MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา กล่าวว่ากัมพูชายึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงกับไทยด้วยความจริงใจและด้วยเจตนาดี โดยเน้นย้ำว่าประเทศที่ได้รับบาดเจ็บจากความขัดแย้งหลายศตวรรษและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยเขมรแดง ไม่มีความปรารถนาที่จะกลับสู่สงครามอีก
ในการกล่าวปราศรัยต่อประชาชน ฮุน มาเนต กล่าวว่ากัมพูชาเข้าใจถึงคุณค่าที่แท้จริงของสันติภาพ หลังจากต้องทนทุกข์จากสงครามที่ยืดเยื้อและการสังหารหมู่ และจะให้ความสำคัญกับการปกป้องชีวิตมนุษย์ และการพัฒนาประเทศเหนือสิ่งอื่นใด
คำกล่าวของผู้นำกัมพูชาครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากกัมพูชาและไทยได้ตกลงที่จะหยุดยิงทันที ที่มีผลบังคับใช้ในเวลาเที่ยงวันของวันที่ 27 ธ.ค. หลังจากมีการสู้รบหลายวันตามแนวชายแดนที่มีข้อพิพาท ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบและรักษากำลังทหารตามตำแหน่งขณะที่เริ่มการหยุดยิง
ฮุน มาเนต ยังปฏิเสธต่อคำกล่าวที่ระบุว่าการหยุดยิงเป็นการแสดงถึงความอ่อนแอหรือการยอมเสียดินแดน โดยกล่าวว่ากัมพูชายังคงมีสิทธิในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ และมีสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ เขาอธิบายว่าการตัดสินใจดังกล่าวเป็นการเลือกโดยเจตนาที่จะป้องกันการนองเลือดและความทุกข์ทรมานเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่พลเรือน
ผู้นำกัมพูชากล่าวว่าประชาชนกว่าครึ่งล้านต้องพลัดถิ่นจากการสู้รบในกัมพูชา เด็กหลายพันคนต้องออกจากโรงเรียน และพลเรือนหลายสิบคนเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ
“ถึงแม้เราจะสามารถต่อสู้ต่อไปได้ แต่ในฐานะประเทศเล็กๆ เราจะไม่ได้อะไรนอกจากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ” ฮุน มาเนต กล่าว พร้อมเสริมว่าการเจรจาเป็นหนทางเดียว
เขาเสริมว่าการคงกำลังทหารในปัจจุบันภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถานะทางกฎหมายของพรมแดนกัมพูชา-ไทย ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้สนธิสัญญาและอนุสัญญาที่มีอยู่ เขากล่าวอ้างว่าประเด็นนี้ระบุไว้อย่างชัดเจนในคำแถลงร่วมของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.
เขาระบุว่า ทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะกลับมาดำเนินการสำรวจและปักปันเขตแดนอีกครั้งผ่านคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง
เขาเสริมว่าข้อตกลงหยุดยิงยังเปิดทางให้ผู้พลัดถิ่นสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
ฮุน มาเนต กล่าวว่าเขาได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เตรียมสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์สำหรับการกลับสู่ถิ่นฐาน ขณะเดียวกันยังกล่าวถึงทหารกัมพูชา 18 นาย ที่จะได้รับการปล่อยตัวหลังจากการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมงครบถ้วนสมบูรณ์
ฮุน มาเนต ยังกล่าวขอบคุณประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ จีน และประเทศสมาชิกอาเซียน ภายใต้การเป็นประธานของมาเลเซีย ที่ให้การสนับสนุนกระบวนการหยุดยิง
เขากล่าวว่ากัมพูชายินดีรับผู้สังเกตการณ์จากอาเซียนเพื่อตรวจสอบและรับรองการปฏิบัติตามข้อตกลง
“ประสบการณ์ขมขื่นของกัมพูชากับสงครามได้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าความขัดแย้งไม่สามารถยุติลงได้ด้วยการทำสงคราม มีเพียงการเลือกใช้ทางออกที่สันติและสอดคล้องตามกฎหมาย และความเข้าใจซึ่งกันและกันเท่านั้น ที่จะยุติสงครามและป้องกันการสูญเสียชีวิต ความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมานของประชาชนของเรา” ฮุน มาเนต กล่าว.


