xs
xsm
sm
md
lg

4 องค์กรรถบรรทุกเคลื่อนไหวอีก ขู่ยื่น ปปช.ฟันตำรวจส่วยสติกเกอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูมิภาค-4 องค์กร ผู้ประกอบการรถบรรทุกบุกกรมทางหลวง ขอทราบความคืบหน้าการปราบส่วยสติกเกอร์และกวดขันรถบรรทุกแบกน้ำหนักเกิน หลังจากผู้ช่วย ผบ.ตร.และ ผบก.ทล.ประกาศจะปราบอย่างจริงเมื่อ 2 เดือนก่อน แต่ปรากฏว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม แถมยังพบส่วยสติกเกอร์ระบาดหนักขึ้นอีก เผยผลการเข้าพบล้มเหลว เตรียมนัดประชุมใหญ่ที่นครสวรรค์ กำหนดท่าทีเคลื่อนไหวและยื่นบัญชีตำรวจระดับสารวัตร พร้อมหลักฐานการรับส่วยให้ ปปช.ตรวจสอบ

บ่ายวันนี้ (21 ก.ค.) ตัวแทน 4 องค์กร ผู้ประกอบการรถบรรทุก ประกอบด้วยสมาคมขนส่งทางบก สมาคมรถบรรทุกจังหวัดนครปฐม สมาคมขนส่งสินค้า และสมาคมผู้ประกอบการรถบรรทุกสินค้าภาคอีสาน ได้เข้าพบนายกิติพันธ์ ปานจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กรมทางหลวง และรองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อทวงถามความคืบหน้าการปราบปรามส่วยสติกเกอร์ และรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าอัตรากฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อการประชุมวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ธวัชชัย จุลสุคนธ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบก.ทล.ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมรับทราบปัญหาดังกล่าวร่วมกับ 4 องค์กร ผู้ประกอบการรถบรรทุก ที่สมาคมขนส่งทางบก จ.นครสวรรค์ว่า จะดำเนินการปราบปรามส่วยสติกเกอร์ รถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่อัตรากฎหมายกำหนด และดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนพัวพันกับขบวนการเรียกรับส่วยบนทางหลวงอย่างจริงจังภายใน 2 เดือน

แต่ปรากฏว่าเวลาผ่านพ้นไปแล้วกว่า 2 เดือน แต่ส่วยสติกเกอร์ก็ยังคงระบาดอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ และกลับมีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เช่นเดียวกับรถบรรทุกของผู้ประกอบการบางรายก็ยังคงบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดอยู่เหมือนเดิม ตลอดจนยังไม่มีการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะตำรวจที่เข้าไปมีส่วนพัวพันเรียกรับส่วยบนทางหลวง ส่วยสติกเกอร์

นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ที่ปรึกษาสมาคมขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การที่พวกเราเข้าพบผู้บริหารกรมทางหลวง และผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจทางหลวงครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการทราบความคืบหน้าว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ดำเนินการตามที่ได้ประกาศไว้อย่างจริงแค่ไหน และเราต้องการความชัดเจนว่าทางเจ้าหน้าที่ของรัฐจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หลังจากที่มีส่วยสติกเกอร์กลับมาระบาดอีก อย่างไรก็ตามในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ทั้ง 4 องค์กร จะมีการประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวกันต่อไปที่สมาคมขนส่งทางบก จ.นครสวรรค์ หากไม่ได้รับความชัดเจนในวันนี้

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทน 4 องค์กรดังกล่าวกับรองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง และผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กรมทางหลวง เป็นเพียงแค่การเข้ารับทราบถึงความคืบหน้าในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าทางกรมทางหลวง และตำรวจทางหลวงจะดำเนินการกับปัญหาดังกล่าวต่อไปอย่างไร เนื่องจากไม่มีผู้บริหารระดับสูงที่ตัดสินใจได้เข้าร่วมประชุมด้วย

โดยในระหว่างประชุมตัวแทนทั้ง 4 องค์กรได้รุมตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่มีความตั้งใจทำงาน ไม่ดำเนินการจับกุมอย่างจริงจังตามที่ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ ผบก.ทล.ได้ประกาศเป็นนโยบายไว้เมื่อ 2 เดือนก่อน พร้อมกับตำหนิอย่างรุนแรงว่า ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับส่วยบนทางหลวงอยู่จริง

รายงานข่าวระบุต่อว่า ในการเข้าพบของ 4 องค์กรครั้งนี้ไม่ได้มีการยื่นข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับแหล่งที่มาของส่วยสติกเกอร์ ข้อมูลรถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และรายชื่อของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนพัวพันกับการเรียกรับผลประโยชน์ให้กับรองผุ้บังคับการตำรวจทางหลวง และนายกิติพันธ์ เนื่องจากไม่มั่นใจว่าถ้ายื่นให้แล้วจะมีการดำเนินการได้ จึงได้นำข้อมูลหลักฐานทั้งหมดกลับไปเพื่อรอการประชุมในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ที่สมาคมขนส่งทางบก จ.นครสวรรค์ เพื่อลงมติว่าจะยื่นบัญชีรายชื่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสารวัตร ลงไป พร้อมหลักฐานเกี่ยวกับการเรียกรับส่วยทั้งหมดให้ ปปช.ดำเนินการตรวจสอบเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่

วันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) เวลา 08.30-12.30น.กองทุนสื่อประชาสังคมต้านคอร์รัปชั่น(กองทุน สปต.)จะร่วมกับกับสถาบันไทยคดีศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดเสวนาพิจารณื เรื่อง “การคอร์รัปชั่นในทางหลวง : ปัญหาและทางออก” ที่ห้องประชุม ร.102 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)

สำหรับผู้ร่วมสัมมนาประกอบด้วย ดร.ไพโรจน์ วงศ์วิภานนท์ นักวิจัยอาวุโส มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ดร.สมประสงค์ สัตยมัลลี สาขาวิชาวิศวกรรมขนส่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นายพิศิษฐ์ ลีลาวัชโรภาส ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) พ.ต.อ.สุรพงษ์ พ่วงพงษ์ กรรมการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) และนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ รองบรรณาธิการอำนวยการ นสพ.มติชน
กำลังโหลดความคิดเห็น