ทางการพม่าแต่งตั้งตัวแทนรับผิดชอบการสร้างสัมพันธ์กับนางอองซานซูจี หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ขณะที่สหประชาชาติกำลังพิจารณาจัดการกับทางการทหารที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้เดินขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาล
พล.อ.อาวุโสตานฉ่วย ผู้นำพม่า แต่งตั้งให้ พล.ต.อองจี (Aung Kyi) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เป็น “รัฐมนตรีด้านความสัมพันธ์” เพื่อดำเนินการสมานฉันท์กับนางซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
การแต่งตั้งดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 4 วัน หลังจากผู้นำสูงสุดของพม่ายื่นข้อเสนอพบกับนางอองซาน ซูจี หากนางซูจียอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เสนอไป
พล.อ.ตานฉ่วย ปฏิบัติตามคำแนะนำของ นายอิบรอฮิม แกมบารี ทูตพิเศษขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งเสนอให้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทางการสำหรับการสร้างสัมพันธภาพกับนางซูจีในอนาคต ทั้งนี้เป็นรายงานของสถานีโทรทัศน์ทางการเมื่อวันจันทร์ (8 ต.ค.)
รัฐบาลพม่าแทบไม่เคยเปิดการเจรจาอย่างตรงไปตรงมากับนางอองซาน ซูจี เลย แต่การแต่งตั้งบุคคลให้เป็นตัวแทนเจรจาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า อย่างน้อยทางการทหารก็วางแผนสำหรับการติดต่อประสานงานกันในระดับหนึ่ง
เมื่อวันที่ 4 ต.ค.สถานีโทรทัศน์พม่ากล่าว พล.อ.ตานฉ่วย เสนอจะพบหารือกับนางซูจี โดยมีเงื่อนไขว่านางซูจียกเลิกการเป็นปรปักษ์กับรัฐบาล ยุติการสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรของโลกตะวันตกต่อพม่า ยุติการใช้วิธีเผชิญหน้า และยุติการบ่อนทำลายรัฐบาลด้วยวาจา
นายแกมบารี ได้เข้าพบนางอองซาน ซูจี 2 ครั้ง ในวันที่ 29 ก.ย.และวันที่ 2 ต.ค.ก่อนเดินทางกลับนครนิวยอร์ก เพื่อรายงานผลต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันศุกร์ (5 ต.ค.)
เมื่อวันจันทร์ (8 ต.ค.) คณะมนตรีฯ ซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส ร่างคำแถลงการณ์ประณาม “การใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้เดินขบวนประท้วงอย่างสันติ” และเรียกร้องให้พม่ายุติมาตรการการปราบปรามดังกล่าว รวมทั้งปล่อยตัวผู้ต้องขัง นักโทษทางการเมือง และนางซูจี
อย่างไรก็ตาม นักการทูตที่นครนิวยอร์ก กล่าวว่า คำแถลงการณ์ดังกล่าวดูเหมือนจะถูกคัดค้านจากจีน รัสเซีย และอินโดนีเซียด้วย
สหรัฐฯ เป็นแกนนำในการประณามการกระทำของรัฐบาลพม่า โดยกล่าวเตือนว่า จะผลักดันให้สหประชาชาติประกาศบทลงโทษต่อพม่า ซึ่งรวมถึงการสั่งห้ามจำหน่ายอาวุธแก่พม่า หากทางการยังคงปราบปรามผู้ประท้วงต่อไป
อย่างไรก็ตาม การลงมติประกาศบทลงโทษอาจจะถูกคัดค้านและใช้สิทธิยับยั้งจากจีนและรัสเซีย ซึ่งถือว่า สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพม่าเป็นเรื่องภายใน และไม่ส่งผลกระทบต่อสันติภาพและความปลอดภัยโดยรวมของโลก