์ทรัพย์ทวี อายุ 42 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นคู่เขยของจาตุรงค์ มกจ๊ก ได้ทำงานเลี้ยงวัวอยู่ภายในฟาร์ม ช่วงเวลาเดียวกัน นายณรงค์ จินดาประดับ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นคู่เขยคนโต ซึ่งได้พักอาศัยอยู่ในฟาร์มดังกล่าว ได้กลับจากการทำงานเข้ามาโดยมีอาการมึนเมาเข้ามา และเกิดมามีปากเสียงกับผู้ตาย หลังจากนั้น นายณรงค์ ได้คว้าอาวุธปืนลูกซองยาว ยิงเข้าใส่ นายกฤษฎา ผู้ตาย ที่หน้าท้อง 1 นัดล้มลง และโทรศัพท์ไปบอก นางจิราภา ศักดิ์ทรัพย์ทวี ภรรยา ว่าถูกยิง จึงได้เร่งช่วยกันพาตัวส่ง รพ.แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นนายณรงค์ได้ขับขี่ จยย.หลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ และได้นำอาวุธปืนลูกซองยาวถอดชิ้นส่วนออก แล้วห่อด้วยผ้าขาวม้าไปโยนทิ้งที่คลองบริเวณหน้าฟาร์ม ก่อนจะเข้ามอบตัวดังกล่าว

ส่วนสาเหตุการยิงกันครั้งนี้ คือ นายจาตุรงค์ มกจ๊ก ได้ออกเงินทุนเพื่อเลี้ยงวัว เป็ด ไก่ ภายในฟาร์มโดยใช้ชื่อว่า ฟาร์มจาตุรงค์ จากนั้นได้ให้ญาติพี่น้องของภรรยา ซึ่งมีนายกฤษฎา ซึ่งเป็นเขยคนโต และนายณรงค์ เป็นเขยเล็ก ได้เข้ามาช่วยกันดูแลกิจการดังกล่าว แต่ทั้งคู่ก็มีเหตุขัดแย้งกันในการบริหารงานและทำงานร่วมกันภายในฟาร์มเรื่อยมา ก่อนจะมาเกิดเหตุดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา กับนายณรงค์ ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนอย่างและเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนอีกรายนำ พ.ต.อ.เรวัช กลิ่นเกสร รองผบก.กสส.ศสส.ภ.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผกก.ศสส.ภ.7 พ.ต.ท.ทูน เดชคุณมาก รอง ผกก.กสส.ศสส.ภ.7 นำกำลังชุดสืบสวน เข้าทำการจับกุม นายสมควร หรือ ควร จุ่มมีวงษ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 ม.2 ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนอาก้าฐานยาว 1 กระบอก อาวุธปืนอาก้าพับฐาน1 กระบอก ลูกกระปืนอาก้า 147 นัด ลูกกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 47 นัด อาวุธปืนขนาด .38 มม.1 กระบอก รถจักรยานยนต์ 1 คันโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง หัวกระสุนปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ 2 หัว ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ซูปเปอร์ 14 ปลอก ขณะหลบหนีอยู่ที่บ้านตากอากาศพักภายในเขื่อนแก่นกระจาน จ.เพชรบุรี

โดยการเข้าจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ต.ค.2549 เวลา 23.00 น.นายสมควร หรือ ควร อายุ 36 ปี ได้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 มม.ยิงใส่ นายพิสิฐ หรือ เพ็ญ แจ่มนิยม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/1 ม.4 ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จำนวน 18 นัด เสียชีวิตที่บริเวณเพิงพักสวนผลไม้ ม.4 ต.บางพระ อ.นครชัยศรี ก่อนหลบหนีไป

ส่วนสาเหตุในการสังหารครั้งนี้ เกิดจาก นายสมควร ได้ติดต่อให้ นายพิสิฐ หรือ เพ็ญ ซึ่งมีพฤติกรรมซื้อขายอาวุธปืนและอาวุธสงคราม นำอาวุธปืน ขนาด 9 มม.ของตนเองไปขาย ในราคา 3.3 หมื่นบาท แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป นายพิสิฐ ก็ไม่ยอมจ่ายเงินทั้งๆ ที่รับอาวุธปืนไปแล้ว ในวันเกิดเหตุ นายสมควร จึงได้โทรศัพท์ลวง นายพิสิฐ มายังที่เกิดเหตุเพื่อจะมาตกลงเงินที่ยังไม่ได้จ่าย แต่กลับมีปากเสียงกันจึงเกิดบันดาลโทสะชักอาวุธปืน ยิงใส่ผู้ตายจำนวนหลายนัด และหลบหนีไป ก่อนจะมาถูกจับกุมดังกล่าว

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น