11 ธันวาคม 2568 บรรยากาศในรัฐสภาเริ่มคึกคักขึ้นเมื่อ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นางกรุณา ชิดชอบ มารดาของตน นำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้วิพากษ์วิจารณ์ครอบครัวไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยยอมรับว่าเพิ่งทราบเหตุการณ์และรีบสอบถามต้นเรื่องจากคุณแม่ทันที ก่อนเน้นย้ำว่าการดำเนินทุกขั้นตอนจะต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย แม้จะเป็นคนในครอบครัวก็ตาม พร้อมกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ถ้าใจไม่แข็ง ก็ปราบสแกมเมอร์ไม่ได้” เพื่อสะท้อนภารกิจที่ตนและครอบครัวเผชิญมาโดยตลอด
.
รัฐมนตรีดีอีเปิดเผยว่าหลังตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) พบว่า เอกสารที่ถูกเผยแพร่นั้นเป็นข้อมูลที่ผู้รับมอบอำนาจควรมีในกระบวนการแจ้งความดำเนินคดีอยู่แล้ว จึงไม่ถือว่าผิด PDPA เพราะเป็นการจัดการข้อมูลภายใต้กรอบอำนาจชอบธรรม พร้อมระบุว่า สภ.นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ได้ส่งรายงานไปยัง PDPC แล้วว่ามีการดำเนินการภายในเรียบร้อย แต่ตนไม่สามารถแทรกแซงขอบเขตอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้
.
อย่างไรก็ตาม นายไชยชนก ย้ำว่ากระทรวงจะตรวจสอบทุกประเด็นอย่างรอบด้านโดยไม่มีข้อยกเว้น หากกรณีนี้ยังมีมูลความผิดอื่น เช่น หมิ่นประมาท ก็เป็นสิทธิของคู่กรณีที่จะดำเนินตามกฎหมาย ทว่าเขาไม่อยากให้เรื่องลุกลามจนเกิดความเสียหายกับทั้งสองฝ่าย เขายังกล่าวถึงสาเหตุของความขัดแย้งว่าเริ่มจากกระแสกล่าวหาครอบครัวว่าเกี่ยวข้องกับกาสิโนฝั่งกัมพูชา ซึ่งทำให้คุณแม่รู้สึกสะเทือนใจเพราะเห็นการทุ่มเทของ นายเนวิน ชิดชอบ ในการสนับสนุนศูนย์อพยพ รวมถึงการทำงานเชิงรุกของตนในการเปิดโปงขบวนการสแกมเมอร์อย่างจริงจัง
.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการให้กำลังใจผู้เป็นมารดา นายไชยชนก ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งแต่หนักแน่นว่า คุณแม่เป็นห่วงเขามากกว่า และกังวลว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์จะส่งผลต่อการทำงานรัฐมนตรี ลูกชายจึงต้องย้ำอย่างมั่นใจว่าไม่ต้องห่วง เพราะขอบเขตงานทั้งหมดดำเนินไปตามหลักการที่ครอบครัวปลูกฝังมาตลอด คือไม่ใช้อำนาจในทางมิชอบและไม่ยอมให้นามสกุลถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เขาเล่าว่าแม่สอนเสมอให้เดินหน้าอย่างตรงไปตรงมา และโทรมาย้ำอีกครั้งในเช้าวันเกิดเหตุว่าให้ตั้งใจทำงานต่อไปโดยไม่ต้องกังวล
.
เขายังเผยว่าได้สอบถาม ผอ. PDPC ถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการเพิ่มเติม แต่ได้รับคำชี้แจงว่า ด้วยข้อบังคับปัจจุบัน ไม่สามารถดำเนินการมากไปกว่านี้ได้ รัฐมนตรีจึงขอให้เร่งทำทุกส่วนที่กฎหมายเอื้ออำนวย และหากมีการร้องเรียนจากคู่กรณี ก็พร้อมดำเนินตามขั้นตอนโดยไม่ละเว้น ตลอดจนได้ขอให้ PDPC ตรวจสอบเชิงลึกมากกว่ากรณีปกติ เพื่อให้สังคมคลายข้อข้องใจว่าเอกสารรั่วไหลได้อย่างไร
.
เมื่อถูกถามย้ำถึงต้นทางของข้อมูล นายไชยชนกกล่าวเพียงว่าเป็นเอกสารที่ผู้รับมอบอำนาจส่งมาให้สำหรับการดำเนินคดี ซึ่งต้องปล่อยให้การสอบสวนเป็นไปตามขั้นตอนของตำรวจ แต่ยืนยันว่าทุกฝ่ายจะต้องเคารพกฎหมายอย่างครบถ้วน
.
รัฐมนตรีดีอี ยังระบุว่าตลอดเวลาที่ครอบครัวเกี่ยวข้องกับทั้งการเมืองและฟุตบอล มักเผชิญการโจมตีบนโซเชียลเป็นเรื่องปกติ แต่ครั้งนี้กระทบกับเขาโดยตรงจึงต้องออกมาชี้แจง และบอกแม่ว่า หากเรื่องใดส่งผลกระทบจริง ทั้งครอบครัวก็พร้อมรับผิดชอบร่วมกัน เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน
.
ท้ายที่สุด นายไชยชนก ย้ำอีกครั้งว่ากรณีนี้ไม่เข้าข่ายผิด PDPA เนื่องจากมีการมอบอำนาจอย่างถูกต้องและมิได้เผยแพร่เพื่วัอตถุประสงค์สาธารณะ แต่เป็นการใช้ข้อมูลในกรอบส่วนตัวเพื่อการดำเนินคดี พร้อมให้คำมั่นว่าหน่วยงานรัฐจะทำงานอย่างโปร่งใส และตรวจสอบทุกมิติเพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏชัดเจนที่สุด


