xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามขนบ.ทัวร์บุกอีสานชูถนนNo.8-9ใกล้กว่าเที่ยวทะเลใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวขอนแก่น-อธิบดีกรมนำเที่ยว เวียดนาม นำตัวแทนบริษัททัวร์แลกเปลี่ยนข้อมูล กับบริษัทนำเที่ยวในภาคอีสาน หวังเปิดตลาดดึงนักท่องเที่ยวชาวอีสานข้ามลาวเที่ยวทะเลเวียดนาม เผยเส้นทางหมายเลข 8และ 9พร้อมรับทัวร์ทางบกซึ่งสะดวกและใกล้กว่า เที่ยวทะเลภาคใต้ของไทย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวเวียดนาม เสนอ 7 ประเด็นความร่วมมือพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวไทย-เวียดนาม

เช้าวันนี้(20 เม.ย.)ที่โรงแรมเจริญธานี ปริ้นเซส จ.ขอนแก่น ได้มีการประชุมสัมมนาความร่วมมือ ในการพัฒนาการท่องเที่ยวทางบกไทย-เวียดนาม โดยมีตัวแทนภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว และบริษัทนำเที่ยวของทั้งสองประเทศเข้าร่วมประมาณ 60 คน

นายหวู เถบิ่ง อธิบดีกรมนำเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กล่าวถึงการจัดสัมมนาครั้งนี้ว่า เพื่อต้องการให้ตัวแทนบริษัทนำเที่ยวทั้งไทยและเวียดนาม รวมถึงตัวแทนหน่วยงานภาครัฐทั้งสองฝ่าย ได้หารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือ การพัฒนาการท่องเที่ยวทางบกระหว่างไทย-เวียดนาม โดยเฉพาะการเสนอมาตรการต่างๆที่จะนำมาซึ่งประโยชน์ ต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวในอนาคตให้ได้มากที่สุด

ทั้งไทยและเวียดนามต่างมีทรัพยากรทางการท่องเที่ยว ที่หลากหลายน่าสนใจที่สามารถจะพัฒนาเป็นจุดขายให้ทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่มีอยู่เป็นผลผลิตทางการท่องเที่ยว ที่น่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้เข้ามาท่องเที่ยวให้มากขึ้น ดังนั้นจำเป็นต้องส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น

“เราเล็งเห็นความจำเป็นที่ต้องมีการพบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ระหว่างบริษัทนำเที่ยวของทั้งสองประเทศ เพื่อหาแนวทางใหม่ในการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางบก เพื่อผลประโยชน์ในการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้”นายหวู เถบิ่ง กล่าวและว่า

สำหรับเวียดนามแล้ว ถือว่าภาคอีสานของไทยและสปป.ลาว เป็นตลาดการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงมากในอนาคต ตนเชื่อว่าหลังจากโครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก หรือ East-West Econcmic Corridor(EWEC)แล้วเสร็จสมบูรณ์ การคมนาคมการสัญจรทางบก ที่เชื่อมต่อไทย-ลาว-เวียดนามจะสะดวก รวดเร็วขึ้น เมื่อนั้นนักท่องเที่ยวอีสาน สามารถเดินทางผ่านสปป.ลาว เพื่อไปเล่นน้ำทะเลที่เวียดนามได้สะดวกและใกล้กว่าการไปทะเลทางภาคใต้ของไทย

เวียดนามรุกตลาดอีสาน

นายหวู เถบิ่ง กล่าวย้ำอีกว่า ภาคอีสานจึงเป็นตลาดการท่องเที่ยว ที่มีศักยภาพ และมีความสำคัญสำหรับเวียดนามมาก มีประชากรกว่า20 ล้านคน และชอบเที่ยวทะเล ทั้งนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยไปเวียดนาม แต่ละปีราว 50,000 คน ส่วนนักท่องเที่ยวจากเวียดนามมาเที่ยวเมืองไทย ปีละกว่า 100,000 คนเช่นกัน

“หากการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวตามถนนหมายเลข 8 หรือถนนหมายเลข 9 เสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ นักท่องเที่ยวจากภาคอีสานของไทย ผ่านลาว ไปสู่ทะเลเวียดนามจะใช้เวลาสั้น กว่าไปภาคใต้ของไทย อนาคตจะสนองความต้องการของประชาชนทั้งสองประเทศ และผลักดันให้ประชาชนไปท่องเที่ยวและเยี่ยมเยียนซึ่งการและกันมากยิ่งขึ้น”อธิบดีกรมนำเที่ยว องค์การท่องเที่ยวแห่งประเทศเวียดนามระบุ

อย่างไรก็ตาม นายหวู เถบิ่ง กล่าวยอมรับว่าปัจจุบันการเดินทางท่องเที่ยวทางบก ระหว่างไทยและเวียดนามโดยผ่านลาวนั้นยังมีอุปสรรค์ในกรณีของยานพาหนะ ซึ่งรัฐบาลเวียดนามไม่อนุญาตให้กลุ่มนักเดินทาง หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถยนต์ที่มีพวงมาลัยด้านขวามือ ผ่านแดนเข้าประเทศเวียดนาม แม้ว่าการท่องเที่ยวทางบกลักษณะนี้กำลังเป็นที่สนใจก็ตาม

ประเด็นปัญหานี้ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ของรัฐบาลไทยและเวียดนามก็ได้หารือ และได้ทำข้อตกลงเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถนำพาหนะผ่านเขตแดนเวียดนาม ลาว ไทยได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอให้รัฐบาลกลางของ แต่ละประเทศเห็นชอบ คาดว่าประมาณ 3 เดือน น่าจะมีความก้าวหน้า หากมีการลงนามในสัญญาทวิภาคี จะสามารถอำนวยความสะดวกก่อนักท่องเที่ยวทางบกทั้ง 3 ประเทศได้มาก

ททท.ตั้งเป้าทัวร์เพื่อนบ้าน
เพิ่มยอดปี48อีก1แสนคน/ปี


นายพิชัย รักตะสิงห์ ผู้อำนวยการโครงการตลาดอินโดจีน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เปิดเผยว่าชาวเวียดนามกับชาวอีสานค่อนข้างมีความผูกพันเชิงประวัติศาสตร์ที่ดีต่อกัน ทำให้การพัฒนาการท่องเที่ยวของ 2 ประเทศที่ผ่านมาก้าวหน้าไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวร่วมกัน ทั้งสองประเทศต่างมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สามารถขายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มาก

นายพิชัย กล่าวว่า ในส่วนของททท.เอง ก็พยายามที่จะส่งเสริมดึงดูดนักท่องเที่ยวในแถบประเทศอินโดจีนเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทย เพราะถือเป็นตลาดที่ใหญ่เช่นกัน สำหรับภาพรวมตัวเลขนักท่องเที่ยวแถบประเทศเพื่อนบ้า น เฉพาะ 4 ประเทศ คือเวียดนาม ลาว กัมพูชาและพม่า แต่ละปีมีตัวเลขนักท่องเที่ยวกว่า 3 แสนคน นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามสูงเป็นอันดับหนึ่ง คือปีละกว่า 1 แสนคน นักท่องเที่ยวชาวลาวประมาณ 7-8 หมื่นคน/ปี กัมพูชา ไม่เกิน 7 หมื่นคน/ปี ส่วนพม่ายังถือว่าน้อยอยู่

อย่างไรก็ตามในปี 2548 ททท.ได้ตั้งเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยวในกลุ่มเพื่อนบ้าน 4 ประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้น ให้ได้เกินกว่า 4 แสนคน คืออย่างน้อยต้องเพิ่มให้ได้ 1 แสนคน

เสนอความร่วมมือ7ประเด็น

ด้านนายเหงียน อังห์ ตวง ผู้ชำนาญการด้านการท่องเที่ยว ประจำองค์การท่องเที่ยวแห่งประเทศเวียดนาม แสดงความเห็นว่าแม้ประเทศไทยและเวียดนาม จะมีศักยภาพทางการท่องเที่ยวมากมาย แต่ประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ยังอยู่ในระดับต่ำ ความร่วมมือระหว่างบริษัทนำเที่ยวของเวียดนาม ไทย ลาวยังไม่พัฒนาตามที่ควรจะเป็น จำนวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวใน 3 ประเทศนี้ยังน้อย

ขณะที่ระบบสาธารณูปโภค ในบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง และถนนถึงด่านตรวจเข้าออกประเทศของเวียดนามและลาว ยังไม่ได้รับการปรับปรุง ขั้นตอนการนำเข้าส่งออกที่ด่านตรวจศุลกากร ยังมีปัญหาหลายอย่างที่ต้องมีการแก้ไขปรับปรุง และอุปกรณ์จำเป็น ที่ใช้ในการตรวจเอกสาร สินค้าและพาหนะที่ด่านตรวจบางแห่งยังไม่ทันสมัย

ดังนั้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการท่องเที่ยวระหว่างกัน ให้ขยายตัวในอนาคต โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างบริษัทนำเที่ยว จำเป็นต้องหาทางอำนวยความสะดวกระหว่างไทย-เวียดนามให้มากขึ้น เช่น การหารือ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการร่วมมือทางธุรกิจ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เห็นความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรม

นายเหงียน อังห์ ตวง กล่าวว่าตนมีข้อเสนอที่ต้องการให้มีความร่วมมือในประเด็นต่างๆซึ่งยังถือว่าเป็นปัญหาอุปสรรค์ต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกันอยู่ทั้งหมด 7 ประเด็น คือ 1.ควรมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การท่องเที่ยวของแต่ละประเทศและประเทศที่อยู่ในภูมิภาค ร่วมมือกันจัดการศึกษาเส้นทาง และแหล่งท่องเที่ยวทางบก สร้างโปรแกรมท่องเที่ยวทางบกระหว่างเวียดนาม ลาว ไทยและขยายไปสู่กัมพูชาอีกด้วย

2.ควรร่วมมือลดขั้นตอนการตรวจเอกสารและพิธีการศุลกากรให้รวดเร็วขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว 3. ต้องลงทุนปรับปรุงสาธารณูปโภค ปรับปรุงบริการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว และระหว่างเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อให้โปรแกรมท่องเที่ยวมีความหลากหลายและน่าสนใจดึงดูดนักท่องเที่ยวได้

4.ร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบ เรื่องการจัดการท่องเที่ยวที่จังหวัดภาคกลางของเวียดนาม ภาคอีสานของไทยและภาคใต้ของลาว เช่นการจัดประชุมพบปะกันเป็นประจำ เช่น การประชุมพัฒนาการท่องเที่ยวถนนหมายเลข 8 เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลข่าวสาร หาทางแก้ไขปัญหา อำนวยความสะดวกแก่การพัฒนาการท่องเที่ยวของท้องถิ่น

5. ร่วมมือระหว่างบริษัทนำเที่ยวของสองประเทศ สร้างทัวร์ท่องเที่ยวและศึกษาวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ เช่น ทัวร์ศึกษาประเพณีของชนชาติต่างๆ ทัวร์ศึกษามรดกโลก ทัวร์ท่องเที่ยวทางเรือในแม่น้ำโขง ฯลฯ สร้างโปรแกรมท่องเที่ยวทางบก ทางเรือและทางอากาศ 6.สร้างความร่วมมือ ระหว่างบริษัทนำเที่ยว เพื่อหาตลาดดึงดูดและแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ บริษัทนำเที่ยวของไทย-เวียดนามประเทศควรร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวของลาว และกัมพูชา เพื่อจัดทำทัวร์ Farm Trip ซึ่งเป็นทัวร์ฟรีสำหรับบริษัทนำเที่ยว ผู้สื่อข่าวต่างชาติ เพื่อประชาสัมพันธ์และโฆษณาแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาค เพื่อให้การท่องเที่ยวสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เหมาะสม เพื่อนำเสนอข้อมูลให้กับนักท่องเที่ยวเป็นระยะๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น