ศูนย์ข่าวศรีราชา -จังหวัดชลบุรี เตรียมผุดอควาเรียมสมบูรณ์แบบในพื้นที่ชายหาดบางแสนด้วยงบประมาณจำนวน 800 ล้านบาทมั่นใจปี49เริ่มลงมือได้ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาวิจัย แห่งใหม่อย่างครบวงจร
นายสนธยา คุณปลื้ม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้า โครงการก่อสร้างอควาเรียมหรือโลกใต้ทะเล บริเวณพื้นที่บางแสน จ.ชลบุรี ว่าขณะนี้โครงการดังกล่าวสรุปได้ 2 แนวทาง คือ 1.ก่อสร้างในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งเดิมมีสถานบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลอยู่แล้ว และจะขยายให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกในพื้นที่ 40 ไร่ จากเดิมที่มีพื้นที่อยู่แล้ว 30 ไร่ รวมทั้งสิ้น 70 ไร่
2 . ก่อสร้างบริเวณชายหาดบางแสน บริเวณซอย 4 และ 5 ใกล้สถานีตำรวจภูธรแสนสุข ในพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ โดยขณะนี้ มอบหมายให้สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ศึกษาแนวทางในการลงทุน และ รูปแบบของอควาเรียมว่าจะเป็นในลักษณะแบบใด
สำหรับการศึกษาจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน โดยจะศึกษา รายละเอียดในด้านการบริหารจัดการ การดูแล อัตราค่าบริการ การประชาสัมพันธ์ และรูปแบบของอควาเรียม ว่าในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยบูรพาจะมีอะไรบ้าง และบริเวณพื้นที่ชายหาดจะมีอะไรบ้าง เพื่อให้ทั้ง 2 พื้นที่แตกต่างกัน
นอกจากนั้น จะทำอย่างไรให้โครงการดังกล่าวแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆและเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวและสถานที่ศึกษาวิจัยที่ทันสมัยที่สุด เพราะที่ผ่านมา อควาเรียมหลายๆพื้นที่ มีปัญหาด้านการดูแลและการเอาใจใสต่อชีวิตสัตว์น้ำนานาชนิด ซึ่งส่งผลกระทบกับสัตว์น้ำ โดยเรื่องนี้ไม่มีปัญหาสำหรับที่นี้เนื่องจากทางเรามีอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถที่ดี
โครงการดังกล่าวได้รับงบประมาณอุดหนุนจากจังหวัดชลบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี(อบจ.) และเทศบาลเมืองแสนสุข โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และศูนย์ศึกษาวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างครบวงจร ซึ่งงบประมาณ ในการก่อสร้างในเฟสแรกประมาณ 520 ล้านบาท จะดำเนินการในปี 2549
สำหรับรูปแบบนั้นจะเน้นตู้โชว์ขนาดใหญ่ขนาด 4,500 ตัน ซึ่งจะมีขนาดใหญ่รองจากประเทศญี่ปุ่น และในเฟสแรกจะแล้วเสร็จในระยะเวลา 2 ปี หลังจากนั้นก็จะเริ่มโครงการในเฟสที่ 2 โดย จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 800 ล้านบาท เพื่อให้เป็นศูนย์การในการท่องเที่ยวและศึกษาวิจัยอย่างครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
นายสนธยา กล่าวต่อไปว่า รูปแบบของโครงการ ในพื้นที่มหาวิทยาลัยบูรพาจะเน้นรูปแบบ เรื่องการศึกษาวิจัยและค้นคว้าของนักเรียน-นักศึกษา ส่วนพื้นที่บริเวณชายหาดจะเน้นเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว เพราะเป็นสถานที่เปิดโล่ง สามารถเข้าออกได้รอบทิศทาง หากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดชลบุรี ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวจังหวัดชลบุรีเพิ่มมากขึ้น และจะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดชลบุรีดีขึ้นด้วย
ด้านดร.พิชัย สนแจ้ง ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันฯมีโครงการจะขยายพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเลอยู่แล้ว และได้ของบประมาณต่อสภามหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากต้องใช้งบประมาณที่สูง จึงไม่ผ่านการพิจารณาเห็นชอบ แต่เมื่อทราบว่าทางจังหวัด อบจ.และเทศบาลเมืองแสนสุข มีโครงการก่อสร้างในรูปแบบเดียวกัน จึงมีแนวความคิดจะดำเนินการร่วมกัน เพื่อให้เป็นสถานที่ที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศ
"ที่ผ่านมาสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ถือว่าประสบผลสำเร็จในการดำเนินโดยได้รับความสนใจจากนักเรียน นักศึกษา และ ประชาชน เดินทางมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่ศึกษาและวิจัยสัตว์น้ำด้วย และหากมีสถานที่ใหม่เกิดขึ้น ก็๗ธยิ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน"
นายสนธยา คุณปลื้ม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้า โครงการก่อสร้างอควาเรียมหรือโลกใต้ทะเล บริเวณพื้นที่บางแสน จ.ชลบุรี ว่าขณะนี้โครงการดังกล่าวสรุปได้ 2 แนวทาง คือ 1.ก่อสร้างในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งเดิมมีสถานบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลอยู่แล้ว และจะขยายให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกในพื้นที่ 40 ไร่ จากเดิมที่มีพื้นที่อยู่แล้ว 30 ไร่ รวมทั้งสิ้น 70 ไร่
2 . ก่อสร้างบริเวณชายหาดบางแสน บริเวณซอย 4 และ 5 ใกล้สถานีตำรวจภูธรแสนสุข ในพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ โดยขณะนี้ มอบหมายให้สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ศึกษาแนวทางในการลงทุน และ รูปแบบของอควาเรียมว่าจะเป็นในลักษณะแบบใด
สำหรับการศึกษาจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน โดยจะศึกษา รายละเอียดในด้านการบริหารจัดการ การดูแล อัตราค่าบริการ การประชาสัมพันธ์ และรูปแบบของอควาเรียม ว่าในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยบูรพาจะมีอะไรบ้าง และบริเวณพื้นที่ชายหาดจะมีอะไรบ้าง เพื่อให้ทั้ง 2 พื้นที่แตกต่างกัน
นอกจากนั้น จะทำอย่างไรให้โครงการดังกล่าวแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆและเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวและสถานที่ศึกษาวิจัยที่ทันสมัยที่สุด เพราะที่ผ่านมา อควาเรียมหลายๆพื้นที่ มีปัญหาด้านการดูแลและการเอาใจใสต่อชีวิตสัตว์น้ำนานาชนิด ซึ่งส่งผลกระทบกับสัตว์น้ำ โดยเรื่องนี้ไม่มีปัญหาสำหรับที่นี้เนื่องจากทางเรามีอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถที่ดี
โครงการดังกล่าวได้รับงบประมาณอุดหนุนจากจังหวัดชลบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี(อบจ.) และเทศบาลเมืองแสนสุข โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และศูนย์ศึกษาวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างครบวงจร ซึ่งงบประมาณ ในการก่อสร้างในเฟสแรกประมาณ 520 ล้านบาท จะดำเนินการในปี 2549
สำหรับรูปแบบนั้นจะเน้นตู้โชว์ขนาดใหญ่ขนาด 4,500 ตัน ซึ่งจะมีขนาดใหญ่รองจากประเทศญี่ปุ่น และในเฟสแรกจะแล้วเสร็จในระยะเวลา 2 ปี หลังจากนั้นก็จะเริ่มโครงการในเฟสที่ 2 โดย จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 800 ล้านบาท เพื่อให้เป็นศูนย์การในการท่องเที่ยวและศึกษาวิจัยอย่างครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
นายสนธยา กล่าวต่อไปว่า รูปแบบของโครงการ ในพื้นที่มหาวิทยาลัยบูรพาจะเน้นรูปแบบ เรื่องการศึกษาวิจัยและค้นคว้าของนักเรียน-นักศึกษา ส่วนพื้นที่บริเวณชายหาดจะเน้นเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว เพราะเป็นสถานที่เปิดโล่ง สามารถเข้าออกได้รอบทิศทาง หากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดชลบุรี ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวจังหวัดชลบุรีเพิ่มมากขึ้น และจะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดชลบุรีดีขึ้นด้วย
ด้านดร.พิชัย สนแจ้ง ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันฯมีโครงการจะขยายพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเลอยู่แล้ว และได้ของบประมาณต่อสภามหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากต้องใช้งบประมาณที่สูง จึงไม่ผ่านการพิจารณาเห็นชอบ แต่เมื่อทราบว่าทางจังหวัด อบจ.และเทศบาลเมืองแสนสุข มีโครงการก่อสร้างในรูปแบบเดียวกัน จึงมีแนวความคิดจะดำเนินการร่วมกัน เพื่อให้เป็นสถานที่ที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศ
"ที่ผ่านมาสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ถือว่าประสบผลสำเร็จในการดำเนินโดยได้รับความสนใจจากนักเรียน นักศึกษา และ ประชาชน เดินทางมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่ศึกษาและวิจัยสัตว์น้ำด้วย และหากมีสถานที่ใหม่เกิดขึ้น ก็๗ธยิ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน"