แม่ฮ่องสอน–ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนสั่งเชือดเจ้าหน้าที่รัฐพัวพันขบวนการค้ารถเถื่อนตามแนวชายแดน จี้นายอำเภอเจ้าของพื้นที่จัดการ หลังขบวนการค้ารถเถื่อนลอบส่งรถยนต์-จักรยานยนต์เข้าพม่าผ่านชายแดนแม่ฮ่องสอนแล้วหลายสิบคัน
นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จังหวัดได้สั่งการให้นายสุรพล สัตยารักษ์ นายอำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้ติดตามข้าราชการที่เข้าไปร่วมกับแก๊งนำรถจักยานยนต์ส่งออกไปยังประเทศพม่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากด่านศุลกากรแม่ฮ่องสอน ผ่านช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม
โดยให้นำกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอขุนยวม ติดตามพฤติกรรมข้าราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพราะจังหวัดได้รับรายงานว่ามีข้าราชการบางคนเข้าไปร่วมนำรถจักรยานนต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตส่งออกไปยังประเทศพม่า
ดังนั้น จึงขอให้ข้าราชการคนดังกล่าวงเลิกพฤติกรรมดังกล่าว หากยังไม่เลิกจะถูกดำเนินการทางวินัยและคดีอาญาอย่างแน่นอน
แหล่งข่าวชายแดนระบุว่า ช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น อำเภอขุนยวม เป็นช่องทางที่มีการนำรถจักรยานยนต์และรถยนต์ส่งไปจำหน่ายให้กับชนกลุ่มน้อยตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2547 จนถึงปัจจุบันมีรถยนต์ประมาณ 5 คัน รถจักรยานยนต์ประมาณ 20 คัน ถูกส่งออกไปโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร
โดยกลุ่มขบวนการนำรถส่งให้ชนกลุ่มน้อยดำเนินการเป็นขบวนการ ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอนบางนาย ร่วมขบวนการอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีอยู่ในชั้นศาล
ส่วนช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น อำเภอขุนยวม เป็นช่องทางลำเลียงสินค้าเถื่อนส่งออกไปยังประเทศพม่า ตลอดเส้นทางระยะประมาณ 40 กิโลเมตร มีด่านตำรวจภูธร ทหารพราน อาสาสมัครรักษาดินแดน ด่านเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แต่สินค้าเถื่อนก็สามารถนำออกไปได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ปาเจโร่ที่มีการนำออกไปเมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2547 ที่ผ่านมาอีก 1 คัน
นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จังหวัดได้สั่งการให้นายสุรพล สัตยารักษ์ นายอำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้ติดตามข้าราชการที่เข้าไปร่วมกับแก๊งนำรถจักยานยนต์ส่งออกไปยังประเทศพม่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากด่านศุลกากรแม่ฮ่องสอน ผ่านช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม
โดยให้นำกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอขุนยวม ติดตามพฤติกรรมข้าราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพราะจังหวัดได้รับรายงานว่ามีข้าราชการบางคนเข้าไปร่วมนำรถจักรยานนต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตส่งออกไปยังประเทศพม่า
ดังนั้น จึงขอให้ข้าราชการคนดังกล่าวงเลิกพฤติกรรมดังกล่าว หากยังไม่เลิกจะถูกดำเนินการทางวินัยและคดีอาญาอย่างแน่นอน
แหล่งข่าวชายแดนระบุว่า ช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น อำเภอขุนยวม เป็นช่องทางที่มีการนำรถจักรยานยนต์และรถยนต์ส่งไปจำหน่ายให้กับชนกลุ่มน้อยตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2547 จนถึงปัจจุบันมีรถยนต์ประมาณ 5 คัน รถจักรยานยนต์ประมาณ 20 คัน ถูกส่งออกไปโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร
โดยกลุ่มขบวนการนำรถส่งให้ชนกลุ่มน้อยดำเนินการเป็นขบวนการ ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอนบางนาย ร่วมขบวนการอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีอยู่ในชั้นศาล
ส่วนช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น อำเภอขุนยวม เป็นช่องทางลำเลียงสินค้าเถื่อนส่งออกไปยังประเทศพม่า ตลอดเส้นทางระยะประมาณ 40 กิโลเมตร มีด่านตำรวจภูธร ทหารพราน อาสาสมัครรักษาดินแดน ด่านเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แต่สินค้าเถื่อนก็สามารถนำออกไปได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ปาเจโร่ที่มีการนำออกไปเมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2547 ที่ผ่านมาอีก 1 คัน