เอเอฟพี - พรรคการเมืองที่ได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมการเลือกตั้งที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลทหารของพม่าเริ่มหาเสียงในวันนี้ (28) สองเดือนก่อนการเลือกตั้งที่ถูกเมินเฉยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากมองว่าเป็นแผนการสร้างความชอบธรรมให้กับการปกครองของทหาร
พม่าเผชิญกับสงครามกลางเมืองนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจจากการรัฐประหารในปี 2564 ที่โค่นล้มและจำคุกอองซานซูจี ผู้นำประชาธิปไตย หลังจากพรรคของเธอชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น
รัฐบาลทหารเสียการควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศให้กับกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนประชาธิปไตยและกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ที่มีอำนาจ แต่รัฐบาลทหารชูว่าการเลือกตั้งเป็นหนทางสู่การปรองดอง
กลุ่มติดอาวุธได้ให้คำมั่นว่าจะคว่ำบาตรการเลือกตั้งในพื้นที่ที่พวกเขาควบคุม ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติประณามเงื่อนไขที่เข้มงวดของการเลือกตั้งในพื้นที่ที่รัฐบาลทหารยึดครอง
“การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีความหมายอะไรสำหรับผม มันไม่ใช่การเลือกตั้งที่แท้จริง และผมไม่เห็นว่าจะมีใครสนับสนุนการเลือกตั้งครั้งนี้” ชายวัย 60 ปีคนหนึ่งในเมืองสิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ กล่าว
“ผู้คนกำลังดิ้นรนกับปัญหาของตัวเอง” เขากล่าวเสริม โดยขอไม่เปิดเผยชื่อด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยในภูมิภาคที่การสู้รบก่อให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม
“ผมเห็นคนขอทานในเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนกำลังอดอยาก ไม่มีงานทำ การเลือกตั้งเลยดูเป็นเรื่องไกลตัว พวกเขาไม่มีเวลาที่จะสนใจเรื่องนี้” ชาวเมืองสิตตะเว กล่าว
การเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมือง 57 พรรคเข้าร่วม โดยการเลือกตั้งจะแบ่งเป็นระยะที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของซูจี ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ไม่ได้ร่วมลงเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลทหารได้ยุบพรรคหลังจากจำคุกซูจี และกล่าวหาว่าเธอทุจริตการเลือกตั้งโดยไม่มีหลักฐานยืนยัน
พรรคสหสามัคคีและการพัฒนาที่สนับสนุนกองทัพวางแผนที่จะเริ่มหาเสียงด้วยการเปิดตัวป้ายเลือกตั้งในกรุงเนปีดอ ขณะที่การโฆษณาพรรคจะออกอากาศทางสื่อของรัฐในช่วงค่ำ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการรณรงค์หาเสียงจะเป็นไปอย่างเงียบๆ และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดท่ามกลางสงครามกลางเมือง
“ผมคงไม่ไปลงคะแนนเสียง และผมไม่รู้ว่าผมอยู่ในรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือเปล่า” พลเรือนคนหนึ่งที่พลัดถิ่นจากการสู้รบไปยังเมืองมัณฑะเลย์ กล่าว
“เราไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้ เราแค่อยากกลับบ้าน” พลเรือนคนเดิม กล่าว
แหล่งข่าวทางการทูตเผยเมื่อวันจันทร์ว่าสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จะไม่ส่งผู้สังเกตการณ์ไปร่วมการเลือกตั้ง
กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มได้ล็อบบี้กลุ่มประเทศสมาชิก 11 ประเทศให้ระงับการส่งผู้สังเกตการณ์ ด้วยเกรงว่าจะเป็นการทำให้การเลือกตั้งของพม่าครั้งนี้มีความชอบธรรม ซึ่งพวกเขากล่าวว่ามีข้อบกพร่องอย่างร้ายแรง
รัฐบาลทหารได้ออกกฎหมายลงโทษผู้ที่ประท้วงต่อต้านการเลือกตั้งด้วยโทษจำคุกสุงสุด 10 ปี และกฎหมายอาชญากรรมไซเบอร์ฉบับใหม่ควบคุมการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต
รัฐบาลทหารยอมรับว่าการเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้นใน 1 ใน 7 เขตเลือกตั้งของรัฐสภา ที่หลายแห่งเป็นเขตสงคราม ขณะที่กฎอัยการศึกยังคงมีผลบังคับใช้ใน 1 ใน 5 ของตำบลทั้งหมดของประเทศ.


