MGR ออนไลน์ - พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ออกแถลงข่าวยืนยันอีกครั้งว่า กองกำลังทหารของกัมพูชายังคงยืนหยักอย่างแข็งแกร่ง กล้าหาญ และแน่วแน่ในการเผชิญหน้ากับการรุกราน ขณะเดียวกันก็เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา
“กัมพูชาจะไม่ยอมจำนนต่อการบีบบังคับหรือการข่มขู่ในรูปแบบใดก็ตาม” พล.ท.หญิง มาลี กล่าวย้ำในการแถลงข่าวช่วงบ่ายวันนี้ (14)
โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชารายนี้ยังกล่าวว่า กองกำลังทหารของไทยยังคงรุกรานกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยระบุอ้างว่าฝ่ายไทยเพิ่มการใช้ระเบิดลูกปราย ปืนใหญ่ และการยิงแก๊สพิษ รวมถึงการทิ้งระเบิดด้วยโดรน ในพื้นที่เขตภูมิภาคทหารที่ 4 และที่ 5 ของกัมพูชา
“กัมพูชาเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศประณามอย่างรุนแรงต่อการละเมิดปฏิญญาร่วมของไทย รวมถึงการก่ออาชญากรรมสงครามและการกระทำที่ผิดกฎหมายซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเรียกร้องให้ไทยรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการละเมิดอย่างโจ่งแจ้งเหล่านี้” พล.ท.หญิง มาลี กล่าว
พล.ท.หญิงมาลี ยังเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรมที่ไม่เป็นมิตรทั้งหมดโดยทันที ถอนกำลังทหารออกจากดินแดนกัมพูชา และงดเว้นจากการรุกรานหรือการกระทำก้าวร้าวใดๆ ที่คุกคามสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
กัมพูชากล่าวอ้างว่านับตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. กองทัพไทยได้กลับมาโจมตีดินแดนกัมพูชาอีกครั้งและขยายปฏิบัติการไปยังหลายพื้นที่ในจ.พระวิหาร จ.บันเตียเมียนเจย จ.อุดรมีชัย จ.พระตะบอง และจ.โพธิสัตว์ นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่าปฏิบัติการโจมตีของไทยที่รวมถึงการใช้อาวุธหนัก เครื่องบินขับไล่ F-16 และแก๊สพิษ ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต บ้านเรือน วัด และสถานพยาบาลได้รับความเสียหาย โรงเรียนหลายร้อยแห่งต้องปิดชั่วคราว และทำให้พลเรือนต้องพลัดถิ่นหลายแสนคน
กัมพูชาระบุว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองจากการละเมิดบูรณภาพดินแดนซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากอดทนอดกลั้นมานานกว่า 24 ชั่วโมง.