xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามรับมิตรเก่า &'คลินตัน&' อบอุ่นประดุจผู้นำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#009966ff> นายคลินตัน ลงสู่ท้องถนนกรุงฮานอยอีกครั้งเช่นเดียวกันกับเมื่อ 6 ปีก่อน ครั้งที่เป็นผู้นำแห่งสหรัฐฯ อันเป็นภาพที่ประทับในความทรงจำของทั้งสองฝ่ายอย่างไม่รู้ลืม </FONT></CENTER>

กรุงเทพฯ- ผู้นำเวียดนามและฝูงชนในนครหลวงฮานอยได้ให้การต้อนรับ นายบิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างอบอุ่นในวันพุธ (6 ธ.ค.) ที่ผ่านมา วันแรกในการเยือนเวียดนามในฐานะประธานมูลนิธิคลินตันเพื่อผู้ป่วยโรคเอดส์ ในภารกิจรณรงค์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคร้ายนี้

ในปี 2543 นายคลินตัน ได้เป็นผู้นำสหรัฐฯ คนแรกที่เดินทางเยือนเวียดนามนับตั้งแต่สงครามสิ้นสุดลง อดีตผู้นำกล่าวว่า ยังจำได้ดีถึงการต้อนรับอันอบอุ่นในครั้งนั้น

การเยือนครั้งที่ 2 นี้ก็ไม่ได้แตกต่างกัน นายคลินตันได้เข้าเยี่ยมคำนับประธานาธิบดีเวียดนามเหวียนมิงเจี๊ยต (Nguyen Minh Triet) ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมโต๊ะกลม ให้อดีตผู้นำสหรัฐฯ ได้พบสนทนาอย่างใกล้ชิดกับเยาวชนเวียดนามจำนวนหนึ่าที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี อันเป็นสาเหตุของโรคเอดส์

อดีตผู้นำสหรัฐฯ ได้เซ็นข้อตกลงฉบับหนึ่งระหว่างมูลนิธิคลันตันเพื่อการริเริ่มเกี่ยวกับโรคเอดส์ (Clinton Foundation HIV-AIDS Initiative) กับ กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือรักษาเยียวยาแก่เด็กๆ ที่ติดเชื้อเอดส์ในประเทศนี้จำนวน 1,200 รายภายในสิ้นปี 2550

"วันนี้เราอยากจะขอเน้นเป็นพิเศษต่อพันธสัญญาของเรา ที่จะเพิ่มจำนวนเด็กๆ ที่จะได้รับยาต่อต้านโรคเอดส์เป็น 3 เท่า" นายคลินตันกล่าวก่อนที่จะเซ็นข้อตกลงดังกล่าว และ เสริมอีกว่าในระยะยาวข้างหน้าเด็กๆ ในเวียดนามที่มีความจำเป็น ก็จะได้รับยารักษาจนครบทุกคน

นายคลินตัน เคยได้รับเสียงปรบมือไชโยโห่ร้องจากประชาชนเวียดนามนับหมื่นๆ ระหว่างการเยือนประเทศที่เป็นอดีตศัตรูเมื่อ 6 ปีก่อน ในฐานะผู้นำประเทศอภิมหาอำนาจ

"ผมดีใจที่ได้กลับมาเวียดนามและได้พบเห็นอะไรต่างๆ ก้าวหน้าไปอย่างมากนับตั้งแต่การเยือนที่สุดวิเศษในปี 2543" นายคลินตันกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินต่อเวียดนามในการเข้าเป็นสมาชิกองคต์การการค้าโลก รวมทั้งการเป็นผู้นำอันโดเด่นของเวียดนาม ในการจัดการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกเมื่อเดือนที่แล้ว

อดีต ปธน.สหรัฐฯ ได้ใช้เวลาในยามเช้าออกเดินไปตามท้องถนนกรุงฮานอย ท่ามกลางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่เวียดนามที่ราบล้อม ขณะที่ชาวฮษนอยที่ผ่านไปพบได้เข้าไปตะโกนทักทายอดีตผู้นำสหรัฐฯ
<CENTER><FONT color=#009966ff> ชาวฮานอยกรูเข้าทักทายให้การต้อนรับ มิตรเก่าอย่างอบอุ่น  </FONT> </CENTER>
พวกเขาเคยเห็นภาพคล้ายๆ กันนี้ในการเยือนครั้งแรกของนายคลินตัน แต่ชาวฮานอยส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้เห็นภาพการโอภาปราศัยเช่นนี้ ระหว่างการเยือนของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช เมื่อเดือนที่แล้ว

นายคลินตันได้ไปเยี่ยมชมร้านจำหน่ายรูปภาพแห่งหนึ่ง ที่เคยไปเยือนเมื่อ 6 ปีก่อนท่ามกลางเสียงปรบมือของประชาชนที่ห้อมล้อมอยู่ด้านนอก หลายคนได้ขอถ่ายภาพร่วมกับอดีต ปธน.สหรัฐฯ เพื่อเป็นที่ระลึก ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี

"ผมดีใจที่ได้เห็นคลินตันกลับมาเวียดนาม ประเทศของเรายินดีต้อนรับเขาเสมอ" นางฝั๊มทูลาน (Pham Thu Lan) แม่ค้าขายผลไม้วัย 45 ปี ในย่านตัวเมืองเก่ากรุงฮานอยกล่าว

ส่วนนางเจิ่นแท็งเติม(Tran Thanh Tam) เจ้าของร้านขายหมวกกล่าวว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯ จะไปเยือนเวียดนาม อยากจะให้ไปเยี่ยมชมที่ร้าน และจะขอถ่ายรูปด้วย

ก่อนหน้านี้นายคลินตันได้ไปเยือนอินเดีย อินโดนีเซีย ประเทศไทย กัมพูชา และ ปาปัวนิวกินี ในฐานะทูตพิเศษของนายโคฟี อันนัน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติเพื่อช่วยเหลือผูประสบภัยพิบัตสึนามิเมื่อปี 2547

ปัจจุบันมูลนิธิคลินตันฯ มีเครือข่ายและแผนปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอดส์อยู่ในหลายประเทศในเอเชีย

ระหว่างอยู่ในกัมพูชาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายคลินตันได้สร้างความประทับใจให้แก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่กัมพูชา เมื่อไปเยือนสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งอดีตผู้นำสหรัฐฯ ได้อุ้มและโอบกอดเด็กๆ ที่ประสบเคราะห์กรรม

นายคลินตันได้พบหารือกับ นายกรัฐมนตรีกัมพา นายฮุนเซน และได้เซ็นข้อตกลงฉบับหนึ่งร่วมกับผู้นำกัมพูชา ซึ่งมูลนิธิคลินตันจะให้ความช่วยเหลือแก่เด็กๆ และผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี/เอดส์ในประเทศนี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น