xs
xsm
sm
md
lg

เวียดเปิดหวูดรถใต้ดิน-โมโนเรล 4 สายประเดิม WTO

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ผู้จัดการรรายวัน- ทางการนครโฮจิมินห์ได้ประกาศเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติที่สนใจเข้าร่วมในโครงการก่อสร้างและให้บริการการขนส่งมวลชนระบบรางขนาดใหญ่ ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟฟ้ารางเดี่ยว รวมเป็นเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเฟสแรก

นักวิเคราะหก์กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เวียดนามได้เปิดภาคการคมนาคมขนส่งในประเทศให้ต่างชาติสามารถเข้าลงทุนและเข้าแข่งขันได้ อันเป็นไปตามเงื่อนไขหนึ่งในพันธสัญญาที่เวียดนามให้ไว้ เพื่อเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก หรือ WTO (World Trade Organization)

ทางการเวียดนามได้ประกาศชวนนักลงทุนต่างชาติเข้าร่วมการประกวดราคา สำหรับการก่อสร้างระบบไฟฟฟ้ารถใต้ดิน 2 สาย กับรถไฟฟ้ารางเดี่ยวเหนือดินอีก 2 สาย ในนครใหญ่ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งภาคใต้ ซึ่งจะเป็นสายแรกของประเทศด้วยเช่นเดียวกัน

ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินโฮจิมินห์สายแรกที่เรียกว่า "สาย 5" ในแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน จะมีความยาวเพียง 17 กิโลเมตร ทอดยาวจากสะพานไซ่ง่อน (Saigon Bridge) ในเขตบิงแท็ง (Binh Thanh) หรือ "บึนเทิน" ไปยังเขต 8 ของนคร กับ "สาย 6" ที่จะสร้างพร้อมกันนี้ มีความยาวเพียง 6 กม.อยู่ในเขตเติ่นบึน (Tan Binh) กับ เขตเติ่นฝู (Tan Phu)

ส่วนระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวทั้งสองสาย คือ "สายที่ 2" กับ "สายที่ 3" มีความยาวรวมกัน 35 กม. สายแรกจะเชื่อมทางหลวงเลข 50-ถนนเหวียนวันลิง (Nguyen Van Linh) หรือ "งวีง วัน ลึน" ไปยังเขตอุตสาหกรรมแปรรรูปเติ่นทวน (Tan Thuan) กับ อีกสายหนึ่ง จากเขตสวนอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ไซ่ง่อน ในเขต 12 ไปยังถนนเหวียนแอว็ง (Nguyen Oanh) ในเขตสอวับ (Go Vap)

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) กับหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนหย่ายฝอง (Saigon Gia Phong) ที่อ้างตัวเลขประมาณการของแผนกการขนส่งนครโฮจิมินห์ การก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินจะใช้เงินทุนประมาณ 40 ล้านดอลลาร์ต่อระยะทาง 1 กม. และประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ต่อ กม. ในส่วนที่โผล่ขึ้นเหนือพื้น

ส่วนเงินลงทุนสำหรับระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลที่แล่นอยู่เหนือพื้นนั้นจะใช้ทุนน้อยกว่ามากคือ เพียงประมาณ 7 ล้านดอลลาร์ต่อระยะทาง 1 กม.

ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนาม รถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟฟ้ารางเดี่ยวจะเปิดให้บริการพร้อมกันในปี 2554 หรือ อีก 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อบรรเทาการจราจรที่แออัดในนครใหญ่ที่เป็นเหสมือนเครื่องจักรนำการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งประเทศ



ตามแผนการนั้นในนครโฮจิมินห์จะมีรถไฟฟ้าใต้ดินอีก 4 สาย ที่มีจุดเริ่มจากบริเวณ 6 แยก ตลาดเบ๊นแท็ง (Ben Thanh) หรือ "เบ๊นทัน" ในสำเนียงของชาวใต้ ออกสู่ย่านนอกเมือง

นอกจากนั้นก็ยังจะมีโมโนเรลอีก 1 สาย หรือ "สายที่1" ความยาว 13 กม. เริ่มจากตลาดเบ๊นแท็ง ไปยังถนนฮำหงิ (Ham Nghi) ถนนโตนดึ๊กถัง (Ton Duc Thang) เลียบแม่น้ำไซ่ง่อน และวกออกถนนฮายบ่าจุง (Hai Ba Trung) ในเขตที่ 1 ไปถึงทางหลวงสาย 1A (เหนือ-ใต้) ในเขตที่ 12 ที่อยู่ชานเมือง

ทางการเวียดนามได้มอบหมายให้บริษัทเมรุเบนนี (Merubenni) จากญี่ปุ่นให้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ของระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลสายที่1 นี้ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เงินทุนในการก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 700 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากจะเป็นโมโนเรลที่แล่นอยู่ใต้ดินเกือบตลอดทั้งสาย

ยังไม่มีความเห็นจากบริษัทต่างชาติต่างๆ ที่ได้ให้ความสนใจต่อโครงการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งพื้นฐานในเวียดนามมาตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว ซึ่งรวมทั้งบริษัทซีเมนส์จากเยอรมนี และอาร์ลสตรอม (Alstrom) จากฝรั่งเศส รวมทั้งบริษัทจากญี่ปุ่น และ จากรัสเซีย ที่ได้เสนอขอเข้าลงทุนรถไฟฟ้าใต้ดินจำนวน 3 สายก่อนหน้านี้

นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเปิดให้ต่างชาติเข้าลงทุนในการก่อสร้างโครงร่างพื้นฐานต่างๆ จะทำให้การลงทุนของต่างชาติในเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็วมากในปีข้างหน้านี้

กระทรวงแผนการและการลงทุน ได้นำสถิติใหม่ออกเปิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งระบุว่า ในปี 2549 การลงทุนของต่างชาติมีมูลค่ารวมถึง 9,500 ล้านดอลลาร์ เกินเป้าหมายที่คาดเอาไว้เพียง 8,500 ล้านดอลลาร์
ทางการนครโฮจิมินห์กำลังศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถบัสด่วนขนส่งมวลชน หรือ BRT (Bus Rapid Transit) อีก 1 สาย โดยจะลงทุนเองทั้งหมด

ส่วนในกรุงฮานอยก็กำลังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายแรกความยาวเพียง 15 กม. ระหว่างฮานอย-ห่าดง (Ha Dong) ใน จ.ห่าไต (Ha Tay) ซึ่งมีพื้นที่ติดกันไปทางทิศตะวันตกคาดว่าจะต้องลงทุนประมาณ 300 ล้านดอลลาร์

รัฐบาลเวียดนามได้ขอความช่วยเหลือในรูปเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากจีน เพื่อลงทุนเองทั้งหมด ทั้งนี้เป็นรายงานของไซ่ง่อนหย่ายฝอง

ขณะเดียวกันก็กำลังมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถรางขนส่งมวลชน (Tramway) สำหรับกรุงฮานอย โดยจะมีทั้งช่วงที่อยู่บนดินและมุดลงใต้ดิน พร้อมกับรถไฟฟ้าชุมชน (Community Electric Train) ซึ่งจะเป็นระบบรถไฟใต้ดินอีก 1 สาย

สื่อของเวียดนามรายงานว่าโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เหล่านี้จะเริ่มการก่อสร้างในช่วงปี 2548-2554 ทั้งสิ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น