ผู้จัดการรายวัน -- ทางการลาวได้รับหลักการทั่วไป ให้บริษัทจากจีนเข้าลงทุนพัฒนาพื้นที่หนองบึง เนื้อที่ประมาณ 1,000 เฮกตาร์ หรือ 6,250 ไร่ ด้านหลังวัดพระธาตุหลวงเป็นย่านธุรกิจใหม่ของเมืองหลวง และเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ประกอบการชาวจีนอีกด้วย
เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จที่นั่นก็จะกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการค้าแห่งใหม่ของนครหลวงเวียงจันทน์ และเชื่อว่า จะมีชาวจีนราว 3,000 คน เข้าไปอาศัยและทำธุรกิจในนั้น สำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.) รายงานเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขปล.กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ส.ป.ป.ลาว กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านทางธนาคารเพื่อพัฒนาจีน (Chinese Development Bank)
“รัฐบาลได้ตัดสินใจรับในหลักการที่จะอนุญาตให้ใช้พื้นที่ราว 1,000 เฮกตาร์ ในเขตบึงธาตุหลวง ให้นักลงทุนจีนก่อสร้างอาคารทันสมัย และให้เป็นศูนย์กลางการค้าของนครหลวงเวียงจันทน์ ขปล.อ้างคำกล่าวของ นายเคียงคำ พุดจันทะวงสา เจ้าหน้าที่ของนครหลวง
เมื่อพัฒนาเต็มรูปแล้ว อาณาบริเวณดังกล่าวจะเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมเบา สถาบันการเงิน สถาบันทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ทันสมัย ขปล.กล่าว
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ของฝ่ายลาว กับเจ้าหน้าที่จีน กำลังร่วมกันศึกษาในรายละเอียดต่างๆ ขปล.กล่าว
ดร.สินละวง คุดไพทูน เจ้าครองนครหลวงฯ ได้นำคณะไปตรวจเยี่ยมเขตบึงธาตุหลวง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่
ปัจจุบันนักลงทุนจากจีนได้เข้าไปมีบทบาทอย่างสูงในการพัฒนาเศรษฐกิจของลาว และในปีนี้ได้เป็นผู้เข้าลงทุนมากเป็นอันดับ 1 แทนนักลงทุนจากประเทศไทย ที่ตกไปอยู่อันดับ 3 ถัดจากเวียดนาม
ในกลางปี 2550 ได้มีการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ขึ้นในเมืองหลวงของลาว เป็นห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายสินค้านำเข้าจากจีนเป็นส่วนใหญ่ เป็นคู่แข่งของศูนย์การค้าตลาดเช้าของนักลงทุนจากสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ยังมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่อีกหลายโครงการโดยนักลงทุนจากไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับยอดเงินลงทุนได้ในปี 2551 นี้
ในนั้นรวมทั้งการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าขนาดใหญ่กั้นลำน้ำโขงของกลุ่มบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสะหวัน-เซโน โดยบริษัทบริการท่าอากาศยาน หรือ TAG ด้วย