xs
xsm
sm
md
lg

ล้อมกรอบกพร.-เอพีพีซีแอบปักหมุดโปแตชผิดข้อตกลงจังหวัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุดรธานี-กลุ่มอนุรักษ์ฯฮือรวมตัวล้อมกรอบคนของ เอพีพีซี และ เจ้าหน้าที่รังวัดกพร.ที่บุกรุกรังวัดปักหมุดแนวเขต “สัมปทานเหมืองแร่โปแตช” แถวบ้านหนองนาเจริญ เผยเป็นการทำผิดข้อตกลงที่ทำกับจังหวัด

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2548 นายจารึก ปริญญาพล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี รับแจ้งจาก “กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จ.อุดรธานี” ว่า บ.เอเชีย แปซิกฟิก โปแตช คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด หรือ เอพีพีซีและ เจ้าหน้าที่รังวัด กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานการทำเหมืองแร่ เข้าไปรังวัดปักหมุดแนวเขต “สัมปทานเหมืองแร่โปแตช” บริเวณบ้านหนองนาเจริญ ม.6 ต.หนองไผ่ อ.เมือง ซึ่งเป็นการกระทำผิดข้อตกลง ทำให้กลุ่มอนุรักษ์ฯได้รวมตัวอยู่จุดที่เกิดเหตุ

หลังทราบเรื่องนายจารึกจึงมอบหมายให้นายกิตติคุณ บุตรคุณ เจ้าพนักงานปกครอง 7 สำนักงานป้องกัน จ.อุดรธานี เดินทางออกไปยุติปัญหา

เมื่อเดินทางไปบริเวณ ริมถนนทางเข้าบ้านหนองนาเจริญ พบกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จ.อุดรธานี นำโดยนายมณี บุญรอด รองประธานชมรม , นางละเอียด อ่อนละมัย แกนนำบ้านหนองนาเจริญ เป็นผู้นำชาวบ้านกว่า 80 คุม คุมเชิงกลุ่มเจ้าหน้าที่รังวัดของ นายอนุสรณ์ ศรีสุวรรณ เจ้าหน้าที่รังวัด 6 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการทำเหมืองแร่ พร้อมลูกน้องกว่า 10 คน พร้อมรถยนต์ปิกอัพ 2 คัน ไม่ให้เดินทางออกนอกพื้นที่ โดยกลุ่มอนุรักษ์ เรียกร้องให้รื้อทำลายหมุดแนวเขตจำนวน 3 จุด ที่หล่อเป็นคอนกรีตกว้างยาว 1 ฟุต ลึก 50 เซนติเมตรออก

นางละเอียด ระบุว่า ข้อตกลงเดิมของกลุ่มอนุรักษ์ฯ กับทางราชการ ให้ชะลอการรังวัดปักหมุดแนวเขต 32 จุดไปก่อน จนกว่าจะชี้แจงชาวบ้านเข้าใจ แต่ฝ่ายนักลงทุนคือ เอพีพีซี และเจ้าหน้าที่ กลับเข้ามาแอบรังวัดปักหมุดไป 3 จุด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำขัดคำสั่ง ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี โดยในวันนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน จึงออกมาติดตามจนพบที่จุดนี้

" แต่ปรากฏว่าตัวแทนของ เอพีพีซีซึ่งน่าจะกลัวความผิด ได้ขับรถปิกอัพอีกคันหลบหนีไปก่อน ซึ่งท่านผู้ว่าฯรับทราบเหตุการณ์ และแจ้งให้กลุ่มอนุรักษ์ฯมาดูให้เห็นกับตา และขอให้ทุบหมุดทั้ง 3
ที่ปักวันนี้ออกไป"นางละเอียดกล่าว

ขณะที่นายอนุสรณ์ ได้ชี้แจงว่า เอพีพีซีแจ้งให้มาทำการรังวัดปักหมุด ในส่วนของพื้นที่ของ เอพีพีซี ที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย จึงเดินทางมาตรวจสอบตามที่แจ้ง และพบว่าเป็นที่ดินที่ เอพีพีซีครอบครองอยู่จริง และเจ้าของที่ดินยินยอมให้รังวัด จึงต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนที่เราต้องปฏิบัติ ไปปฏิเสธ เอพีพีซีไม่ได้ และไม่คิดว่าจะไปขัดกับมติเดิม หากการปักหมุดอยู่พื้นที่คนอื่น ก็คงจะไม่ดำเนินการแน่นอน

นายกิตติคุณ ได้ไกล่เกลี่ยให้เรื่องยุติ และแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยให้ทั้งสองฝ่ายเคารพมติเดิม คือจะไม่ออกมารังวัดปักหมุดอีก ไม่ว่าหมุดที่จะปักจะอยู่ในที่ใคร จนกว่าจะได้ประชุมหาข้อยุติในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นการกำหนดไว้ก่อนหน้าแล้ว และจะไม่ทุบหมุดที่เจ้าหน้าที่ปักไปแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น