นครสวรรค์-4 องค์กร สมาคมขนส่งทางบกมีมตินำข้อมูลส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกยื่น ปปช.ตรวจสอบพฤติกรรมมิชอบเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนพัวพันกับการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการรถบรรทุก เลขาฯสมาคมฯเผยมีข้อมูลและหลักฐานใหม่เข้ามาอีกเพียบ หลัง 2 เดือนสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังปราบไม่ได้ตามที่ได้พูดไว้
นายกำพล เพชรกำแพง เลขานุการสมาคมขนส่งทางบก จังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยถึงการประชุม 4 องค์กร ผู้ประกอบการรถบรรทุกเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาที่สมาคมขนส่งทางบก จังหวัดนครสวรรค์ว่า ได้มีการประชุมเกี่ยวกับระเบียบวาระสำคัญในหัวข้อประชุมคือการดูแลน้ำหนักรถบรรทุก ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา ยังคงพบเห็นรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่อัตรากฎหมายกำหนดมาก ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกหิน-ทราย และรถข้าวเปลือก
ตัวอย่างในท้องที่สำนักทางหลวงที่ 9 (ลพบุรี) ในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม พบว่าเจ้าหน้าที่ยังสามารถดำเนินการจับกุมยานพาหนะบรรทุกน้ำหนักเกินอัตรากฎหมายกำหนด ตาม พ.ร.บ.ทางหลวง 2535 มาตรา 61,73 ได้กว่า 10 ราย โดยสมาคมขนส่งทางบก ได้ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจจับกุมรถบรรทุกที่แบกน้ำหนักเกินในเขตจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สิงห์บุรี ฯลฯ จึงเห็นได้ว่า ยังมีรถบรรทุกละเมิดกฎหมายอยู่ ขณะที่ท้องที่ภาคตะวันตก เช่น จังหวัดนครปฐม ยังปรากฏว่ามี่เจ้าหน้าที่รัฐบางคนเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ ”ส่วยสติกเกอร์" ขณะที่พื้นที่ตั้งแต่จังหวัดพิษณุโลก-พิจิตรลงมา ยังพบเห็นรถแบกน้ำหนักเกินจำนวนมากคือ รถทรายและรถข้าวเปลือก
นายกำพล เพชรกำแพง กล่าวต่อว่า รถบรรทุกที่แบกน้ำหนักเกินไม่ได้น้อยลงในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ซึ่งทางสมาคมขนส่งทางบก มีข้อมูลตามที่ผู้ประกอบการแจ้งเบาะแส ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ขอข้อมูลจากทางสมาคมไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปรยไว้ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือนกว่าที่ผ่านมาว่า จะดำเนินการอย่างจริงจังกับรถบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ปราบปรามส่วยสติกเกอร์ และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเข้าไปพัวพันกับการเรียกรับผลประโยชน์อย่างจริงจัง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้านั้นเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาที่ประชุมสมาคมขนส่งทางบก จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีตัวแทนทั้ง 4 องค์กร ผู้ประกอบการรถบรรทุกเข้าร่วมประชุมด้วยก็ได้มีการนำเอาเรื่องนี้มาหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และขอความเห็นจากที่ประชุมว่าควรจะยื่นให้ ปปช.เข้าไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ประพฤติมิชอบต่อหน้าที่หรือไม่
“ผลการประชุมผลปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยที่จะรวบรวมข้อมูล หลักฐานต่างๆ ยื่นให้กับ ปปช.เข้าไปตรวจสอบในเรื่องนี้ โดยในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ทางสมาคมขนส่งทางบก จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไปยื่นต่อ ปปช.ในทุกพื้นที่ที่มีรถบรรทุกแบกน้ำหนักเกินพิกัดกฎหมายกำหนด และเจ้าหน้าที่รัฐบางคนที่ข้อเกี่ยวการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งเป็นข้อมูลใหม่และได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากทางสมาคมฯเอาจริงกับปัญหาส่วยสติกเกอร์” นายกำพล กล่าว
นายกำพล เพชรกำแพง เลขานุการสมาคมขนส่งทางบก จังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยถึงการประชุม 4 องค์กร ผู้ประกอบการรถบรรทุกเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาที่สมาคมขนส่งทางบก จังหวัดนครสวรรค์ว่า ได้มีการประชุมเกี่ยวกับระเบียบวาระสำคัญในหัวข้อประชุมคือการดูแลน้ำหนักรถบรรทุก ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา ยังคงพบเห็นรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่อัตรากฎหมายกำหนดมาก ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกหิน-ทราย และรถข้าวเปลือก
ตัวอย่างในท้องที่สำนักทางหลวงที่ 9 (ลพบุรี) ในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม พบว่าเจ้าหน้าที่ยังสามารถดำเนินการจับกุมยานพาหนะบรรทุกน้ำหนักเกินอัตรากฎหมายกำหนด ตาม พ.ร.บ.ทางหลวง 2535 มาตรา 61,73 ได้กว่า 10 ราย โดยสมาคมขนส่งทางบก ได้ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจจับกุมรถบรรทุกที่แบกน้ำหนักเกินในเขตจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สิงห์บุรี ฯลฯ จึงเห็นได้ว่า ยังมีรถบรรทุกละเมิดกฎหมายอยู่ ขณะที่ท้องที่ภาคตะวันตก เช่น จังหวัดนครปฐม ยังปรากฏว่ามี่เจ้าหน้าที่รัฐบางคนเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ ”ส่วยสติกเกอร์" ขณะที่พื้นที่ตั้งแต่จังหวัดพิษณุโลก-พิจิตรลงมา ยังพบเห็นรถแบกน้ำหนักเกินจำนวนมากคือ รถทรายและรถข้าวเปลือก
นายกำพล เพชรกำแพง กล่าวต่อว่า รถบรรทุกที่แบกน้ำหนักเกินไม่ได้น้อยลงในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ซึ่งทางสมาคมขนส่งทางบก มีข้อมูลตามที่ผู้ประกอบการแจ้งเบาะแส ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ขอข้อมูลจากทางสมาคมไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปรยไว้ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือนกว่าที่ผ่านมาว่า จะดำเนินการอย่างจริงจังกับรถบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ปราบปรามส่วยสติกเกอร์ และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเข้าไปพัวพันกับการเรียกรับผลประโยชน์อย่างจริงจัง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้านั้นเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาที่ประชุมสมาคมขนส่งทางบก จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีตัวแทนทั้ง 4 องค์กร ผู้ประกอบการรถบรรทุกเข้าร่วมประชุมด้วยก็ได้มีการนำเอาเรื่องนี้มาหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และขอความเห็นจากที่ประชุมว่าควรจะยื่นให้ ปปช.เข้าไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ประพฤติมิชอบต่อหน้าที่หรือไม่
“ผลการประชุมผลปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยที่จะรวบรวมข้อมูล หลักฐานต่างๆ ยื่นให้กับ ปปช.เข้าไปตรวจสอบในเรื่องนี้ โดยในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ทางสมาคมขนส่งทางบก จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไปยื่นต่อ ปปช.ในทุกพื้นที่ที่มีรถบรรทุกแบกน้ำหนักเกินพิกัดกฎหมายกำหนด และเจ้าหน้าที่รัฐบางคนที่ข้อเกี่ยวการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งเป็นข้อมูลใหม่และได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากทางสมาคมฯเอาจริงกับปัญหาส่วยสติกเกอร์” นายกำพล กล่าว