MGR ออนไลน์ - กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ออกคำแถลงชี้แจงเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์เหนือหมู่บ้านหนองจาน หรือที่ฝ่ายกัมพูชาระบุว่าเป็นบ้านโชคชัย ที่เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่ชาวบ้านกัมพูชากำลังเผชิญกับการถูกขับไล่ และยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยที่ระบุว่ากัมพูชารุกล้ำดินแดน
พล.ท. เชง คุน รองอธิบดีกรมภูมิศาสตร์ กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุว่าไทยบิดเบือนเอกสาร แผนที่ และผังเมือง ในลักษณะที่บิดเบือนข้อเท็จจริงและสร้างความเข้าใจผิดต่อผู้ฟังทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“เส้นสีแดงและสีน้ำเงินที่ปรากฎบนแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมของไทย ไม่ใช่เส้นแบ่งเขตอย่างเป็นทางการที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ เป็นเพียงเส้นเชื่อมต่อที่ฝ่ายไทยวาดขึ้นฝ่ายเดียว ไม่ผ่านกระบวนการอย่างเป็นทางการ และถูกใช้เพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและเรียกร้องให้กัมพูชายอมรับว่าเป็นเส้นแบ่งเขตแดนที่ตกลงร่วมกัน” พล.ท.เชง คุน กล่าว
คำแถลงระบุว่า แผนผังที่ทางการไทยนำเสนอที่มีลายเซ็นของหัวหน้าคณะสำรวจกัมพูชาและไทย มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อบันทึกตำแหน่งของหลักเขตที่ปักไว้ในช่วงยุคอาณานิคมของฝรั่งเศสเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อกำหนดหรือยืนยันเส้นแบ่งเขตแดนอย่างเป็นทางการ
กระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่าการสืบสวนโดยคณะทำงานท้องถิ่นได้เผยให้เห็นการรุกล้ำของพลเมืองไทย และการก่อสร้างถนนไทยภายในดินแดนกัมพูชาระหว่างหลักเขตที่ 44 และ 47
“นอกจากนี้ ผมต้องย้ำว่าในอดีต กองทัพไทยและหน่วยงานระดับจังหวัดของไทยได้เลือกใช้แผนที่ฝ่ายเดียวในการอ้างสิทธิ์ โดยแสดงเฉพาะพื้นที่ที่อ้างว่าชาวกัมพูชารุกล้ำเข้าไปในดินแดนไทย โดยไม่แสดงพื้นที่ที่พลเมืองและทหารไทยรุกล้ำเข้ามาในดินแดนกัมพูชา” พล.ท.เชง คุน กล่าว
กระทรวงกลาโหมยืนยันว่ากัมพูชาเคารพกฎหมายระหว่างประเทศและมุ่งมั่นที่จะแก้ไขข้อพิพาทชายแดนโดยสันติผ่านคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ภายใต้ MOU 2000 และ TOR 2003 และกระทรวงฯ ยังเรียกร้องให้ไทยหยุดการใช้แผนที่ที่ไม่เป็นทางการหรือแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมที่มีเส้นแบ่งเขตแดนฝ่ายเดียว และให้ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อวันที่ 10 ก.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยังย้ำว่ากัมพูชาไม่มีเจตตาอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนของไทย และยังคงยึดมั่นในอำนาจอธิปไตยอย่างเคร่งครัดตามแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ที่จัดทำขึ้นตามอนุสัญญาฉบับปี 1904 และสนธิสัญญาฉบับปี 1907.