เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ในมาเลเซียและไทยได้กู้ร่างผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 ราย ขณะค้นหาผู้รอดชีวิตหลังจากเรือที่บรรทุกผู้อพยพผิดกฎหมายล่มลงกลางทะเล ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทางทะเลระบุวันนี้ (10)
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าเรือลำเกิดเหตุกำลังบรรทุกผู้อพยพประมาณ 70 คน ที่หลายคนเชื่อว่ามาจากชุมชนชาวโรฮิงญาของพม่า ที่กำลังพยายามเดินทางไปยังมาเลเซีย ขณะที่เรือล่มใกล้เกาะตะรุเตาของไทยเมื่อ 4 วันก่อน
ตำรวจกล่าวว่า เชื่อว่าคนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนกว่า 300 คน ที่แยกตัวออกมาจากเรืออย่างน้อย 2 ลำ
เกาะตะรุเตาตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะลังกาวีของมาเลเซีย ที่เจ้าหน้าที่กล่าวว่าปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น
ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเลแห่งมาเลเซียในรัฐเกดะห์และรัฐปะลิส กล่าวว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยกู้ร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย ที่ทั้งหมดถูกระบุว่าเป็นชาวโรฮิงญา
“เจ้าหน้าที่ไทยกำลังดำเนินการค้นหาและกู้ภัย และพบร่างผู้เสียชีวิต 6 ราย” เจ้าหน้าที่มาเลเซียกล่าว และคาดการณ์ว่ากระแสน้ำจะพัดเหยื่อลงใต้เข้ามาในน่านน้ำมาเลเซียมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีในลังกาวีระบุว่าเห็นศพอย่างน้อย 2 ศพ ถูกนำขึ้นฝั่งในวันนี้ แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนในทันทีว่าศพเหล่านี้รวมอยู่ในจำนวนผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้หรือไม่
เจ้าหน้าที่มาเลเซียกล่าวว่า เรืออย่างน้อย 12 ลำ กำลังค้นหาผู้รอดชีวิตในพื้นที่ประมาณ 250 ตารางไมล์ทะเล หรือมีขนาดเทียบเคียงกับสิงคโปร์
“เราจะขยายพื้นที่ค้นหาต่อไป” เจ้าหน้าที่มาเลเซีย กล่าว
ตำรวจกล่าวว่ามีผู้รอดชีวิตอย่างน้อย 13 คน ทั้งหมดเป็นชาวโรฮิงญาและบังกลาเทศ
ตำรวจเชื่อว่ากลุ่มผู้อพยพประมาณ 300 คน เริ่มต้นการเดินทางจากพม่าเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และเรือลำที่ 2 ที่ออกจากพม่าก็ถูกรายงานว่าสูญหายเช่นกัน
มาเลเซียเป็นที่อยู่อาศัยของผู้อพยพหลายล้านคนจากภูมิภาคที่ยากจนของเอเชีย ที่หลายคนไม่มีเอกสารเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย และทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่รวมทั้งการก่อสร้างและเกษตรกรรม
อย่างไรก็ตาม การข้ามพรมแดนที่ดำเนินการโดยกลุ่มค้ามนุษย์นั้นอันตรายและมักนำไปสู่เหตุการณ์เรือพลิกคว่ำเนื่องจากน้ำหนักเกิน สื่อมาเลเซียรายงานว่าเครือข่ายค้ามนุษย์มักคิดค่าเดินทางสูงถึง 3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน.


