อุบลราชธานี-ตลิ่งฝั่งแม่น้ำมูนทรุดตัว บ้านเรือนชาวบ้านพัง 3 หลัง ขณะชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงหวาดผวาจะเกิดการทรุดพังทลายเพิ่ม ผู้ว่าฯพร้อมคณะรุดตรวจสอบพื้นที่เสียหายและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นไปแล้ว เผยต้นเหตุการทรุดตัวของตลิ่งน่าจะเกิดจากผลกระทบน้ำท่วมริมฝั่งแม่น้ำมูล
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (20 ต.ค. ) นายจีรศักดิ์ เกษณียบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมคณะได้เดินทางไปที่บ้านคูเดื่อ ม.6 ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ภายหลังได้รับรายงานเหตุการณ์แผ่นดินบริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านเรือนประชาชนเกิดทรุดตัวอย่างรุนแรงจนเป็นเหตุให้บ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ริมฝั่ง 7 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนจำนวน 20 คน และมีบ้านเรือนของชาวบ้านพังพร้อมกับแผ่นดินทรุดครั้งนี้ 3 หลังโดยที่การทรุดตัวของดินในครั้งนี้ลึกกว่า 3 เมตร

อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ชาวบ้านที่เหลือหวาดวิตกว่าแผ่นดินจะทรุดลงอีกรอบ เนื่องจากมีรอยร้าวปรากฏขึ้นเป็นวงกว้างกว่า 100 เมตร ตามบริเวณชายฝั่ง
นายจีรศักดิ์ เกษณียบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และคณะได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับมอบนำสิ่งของอุปโภค-บริโภค ซึ่งจังหวัดได้จัดเตรียมไว้ไปมอบให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนและได้มอบเงินจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ช่วยเหลือประชาชน ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอีกรอบครัวละ 2,000 บาท ด้วย
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้อพยพชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวออกไปอยู่ในที่ปลอดภัยโดยให้ อบต.แจระแม และนายอำเภอเมืองอุบลฯ เป็นผู้ดูแล พร้อมกับได้ประกาศให้บริเวณดังกล่าวเป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของบประมาณ 50 ล้านบาทในการสร้างเขื่อนกั้นน้ำตามแนวชายฝั่งตามที่ชาวบ้านได้เรียกร้องต่อไป
นายอภิสิทธิ์ โคตรพันธ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม. 6 ต.แจระแม ตัวแทนชาวบ้านคูเดื่อ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชาวบ้านไม่เคยพบเห็นมาก่อน โดยการทรุดตัวของแผ่นดินได้เริ่มทรุดเมื่อประมาณ 3-4 วันที่แล้ว กระทั่งบ้านเรือนของชาวบ้านประมาณ 3 หลังได้ทรุดลงตามแผ่นดินที่ยุบตัวลง บางส่วนบ้านได้พังทลาย
สาเหตุที่เกิดขึ้นชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าน่าจะมาจากการดูดทรายของบริษัทเอกชนในพื้นที่เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อนโดยทำการดูดบริเวณฝั่งที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ทำให้เชื่อกันว่าพื้นที่ทรายใต้ท้องน้ำไม่เสมอกัน นานวันเข้าจึงทำให้แผ่นดินทรุดตัวลง ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีเอกชนพยายามขออนุญาตเข้ามาดูดทรายอีกโดยมีการเสนอข้อแลกเปลี่ยนในการก่อสร้างโบสถ์ให้ชาวบ้านให้แล้วเสร็จ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่พยายามคัดค้านเนื่องจากหวั่นว่าจะได้รับผลกระทบพื้นที่ตามแนว ชายฝั่งทรุดตัว
นายประสิทธิ์ สุริโย ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.แจระแม กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินทรุดครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ 3 วันก่อนหน้านี้โดยเริ่มแรกชาวบ้านตื่นเช้าขึ้นมาพบว่าบ้านทรุดตัวลงไปประมาณ 1 ศอก จากนั้นได้เริ่มทรุดมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งปัจจุบันทรุดลงไปเกือบ 4 เมตร และบ้านเรือนบางส่วนพัง ส่วนสาเหตุไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด เพราะตั้งแต่ตนเกิดมา 50 ปี ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อน แต่ที่เชื่อกัน คือ น่าจะมาจากน้ำท่วมในระดับที่สูงบวกกับดินใต้น้ำเหลวพอน้ำลดระดับลงแผ่นดินจึงทรุดตัวลง

ส่วนเรื่องการดูดทรายในช่วงที่สร้างเป็นหมู่บ้านไม่มีการดูดทรายแม้จะมีเอกชนพยายามมาขอสัมปทาน โดยตนได้ทำประชาพิจารณ์ให้ชาวบ้านออกความคิดเห็นแต่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ซึ่งก็ได้ยึดตามเสียงของชาวบ้านหากมีเสียงก้ำกึ่งกันก็จะไม่อนุญาตให้สัมปทาน แต่ถ้ามีเสียง 80 % ขึ้นไปบอกว่าเห็นด้วยจึงจะยอมอนุญาต
นายทองคำ กองสุข ประธาน อบต.แจระแม กล่าว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาตนได้ทำหนังสือไปยังส่วนกลางเพื่อของบประมาณสร้างเขื่อนกันตลิ่งพังเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ทั้งที่บ้านคูเดื่อ และ บ้านทัพไท อ.เมือง โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาทำการสำรวจอย่างน้อย 2 ครั้ง และเร็วๆ นี้จะมาอีกครั้ง แต่ล่าสุดยังไม่ได้การอนุมัติงบ ซึ่งจะเห็นว่าบริเวณตามแนวชายฝั่งแม่น้ำมูน จ.อุบลราชธานี
นอกจากจุดนี้ที่มีการทรุดตัวของดินริมตลิ่งลงอย่างรุนแรงแล้ว ยังมีอีกหลายจุดที่เกิดรอยร้าวและแผ่นดินทรุดตัว เช่นที่ ชุมชนคูสว่าง อ.เมืองอุบลฯ จุดที่เกิดรอยร้าวเป็นบริเวณลานวัด และอีกแห่งเป็นท้ายหมู่บ้านคูเดื่อ ซึ่งเกิดรอยร้าวในช่วงเดียวกันนี้ ทำให้หน้าบ้านของชาวบ้านเกิดรอยร้าวน่าหวาดเสียว ส่วนกรณีการขอดูดทรายบริเวณแม่น้ำมูนในแถบนี้นั้นเนื่องจากชาวบ้านไม่อนุญาตให้ดูดจึงไม่ได้ให้สัมปทานไป
นายสุขสันต์ บุญโทแสง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.อุบลฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากการลดลงของระดับน้ำอย่างรวดเร็วทำให้เกิดดินยุบ ซึ่งหลังเกิดเหตุที่ต้องนำสิ่งของยังชีพมามอบให้กับประชาชนที่เดือดร้อนก็เพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจว่าทางการไม่ได้นิ่งดูดายและกำลังให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจากนี้จะให้ทางสำนักงานชลประทานมาสำรวจเพื่อป้องกันและแก้ไขจุดที่เกิดการทรุดตัวเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาให้ถาวรต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (20 ต.ค. ) นายจีรศักดิ์ เกษณียบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมคณะได้เดินทางไปที่บ้านคูเดื่อ ม.6 ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ภายหลังได้รับรายงานเหตุการณ์แผ่นดินบริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านเรือนประชาชนเกิดทรุดตัวอย่างรุนแรงจนเป็นเหตุให้บ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ริมฝั่ง 7 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนจำนวน 20 คน และมีบ้านเรือนของชาวบ้านพังพร้อมกับแผ่นดินทรุดครั้งนี้ 3 หลังโดยที่การทรุดตัวของดินในครั้งนี้ลึกกว่า 3 เมตร
อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ชาวบ้านที่เหลือหวาดวิตกว่าแผ่นดินจะทรุดลงอีกรอบ เนื่องจากมีรอยร้าวปรากฏขึ้นเป็นวงกว้างกว่า 100 เมตร ตามบริเวณชายฝั่ง
นายจีรศักดิ์ เกษณียบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และคณะได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับมอบนำสิ่งของอุปโภค-บริโภค ซึ่งจังหวัดได้จัดเตรียมไว้ไปมอบให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนและได้มอบเงินจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ช่วยเหลือประชาชน ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอีกรอบครัวละ 2,000 บาท ด้วย
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้อพยพชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวออกไปอยู่ในที่ปลอดภัยโดยให้ อบต.แจระแม และนายอำเภอเมืองอุบลฯ เป็นผู้ดูแล พร้อมกับได้ประกาศให้บริเวณดังกล่าวเป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของบประมาณ 50 ล้านบาทในการสร้างเขื่อนกั้นน้ำตามแนวชายฝั่งตามที่ชาวบ้านได้เรียกร้องต่อไป
นายอภิสิทธิ์ โคตรพันธ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม. 6 ต.แจระแม ตัวแทนชาวบ้านคูเดื่อ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชาวบ้านไม่เคยพบเห็นมาก่อน โดยการทรุดตัวของแผ่นดินได้เริ่มทรุดเมื่อประมาณ 3-4 วันที่แล้ว กระทั่งบ้านเรือนของชาวบ้านประมาณ 3 หลังได้ทรุดลงตามแผ่นดินที่ยุบตัวลง บางส่วนบ้านได้พังทลาย
สาเหตุที่เกิดขึ้นชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าน่าจะมาจากการดูดทรายของบริษัทเอกชนในพื้นที่เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อนโดยทำการดูดบริเวณฝั่งที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ทำให้เชื่อกันว่าพื้นที่ทรายใต้ท้องน้ำไม่เสมอกัน นานวันเข้าจึงทำให้แผ่นดินทรุดตัวลง ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีเอกชนพยายามขออนุญาตเข้ามาดูดทรายอีกโดยมีการเสนอข้อแลกเปลี่ยนในการก่อสร้างโบสถ์ให้ชาวบ้านให้แล้วเสร็จ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่พยายามคัดค้านเนื่องจากหวั่นว่าจะได้รับผลกระทบพื้นที่ตามแนว ชายฝั่งทรุดตัว
นายประสิทธิ์ สุริโย ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.แจระแม กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินทรุดครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ 3 วันก่อนหน้านี้โดยเริ่มแรกชาวบ้านตื่นเช้าขึ้นมาพบว่าบ้านทรุดตัวลงไปประมาณ 1 ศอก จากนั้นได้เริ่มทรุดมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งปัจจุบันทรุดลงไปเกือบ 4 เมตร และบ้านเรือนบางส่วนพัง ส่วนสาเหตุไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด เพราะตั้งแต่ตนเกิดมา 50 ปี ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อน แต่ที่เชื่อกัน คือ น่าจะมาจากน้ำท่วมในระดับที่สูงบวกกับดินใต้น้ำเหลวพอน้ำลดระดับลงแผ่นดินจึงทรุดตัวลง
ส่วนเรื่องการดูดทรายในช่วงที่สร้างเป็นหมู่บ้านไม่มีการดูดทรายแม้จะมีเอกชนพยายามมาขอสัมปทาน โดยตนได้ทำประชาพิจารณ์ให้ชาวบ้านออกความคิดเห็นแต่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ซึ่งก็ได้ยึดตามเสียงของชาวบ้านหากมีเสียงก้ำกึ่งกันก็จะไม่อนุญาตให้สัมปทาน แต่ถ้ามีเสียง 80 % ขึ้นไปบอกว่าเห็นด้วยจึงจะยอมอนุญาต
นายทองคำ กองสุข ประธาน อบต.แจระแม กล่าว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาตนได้ทำหนังสือไปยังส่วนกลางเพื่อของบประมาณสร้างเขื่อนกันตลิ่งพังเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ทั้งที่บ้านคูเดื่อ และ บ้านทัพไท อ.เมือง โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาทำการสำรวจอย่างน้อย 2 ครั้ง และเร็วๆ นี้จะมาอีกครั้ง แต่ล่าสุดยังไม่ได้การอนุมัติงบ ซึ่งจะเห็นว่าบริเวณตามแนวชายฝั่งแม่น้ำมูน จ.อุบลราชธานี
นอกจากจุดนี้ที่มีการทรุดตัวของดินริมตลิ่งลงอย่างรุนแรงแล้ว ยังมีอีกหลายจุดที่เกิดรอยร้าวและแผ่นดินทรุดตัว เช่นที่ ชุมชนคูสว่าง อ.เมืองอุบลฯ จุดที่เกิดรอยร้าวเป็นบริเวณลานวัด และอีกแห่งเป็นท้ายหมู่บ้านคูเดื่อ ซึ่งเกิดรอยร้าวในช่วงเดียวกันนี้ ทำให้หน้าบ้านของชาวบ้านเกิดรอยร้าวน่าหวาดเสียว ส่วนกรณีการขอดูดทรายบริเวณแม่น้ำมูนในแถบนี้นั้นเนื่องจากชาวบ้านไม่อนุญาตให้ดูดจึงไม่ได้ให้สัมปทานไป
นายสุขสันต์ บุญโทแสง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.อุบลฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากการลดลงของระดับน้ำอย่างรวดเร็วทำให้เกิดดินยุบ ซึ่งหลังเกิดเหตุที่ต้องนำสิ่งของยังชีพมามอบให้กับประชาชนที่เดือดร้อนก็เพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจว่าทางการไม่ได้นิ่งดูดายและกำลังให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจากนี้จะให้ทางสำนักงานชลประทานมาสำรวจเพื่อป้องกันและแก้ไขจุดที่เกิดการทรุดตัวเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาให้ถาวรต่อไป