xs
xsm
sm
md
lg

เมืองแพร่ผจญ"ฝนเหลือง" 2 หมู่บ้านป่วน-ชาวบ้านเริ่มป่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงาน

หลังจากได้เกิดเหตุการณ์ฝนเหลืองตก ที่บ้านแม่ปานหมู่ 3 และหมู่ 6 ต.แม่ปาน อ.ลอง จ.แพร่ ในช่วงเวลาประมาณ 04.00-06.00 น.ติดต่อกันหลายวันในระยะ 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ฝนเหลืองครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากอะไรแน่

นายแพทย์ปรีดา ดีสุวรรณ สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ขณะนี้บอกได้แต่เพียงว่า การเกิดฝนเหลืองเป็นผลกระทบจากการกระทำของมนุษย์เท่านั้น แต่ข้อสรุปที่ชัดเจน ต้องรอผลการตรวจสอบจากห้องทดลองของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต 10 เชียงใหม่ ที่จะมีออกมาในวันที่ 18 มีนาคม 2548 ก่อน

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณบ้านแม่ปาน หมู่ 3 และหมู่ 6 ต.แม่ปาน อ.ลอง จ.แพร่ ในข้อเท็จจริงเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้านที่อาศัยในชุมชนแล้ว ชาวบ้านหลายรายเริ่มมีอาการป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ - คนในชุมชนไม่กล้านำพืชผัก - ผลไม้ ที่ถูกฝนเหลืองตกใส่มารับประทาน เป็นต้น

นายนา ใจนาน ชาวบ้านแม่ปานหมู่ 3 ที่มีบ้านตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานผลิตตะเกียบ กล่าวว่า เขาและคนในครอบครัวต้องทนสูดควันจากการเผาถ่านและไอกำมะถันที่เกิดจากการดำเนินงานของโรงงานตะเกียบมานานกว่า 2 ปีแล้ว จนเกิดอาการผิดปกติในร่างกาย เกิดอาการอ่อนเพลีย โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่มีควัน - ไอกำมะถันปกคลุมอยู่เหนือหมู่บ้านหนาแน่น ที่ผ่านมาเขาเคยขอร้องเจ้าของโรงงานบริเวณใกล้บ้านช่วยหยุดการดำเนินงานในช่วงกลางคืน เพื่อลดปริมาณควันพิษลงบ้าง แต่ก็ไม่ได้รับการสนองตอบ

ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2548 เขาถึงกับล้มป่วยลง เพราะเกิดอาการหายใจไม่ทัน มีอาการเหนื่อยหอบ ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จ.แพร่ ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่า เขาป่วยเป็นโรคหอบหืดและให้กลับมารักษาตัวที่บ้านต่อไป

ทั้งนี้ไม่ได้มีเพียงกรณีของนายนา ใจนาน ชาวบ้านแม่ปานหมู่ 3 เท่านั้น ยังมีรายงานด้วยว่า อาการป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจดังกล่าว เริ่มเกิดกับชาวบ้านในชุมชนนี้มากขึ้น และพบว่ามีผู้ป่วยแล้วมากกว่า 5 ราย บางรายไม่กล้าร้องเรียน และยังไม่ยอมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล และกำลังเป็นประเด็นปัญหาที่ลุกลามใหญ่โตมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากไม่มีหน่วยงาน - องค์กรใด ๆ เข้ามาแก้ไข แม้ว่าจะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องและสามารถนำมาแก้ไขได้ ทั้งด้านสุขอนามัย - การขออนุญาตตั้งโรงงาน เพื่อควบคุมด้านสิ่งแวดล้อม แต่ก็ไม่มีการปฏิบัติ หรือบังคับใช้แต่อย่างใด

ปรากฏการณ์ "ฝนเหลือง" ที่บ้านแม่ปาน หมู่ 3 และหมู่ 6 ที่เกิดขึ้นนั้น เคยเกิดขึ้นที่ อ.ลอง จ.แพร่ มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 10 กว่าปีก่อน คราวนั้นมีต้นเหตุมาจากสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์จากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ที่อยู่ไม่ห่างจากเขต อ.ลอง มากนัก

ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้ชาวบ้านในหมู่ที่ 3 หมู่ที่ 6 ต.แม่ปาน อ.ลอง จ.แพร่ กว่า 300 หลังคาเรือน พบว่ามีฝนตกในช่วงเช้าตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 - 06.00 น.ของทุกวันตกติดต่อกันตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2548 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

เม็ดฝนที่ตกลงมามีลักษณะผิดปกติอย่างชัดเจน จากเดิมก่อนหน้านี้เม็ดฝนเคยเป็นน้ำบริสุทธิ์ใสสะอาดสามารถนำมาใช้ดื่มกินได้ แต่ครานี้กลับมีสีเหลืองขุ่นข้นคล้ายสีพลาสติก และเมื่อตกใส่ผืนดิน ใบไม้ ผักพื้นบ้าน ตลอดจนหลังคาบ้าน ได้ทิ้งคราบสีเหลืองไว้ทั่ว จนทำให้ชาวบ้านแตกตื่นทั้ง 2 หมู่บ้าน

ปรากฎการณ์ฝนเหลืองในบ้านแม่ปานสร้างความหวั่นวิตกต่อคนในชุมชนข้อนข้างสูง ยามเช้าอากาศที่เคยปลอดโปร่งมาวันนี้ชาวบ้านไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะกลัวจะถูกกับฝนเหลืองแปดเปื้อน รถยนต์และเสื้อผ้าต้องนำเก็บเข้าไว้ในชายคา ผักที่ปลูกไว้รับประทานในครัวเรือนไม่สามารถนำเก็บมาบริโภคได้อีกต่อไป

เหตุการณ์ดังกล่าวมีชาวบ้านพยายามจะร้องยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยหาสาเหตุ เช่นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในชุมชน รวมทั้ง อบต.และผู้ใหญ่บ้านกำนัน แต่ปัญหาดังกล่าวก็มิได้รับการคลี่คลาย เนื่องจากผู้ประกอบการก็คือผู้มีอันจะกินในท้องถิ่นทำธุรกิจอย่างไม่รับผิดชอบแต่เจ้าหน้าที่ระดับตำบล ก็มิกล้าแตะต้อง


ปัญหาดังกล่าวเป็นที่รับรู้กันในชุมชน แต่ไม่สามารถจัดการได้เนื่องจากเกรงกลัวอำนาจของผู้ประกอบการ จนในที่สุดสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเกิดการเปลี่ยนแปลงทันทีเมื่อนายแพทย์ปรีดา ดีสุวรรณ สาธารณสุขจังหวัดแพร่ทราบเรื่องได้สั่งการให้มีการตรวจสอบปรากฎการณ์ฝนเหลืองที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2548 ที่ผ่านมา โดยได้เข้าไปสำรวจสภาพทั่วไปของชุมชนและเก็บตัวอย่างฝนเหลืองที่ได้ตามใบไม้และหลังคาบ้านไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เขต 10 จ.เชียงใหม่ ซึ่งต้องรอผลในวันที่ 18 มีนาคม 2548

ส่วนสภาพทั่วไป สาธารณสุขจังหวัดแพร่ พบว่า ในละแวกบ้านแม่ปานที่เป็นชุมชนในหุบเขา มีน้ำไหลผ่านอุดมสมบูรณ์ปลูกผลไม้นานาชนิดเป็นสินค้าสำคัญ แต่ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งยังเน้นไปที่อาชีพอุตสาหกรรมในครัวเรือน มีการนำไม้ไผ่จากป่ามาแปรรูปเป็นไม้ตะเกียบและไม้เสียบลูกชิ้น ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดสูงมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ตะเกียบและไม้เสียบลูกชิ้น เป็นสินค้าที่ใช้แล้วทิ้งตามกระแสบริโภคนิยม ที่เน้นไปที่ความสะอาดและใช้ครั้งเดียวไม่ต้องล้างมาใช้อีกทำให้การผลิตไม้ตะเกียบและไม้เสียบลูกชิ้นเป็นที่ต้องการของตลาด มีออเดอร์สั่งจองมาทางจังหวัดแพร่อย่างมหาศาล เพราะที่จังหวัดแพร่เป็นเขตป่าไม้สักที่มีไม้ไผ่ขึ้นอยู่โดยทั่วไป


จากการสำรวจพบว่าในบริเวณบ้านแม่ปาน มีโรงงานทำไม้ตะเกียบมากถึง 13 แห่ง ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยกระบวนการของโรงงานจะนำไม้จากป่าที่ตัดอย่างผิดกฎหมาย ลำเลียงมาสู่โรงงานและโรงงานแปรรูปไม้เหล่านี้ก็มิได้ตั้งขึ้นตามขั้นตอนของกฎหมาย

แต่เป็นการอนุโลมจากผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ในอดีตที่เปิดโอกาสให้ดำเนินการได้เพื่อสร้างงานขึ้นในชุมชน ในเวลากลางวันพนักงานจะช่วยกันตัดไม้ไผ่ให้ได้ความยาวพอดี แล้วผ่าออกเป็น 2 ซีกจากนั้นนำเข้าเครื่องแปรรูปออกมาเป็นไม้ตะเกียบและไม้เสียบลูกชิ้น บางรายพัฒนาให้เป็นไม้จิ้มฟัน ไม้ไผ่ที่แปรรูปแล้วจะถูกนำมาตากแดดจนแห้งประมาณ 2 รอบ จากนั้นจะต้องฆ่าเชื้อราด้วยการนำเข้าอบกำมะถัน

การอบกำมะถันจะดำเนินการในเวลากลางคืน โดยบรรจุผลิตภัณฑ์ลงในถังที่มีการทำให้กำมะถันกลายเป็นสารระเหยไว้ที่ก้นถังเมื่อบรรจุไม้ลงไปจนเต็มจึงปล่อยให้มีการลมไอระเหยกำมะถันตลอดทั้งคืน กำมะถันที่อบไม้ไม่มีควันแต่ก็ฟุ้งกระจายไปทั่วหมู่บ้าน รับรู้ได้จากกลิ่นเหม็นที่ฟุ้งไปทั่วพื้นที่โรงงานตั้งอยู่

ขณะเดียวกันตั้งแต่เวลา 19.00 น.จนถึงเช้าของทุกวัน โรงงานนำเอาข้อไม้ไผ่ที่ติดออกนำมาเผาถ่านเพื่อเสริมรายได้อีกทางหนึ่ง การเผาถ่านใช้ถัง 200 ลิตรเช่นกัน เมื่อไฟติดก็จะลุกคุกรุ่นอยู่ในถังมีควันพวยพุ่งออกมาตลอดเวลา การเผาถ่านจะเสร็จสิ้นลงเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ของทุกวัน

โรงงานเหล่านี้ส่งผลกระทบกับคนในชุมชนหลายกรณี ตั้งแต่เสียงการทำงานของเครื่องจักรตลอดทั้งวัน การเผาถ่านที่ทำให้เกิดควันรมไปทั่วทั้งหมู่บ้านตลอดทั้งคืนไม่ว่าฤดูใดก็ตามไม่มีวันหยุด ในเวลากลางคืนอีกเช่นกันผลิตภัณฑ์ที่คัดเกรดเรียบร้อย จะถูกอบด้วยไอกำมะถัน ตั้งแต่ช่วงใกล้ค่ำของทุกวันแม้ไม่มีควันให้เห็นแต่ชาวบ้านสัมผัสกลิ่นกำมะถันตลอดทั้งคืน

ในที่สุดหมู่บ้านที่อุดมไปด้วยน้ำและธรรมชาติที่สวยงาม ก็เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ชนิดที่ไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปควบคุม

กำลังโหลดความคิดเห็น