แพร่ - เผยผลพิสูจน์ฝนเหลืองบ้านแม่ปาน เมืองแพร่ พบทั้งกำมะถัน – ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จากถ่านหิน อบต.เรียกผู้ประกอบการทำตะเกียบไม้ไผ่ 13 โรงงาน ผู้นำชุมชน / ชาวบ้านร่วมหาทางออกด่วน หวั่นผลกระทบรุนแรงกว่าที่คิด หลังมีผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจเรื้อรังคล้ายคนแม่เมาะ จังหวัดลำปางแล้ว ขณะที่จังหวัดยังเฉย
ผู้สื่อข่าวรายงาน จากจังหวัดแพร่ ถึงความคืบหน้า การตรวจพิสูจน์ตัวอย่างฝนเหลือง ที่เก็บบริเวณบ้านแม่ปานหมู่ 3 ต.แม่ปาน อ.ลอง จ.แพร่ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2548 จากศูนย์วิทยาศาสตร์เขต 10 จ.เชียงใหม่ พบว่า ในฝนเหลืองที่ตกลงยังหมู่บ้านเป็นประจำ จนเป็นที่ตื่นกลัวของชาวบ้าน พบว่า เกิดจากมลภาวะที่เกิดขึ้นจากพื้นดิน มีสารกำมะถัน สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จากการเผาไหม้ถ่านหิน คาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นไอเสียจากน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทดีเซล
จากผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว ทำให้ทราบว่า ฝนเหลืองที่ตกลงมาในหมู่บ้านมีอันตรายต่อประชาชนอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้เป็นที่เข้าใจกันในชุมชน ว่าเกิดจากโรงงานแปรรูปไม้ไผ่เป็นไม้เสียบลูกชิ้น และไม้ตะเกียบ ที่มีการอบผลิตภัณฑ์ด้วยกำมะถันระเหย เพื่อฆ่าเชื้อราที่ทำให้ไม้ไผ่ขึ้นราได้ และยังพบว่า มีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่มาจากการเผาไหม้ถ่านหิน
กรณีดังกล่าวไม่ได้เกิดจากกิจกรรมในหมู่บ้านอย่างแน่นอน ชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะมาจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับ อ.ลอง จ.แพร่ โดยชาวบ้านเคยประสบเหตุฝนเหลืองมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ทราบเพียงว่าน่าจะมาจากควันพิษโรงไฟฟ้าแม่เมาะเท่านั้น แต่ทางราชการก็ออกมายืนยันว่าเป็นไปไม่ได้
รายงานข่าวยังระบุอีกว่า ในบ้านแม่ปานมีลักษณะเป็นหุบเขา อาจเป็นจุดที่มีสารพิษเหล่านี้มาตกเป็นจำนวนมาก และส่งผลกระทบถึงประชาชน เป็นโรคทางเดินหายใจกันแล้วมากกว่า 10 ราย แต่ยังไม่มีใครเสียชีวิตด้วยโรคทางเดินหายใจแต่อย่างใด แต่ถึงแม้ปัญหาดังกล่าวจะส่งผลรุนแรง ต่อสุขภาพประชาชนมากขึ้นทุกขณะ แต่ทางราชการยังไม่ให้ความสำคัญแต่อย่างใด
ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ปาน ได้เรียกผู้ประกอบการ ที่ทำโรงงานแปรรูปไม้ไผ่ที่มีการใช้สารเคมีจำพวกกำมะถันอย่างต่อเนื่อง จำนวน 13 โรงงาน มาร่วมหารือกับประชาชน และแกนนำของคนในหมู่บ้าน วันนี้(8 เมษายน) เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นแล้ว
ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหา หรือช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหามลพิษดังกล่าว จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น ผู้สื่อข่าว แจ้งว่า แม้จะมีผลการตรวจพิสูจน์ ไม่ได้มีเพียงกำมะถันเท่านั้น ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศ แต่ยังมีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่มาจากการเผาไหม้ถ่านหิน แพร่กระจายมาถึงอ.ลอง แล้วก็ตาม แต่จนถึงขณะนี้ปรากฏว่า ยังไม่มีการสั่งการใด ๆ เพื่อการแก้ไขปัญหา ทั้งที่กรณีดังกล่าว อาจบานปลายหนักจนแก้ไขยาก เช่น ชุมชนใกล้โรงไฟฟ้าแม่เมาะก็เป็นได้
นายชาญชัย อินจินดา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.แม่ปาน อ.ลอง จ.แพร่ กล่าวว่า ผลการพิสูจน์ที่ออกมาส่งมาที่หมู่บ้านหลายวันแล้วซึ่งข่าวของผลพิสูจน์ก็แพร่สะพัดออกไป ผู้ประกอบการบางแห่งที่เห็นพิษภัย ก็ได้ย้ายโรงงานออกไปจากชุมชน แต่ส่วนใหญ่ยังคงปักหลักทำโรงงานแปรรูปไม้ไผ่กันต่อไป ซึ่งผลการตรวจยังพบว่ามีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อประชาชนอย่างมาก แต่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวเพื่อการแก้ไขแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงาน จากจังหวัดแพร่ ถึงความคืบหน้า การตรวจพิสูจน์ตัวอย่างฝนเหลือง ที่เก็บบริเวณบ้านแม่ปานหมู่ 3 ต.แม่ปาน อ.ลอง จ.แพร่ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2548 จากศูนย์วิทยาศาสตร์เขต 10 จ.เชียงใหม่ พบว่า ในฝนเหลืองที่ตกลงยังหมู่บ้านเป็นประจำ จนเป็นที่ตื่นกลัวของชาวบ้าน พบว่า เกิดจากมลภาวะที่เกิดขึ้นจากพื้นดิน มีสารกำมะถัน สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จากการเผาไหม้ถ่านหิน คาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นไอเสียจากน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทดีเซล
จากผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว ทำให้ทราบว่า ฝนเหลืองที่ตกลงมาในหมู่บ้านมีอันตรายต่อประชาชนอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้เป็นที่เข้าใจกันในชุมชน ว่าเกิดจากโรงงานแปรรูปไม้ไผ่เป็นไม้เสียบลูกชิ้น และไม้ตะเกียบ ที่มีการอบผลิตภัณฑ์ด้วยกำมะถันระเหย เพื่อฆ่าเชื้อราที่ทำให้ไม้ไผ่ขึ้นราได้ และยังพบว่า มีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่มาจากการเผาไหม้ถ่านหิน
กรณีดังกล่าวไม่ได้เกิดจากกิจกรรมในหมู่บ้านอย่างแน่นอน ชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะมาจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับ อ.ลอง จ.แพร่ โดยชาวบ้านเคยประสบเหตุฝนเหลืองมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ทราบเพียงว่าน่าจะมาจากควันพิษโรงไฟฟ้าแม่เมาะเท่านั้น แต่ทางราชการก็ออกมายืนยันว่าเป็นไปไม่ได้
รายงานข่าวยังระบุอีกว่า ในบ้านแม่ปานมีลักษณะเป็นหุบเขา อาจเป็นจุดที่มีสารพิษเหล่านี้มาตกเป็นจำนวนมาก และส่งผลกระทบถึงประชาชน เป็นโรคทางเดินหายใจกันแล้วมากกว่า 10 ราย แต่ยังไม่มีใครเสียชีวิตด้วยโรคทางเดินหายใจแต่อย่างใด แต่ถึงแม้ปัญหาดังกล่าวจะส่งผลรุนแรง ต่อสุขภาพประชาชนมากขึ้นทุกขณะ แต่ทางราชการยังไม่ให้ความสำคัญแต่อย่างใด
ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ปาน ได้เรียกผู้ประกอบการ ที่ทำโรงงานแปรรูปไม้ไผ่ที่มีการใช้สารเคมีจำพวกกำมะถันอย่างต่อเนื่อง จำนวน 13 โรงงาน มาร่วมหารือกับประชาชน และแกนนำของคนในหมู่บ้าน วันนี้(8 เมษายน) เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นแล้ว
ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหา หรือช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหามลพิษดังกล่าว จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น ผู้สื่อข่าว แจ้งว่า แม้จะมีผลการตรวจพิสูจน์ ไม่ได้มีเพียงกำมะถันเท่านั้น ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศ แต่ยังมีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่มาจากการเผาไหม้ถ่านหิน แพร่กระจายมาถึงอ.ลอง แล้วก็ตาม แต่จนถึงขณะนี้ปรากฏว่า ยังไม่มีการสั่งการใด ๆ เพื่อการแก้ไขปัญหา ทั้งที่กรณีดังกล่าว อาจบานปลายหนักจนแก้ไขยาก เช่น ชุมชนใกล้โรงไฟฟ้าแม่เมาะก็เป็นได้
นายชาญชัย อินจินดา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.แม่ปาน อ.ลอง จ.แพร่ กล่าวว่า ผลการพิสูจน์ที่ออกมาส่งมาที่หมู่บ้านหลายวันแล้วซึ่งข่าวของผลพิสูจน์ก็แพร่สะพัดออกไป ผู้ประกอบการบางแห่งที่เห็นพิษภัย ก็ได้ย้ายโรงงานออกไปจากชุมชน แต่ส่วนใหญ่ยังคงปักหลักทำโรงงานแปรรูปไม้ไผ่กันต่อไป ซึ่งผลการตรวจยังพบว่ามีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อประชาชนอย่างมาก แต่ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวเพื่อการแก้ไขแต่อย่างใด