เอเอฟพี - รัฐบาลกัมพูชาเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีวันนี้ (18) ว่า จำนวนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมในการปราบปรามศูนย์หลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตของกัมพูชาเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 รายแล้ว
สหประชาชาติระบุว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์กลางของศูนย์อาชญากรรมทางไซเบอร์ ที่บรรดาสแกมเมอร์มักใช้กลวิธีหลอกให้รักหรือหลอกทำธุรกิจเพื่อฉ้อโกงเงินจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ที่คิดเป็นมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ออกคำสั่งในสัปดาห์นี้ให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและกองทัพเข้าปราบปรามแหล่งหลอกลวงออนไลน์ และเตือนว่าหากพวกเขาละเลยเพิกเฉยอาจถูกไล่ออก
เนธ เพียกตรา รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศ และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการปราบปรามการหลอกหลวงทางออนไลน์ กล่าวกับเอเอฟพีว่าเจ้าหน้าที่ได้ขยายขอบเขตการบุกจับไปยัง 9 จังหวัด จาก 25 จังหวัดของประเทศ
“จนถึงขณะนี้ มีผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมแล้วประมาณ 2,000 คน” เนธ เพียกตรา กล่าว พร้อมเสริมว่าผู้ต้องสงสัยยเหล่านี้ ประกอบด้วยชาวจีน เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย
เนธ เพียกตรา กล่าวว่ารัฐบาลต้องการทำให้ประเทศนี้ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยสำหรับสแกมเมอร์อีกต่อไป และจะรื้อถอนเครือข่ายหลอกลวงทุกเครือข่ายไม่ว่าพวกเขาจะหลบซ่อนอยู่ที่ใดก็ตาม
รายงานของตำรวจระบุว่าในบรรดาผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว เป็นชาวจีนอย่างน้อย 226 คน และหัวหน้าแก๊งบางคนจะถูกดำเนินคดีในกัมพูชา ขณะที่ส่วนใหญ่จะถูกเนรเทศ
กระทรวงยุติธรรมระบุว่าได้สั่งพักงานอัยการคนหนึ่งเพื่อรอการสืบสวนหลังอัยการรายนี้ได้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยก่ออาชญากรรมไซเบอร์หลายคน
องค์การนิรโทษกรรมสากลระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วว่าการละเมิดในศูนย์หลอกลวงของกัมพูชากำลังเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง และรายงานยังระบุว่ามีศูนย์หลอกลวงอย่างน้อย 53 แห่งในกัมพูชา ที่กลุ่มอาชญากรกระทำการค้ามนุษย์ บังคับใช้แรงงาน แรงงานเด็ก การทรมาน การพรากอิสรภาพ และการใช้งานเยี่ยงทาส
ผู้ที่ได้รับอิสรภาพจากศูนย์หลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายคนกล่าวว่าพวกเขาถูกค้ามนุษย์หรือถูกลวงไปที่นั่นด้วยคำกล่าวอ้างเท็จ
ในเดือนมี.ค. กัมพูชาได้เนรเทศคนไทย 119 คน จากกลุ่มชาวต่างชาติ 230 คน ที่ถูกควบคุมตัวระหว่างการบุกตรวจค้นศูนย์หลอกลวงทางไซเบอร์ต้องสงสัยในเมืองปอยเปต.