MGR ออนไลน์ - เจ้าหน้าที่ในจ.กว๋างนีง ทางตอนเหนือของเวียดนาม ได้สั่งระงับการให้บริการเรือท่องเที่ยวทั้งหมดในอ่าวฮาลองเป็นการชั่วคราว รวมถึงเรือโดยสารที่ให้บริการระหว่างเกาะต่างๆ ในอ่าว เพื่อเตรียมรับมือกับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นวิภา
หน่วยงานกำกับดูแลและบริหารจัดการท่าเรือภายในประเทศ และสำนักทะเบียนยานพาหนะทางน้ำในสังกัดกรมการก่อสร้างจ.กว๋างนีง ได้ออกคำสั่งวันนี้ (20) ที่มีผลบังคับใช้ทันที ระงับการออกใบอนุญาตสำหรับเรือเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ลูกเรือ และเรือ ท่ามกลางสภาพอากาศที่อาจเป็นอันตราย
ส่วนเรือที่กำลังเดินทางกลับเข้าฝั่งเพื่อส่งผู้โดยสารขึ้นฝั่งยังคงได้รับอนุญาตให้ดำเนินการต่อ และเจ้าหน้าที่ได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์สภาพอากาศอย่างใกล้ชิดผ่านศูนย์พยากรณ์อุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาแห่งชาติ
เจ้าหน้าที่ท่าเรือได้รับคำสั่งให้แจ้งเจ้าของเรือ ผู้ประกอบการท่าเรือ และกัปตันเรือโดยทันที เพื่อให้สามารถดำเนินมาตรการความปลอดภัยเชิงรุก ซึ่งคำสั่งนี้ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการไม่ประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากพายุต่ำเกินไป
ขณะที่พายุกำลังมุ่งมาที่เวียดนาม เรือท่องเที่ยวหลายลำในอ่าวเริ่มดำเนินการตามแผนการเตรียมความพร้อมรับมือพายุแล้ว
คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากเกิดอุบัติเหตุในอ่าวฮาลองเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันเสาร์ ที่พายุฝนกระโชกแรงทำให้เรือท่องเที่ยวพลิกคว่ำ ส่งผลให้มีผู้โดยสารเสียชีวิตแล้ว 35 คน และยังสูญหายอีก 4 คน ณ บ่ายวันอาทิตย์
อย่างไรก็ตาม พายุฝนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเรือล่มครั้งร้ายแรงนี้ รวมถึงพายุลูกอื่นๆ ที่พัดถล่มจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศในวันเดียวกันนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับพายุไต้ฝุ่นวิภา ตามการระบุของนักอุตุนิยมวิทยา
เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันอาทิตย์ พายุไต้ฝุ่นวิภาเคลื่อนตัวอยู่ในทะเลจีนใต้ ห่างจากชายฝั่งจ.กว๋างนีง-ไฮฟอง ราว 630 กิโลเมตร ด้วยความเร็วลมสูงสุด 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีลมกระโชกแรงถึง 183 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามการระบุของศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติ
พายุกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 20-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยในวันจันทร์ ก่อนที่จะมุ่งหน้าทางตะวันตก-ตะวันตกเฉียงใต้ เข้าสู่พื้นที่ภาคเหนือของเวียดนาม.