เอเอฟพี - ชาวพม่าที่มีสิทธิเลือกตั้งทยอยเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้งที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดในวันอาทิตย์ (28) โดยรัฐบาลทหารที่ปกครองประเทศระบุว่าการเลือกตั้งนี้เป็นการกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยหลังจากที่โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีก่อน ที่จุดชนวนสงครามกลางเมือง
อองซานซูจี อดีตผู้นำพลเรือนยังคงถูกจำคุก ขณะที่พรรคการเมืองของเธอที่ได้รับความนิยมอย่างมากถูกยุบพรรค และไม่ได้เข้าร่วมการเลือกตั้งครั้งนี้
นักรณรงค์ นักการทูตตะวันตก และหัวหน้าหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติต่างประณามการเลือกตั้งที่จัดขึ้นเป็นระยะๆ ตลอดหนึ่งเดือนนี้ โดยอ้างว่าบัตรลงคะแนนเสียงเต็มไปด้วยรายชื่อพันธมิตรทางทหาร และมีการปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างกว้างขวาง
พรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) ที่สนับสนุนกองทัพถูกคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่าเป็นการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของการปกครองของทหาร
“เรารับประกันว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม” พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำคณะรัฐบาลทหาร กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงเนปีดอ ที่เขาไปใช้สิทธิเลือกตั้งหลังจากหน่วยเลือกตั้งเปิดในเวลา 6.00 น.
“กองทัพเป็นผู้จัดการเลือกตั้ง เราจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงของเราเสื่อมเสียได้” พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าว
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ที่มีประชากรประมาณ 50 ล้านคน กำลังเผชิญกับสงครามกลางเมืองและจะไม่มีการเลือกตั้งในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มกบฎติดอาวุธที่ลุกฮือต่อต้านการปกครองของกองทัพ
ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2563 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่อแถวยาวเหยียดอยู่นอกหน่วย ที่กองทัพได้ประกาศให้เป็นโมฆะในอีกไม่กี่เดือนต่อมาหลังจากโค่นล้มอองซานซูจีและเข้ายึดอำนาจ
แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ นักข่าวและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งมีจำนวนมากกว่าผู้มาใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งกลางเมืองย่างกุ้ง ใกล้กับเจดีย์สุเล ที่เป็นสถานที่จัดการชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่หลังการรัฐประหาร
ส่วย มอว์ อายุ 45 ปี ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ออกมาใช้สิทธิในรอบแรกจากทั้งหมด 3 รอบ ปฏิเสธคำวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ
“มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ มันมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบเสมอ” ส่วย มอว์ กล่าว
ที่หน่วยเลือกตั้งอีกแห่งหนึ่งใกล้กับบ้านของอองซานซูจี โบ ซอ ผู้มาใช้สิทธิคนแรกกล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมากและจะนำสิ่งที่ดีที่สุดมาสู่ประเทศ
“สิ่งสำคัญอันดับแรกควรเป็นการฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับมาปลอดภัยและสงบสุข” ชายวัย 63 ปี กล่าวกับเอเอฟพี
แต่โดยรวมแล้วมีผู้มาใช้สิทธิเพียงประมาณ 100 คนเท่านั้น ใน 2 หน่วยเลือกตั้งในชั่วโมงแรกของการเปิดคูหาตามการนับของเอเอฟพี
ช่วงก่อนการเลือกตั้ง ไม่มีการชุมนุมอย่างคึกคักเหมือนที่อองซานซูจีเคยทำ และรัฐบาลทหารได้ทำการโจมตีอย่างหนักก่อนการเลือกตั้งเพื่อยึดคืนดินแดน
“ผมไม่คิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศนี้ได้” มาน ถิต อายุ 23 ปี ที่พลัดถิ่นจากความขัดแย้งหลังการรัฐประหาร กล่าว
“ผมคิดว่าการโจมตีทางอากาศและการกระทำโหดร้ายต่อบ้านเกิดของเราจะยังคงดำเนินต่อไปแม้หลังการเลือกตั้ง” มาน ถิต กล่าวในเมืองเปกอน รัฐชาน พื้นที่ที่กลุ่มติดอาวุธควบคุมอยู่
กองทัพปกครองพม่าเป็นส่วนใหญ่ในประวัติศาสตร์หลังได้รับเอกราช ก่อนที่จะมีช่วงเวลา 10 ปี ที่รัฐบาลพลเรือนเข้ามาบริหารประเทศด้วยความหวังและการปฏิรูป
แต่หลังจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของอองซานซูจีเอาชนะฝ่ายตรงข้ามที่สนับสนุนกองทัพในการเลือกตั้งปี 2563 พล.อ.อาวุโม มิน อ่อง หล่ายก็ยึดอำนาจด้วยการรัฐประหาร โดยกล่าวหาว่ามีการโกลเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง
ขณะที่กองทัพปราบปรามการชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย นักเคลื่อนไหวจำนวนมากได้ออกจากเมืองไปต่อสู้ในฐานะกองโจรเคียงข้างกองกำลังชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ที่มีอิทธิพลอยู่ตามพื้นที่ชายขอบของประเทศ
ขณะเดียวกันอองซานซูจีกำลังรับโทษจำคุก 27 ปี จากข้อหาต่างๆ ที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนมองว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง
“ผมไม่คิดว่าเธอจะมองว่าการเลือกตั้งนี้มีความหมาย” คิม อาริส ลูกชายของซูจี กล่าวจากบ้านของเขาในอังกฤษ
พรรคการเมืองส่วนใหญ่จากการเลือกตั้งปี 2563 รวมถึงพรรคของซูจีถูกยุบไปแล้ว
เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (Asian Network for Free Elections) ระบุว่า 90% ของที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งก่อนเป็นของพรรคที่ไม่มีชื่ออยู่ในบัตรเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้
เครื่องลงคะแนนเสียงอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่จะไม่อนุญาตให้มีการเขียนชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำบัตรเสีย
รัฐบาลทหารกำลังดำเนินคดีกับบุคคลมากกว่า 200 คนในข้อหาละเมิดกฎหมายที่ห้ามการขัดขวางการเลือกตั้ง รวมถึงการประท้วงหรือการวิพากษ์วิจารณ์
“การเลือกตั้งเหล่านี้เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมของความรุนแรงและการปราบปรามอย่างชัดเจน” โวลเคอร์ เติร์ก ข้อหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน
การเลือกตั้งรอบที่ 2 จะเกิดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ก่อนรอบที่ 3 และการเลือกตั้งรอบสุดท้ายจัดขึ้นในวันที่ 25 ม.ค. แต่รัฐบาลทหารยอมรับว่าการเลือกตั้งไม่สามารถเกิดขึ้นในเขตเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรเกือบ 1 ใน 5.


