MGR ออนไลน์ - สำนักข่าวพนมเปญโพสต์รายงานว่า สำนักข่าวเดอะ ซันเดย์ การ์เดียน (The Sunday Guardian) ของอินเดีย ได้รับเอกสารภายในที่หลุดออกมาซึ่งเผยให้เห็นถึงความพยายามร่วมกันระหว่างบุคคลของฝ่ายค้านกัมพูชาที่ลี้ภัยในต่างประเทศและกลุ่มเสื้อเหลืองของไทย ที่จะบ่อนทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลกัมพูชาที่นำโดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต
สำนักข่าวที่มีสำนักงานอยู่ในอินเดียรายงานว่าเอกสารที่ไม่ได้รับการยืนยันฉบับดังกล่าว ที่ถูกแชร์โดยไม่ระบุตัวตนในช่วงเดือนที่ผ่านมา รวมถึงอีเมลลงวันที่ 15 มิ.ย. 2568 ซึ่งอ้างว่าเป็นอีเมลจาก มู สุจัว อดีตรองประธานพรรคฝ่ายค้านที่เวลานี้ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ส่งถึงเอม พิเสธ ผู้นำเครือข่ายเยาวชนกัมพูชาสากล ที่ประจำอยู่ในไทย
สำนักข่าวของอินเดียระบุว่าเอกสารที่แนบมาเป็น “แผนปฏิบัติการทวิภาคีและคำสั่งของประธาน” ที่ระบุถึงกลยุทธ์ในการปลุกปั่นความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่พิพาท เช่น ตาเมือนธม และสามเหลี่ยมพระวิหาร
รายงานระบุว่าแผนดังกล่าวมอบหมายให้ “เสื้อเหลือง” ของไทยระดมกำลังเพื่อรับมือกับความไม่สงบตามแนวชายแดน ฝึกการเผชิญหน้าความรุนแรง การชุมนุมประท้วงอย่างสันติ และสงครามข้อมูลข่าวสาร
ในฝั่งกัมพูชา สมาชิกฝ่ายค้านดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่การเสริมเครือข่ายรากหญ้าเพื่อท้าท้ายพรรคประชาชนกัมพูชาที่เป็นพรรครัฐบาล และใช้ประโยชน์จากข้อพิพาทดินแดนเพื่อบ่อนทำลายความชอบธรรมของตระกูลฮุน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการโค่นล้มรัฐบาล เอกสารยังเรียกร้องให้มีการจัดตั้งฐานปฏิบัติการในไทยและเตรียมการริเริ่มการฝึก
อีเมลที่หลุดออกมาระบุถึงแผนที่จะเปลี่ยนข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ให้กลายเป็นความท้าทายด้านความชอบธรรมต่อการปกครองของครอบครัวฮุนเซน โดยมีเป้าหมายเพื่อโค่นล้มในท้ายที่สุด สื่อของอินเดียระบุ
ก่อนเกิดความขัดแย้งทางอาวุธ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้เตือนถึงวาทกรรมชาตินิยมสุดโต่งจากนักการเมืองฝ่ายค้านในต่างประเทศ โดยเอกสารที่หลุดออกมาสอดคล้องกับข้อกังวลของเขา โดยชี้ให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่จงใจยกระดับข้อพิพาทดินแดน รายงานของสื่ออินเดียระบุ
อย่างไรก็ตาม เดอะ ซันเดย์ การ์เดียน ระบุว่าความถูกต้องของเอกสารยังไม่ได้รับการยืนยัน และแหล่งที่มายังไม่มีการเปิดเผย สิ่งนี้เน้นย้ำถึงปฏิสัมพันธ์ซับซ้อนระหว่างความรู้สึกชาตินิยมและกิจกรรมของฝ่ายค้านที่ลี้ภัยในความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทย ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความมั่นคงของภูมิภาค หากข้อกล่าวหาดังกล่าวได้รับการพิสูจน์ยืนยัน
ทั้งนี้ มู สุจัว ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยกล่าวว่าเธอไม่ได้แบ่งปันเอกสารใดๆ กับเอม พิเสธ
“ฉันตรวจสอบอีเมลที่ส่งออกแล้ว ไม่มีอีเมลฉบับใดส่งถึงเอม พิเสธ แล้วฉันยังได้ตรวจสอบเอกสารของฉันด้วย ไม่มีเอกสารแบบนี้อยู่ในบันทึกของฉัน ฉันยืนยันได้ว่าอีเมลไม่ได้มาจากฉัน” มู สุจัว กล่าว
“อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ฉันไม่มีอีเมลของบุคคลนี้ และฉันไม่มีเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่คุณให้มา ฉันถือว่าเอกสารที่แนบมานั้นเป็นเอกสารที่ถูกกุขึ้น” มู สุจัว กล่าวเสริม.