ผู้จัดการรายวัน- นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้สั่งพักราชการ พล.ต.กาวหง็อกแอว๋ง (Cao Ngoc Oanh) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสวบสวนในกรณีต้องสงสัยพัวพันการทุจริตอันอื้อฉาวในสำนักงานบริหารโครงการที่ 18 (Project Management Unit 18) ในสังกัดกระทรวงขนส่ง ในวันเดียวกันก็ได้สั่งการให้กระทรวงความมั่นคง (Public Security Ministry) เร่งการสอบสวนและสะสางกรณีทุจริต โดยกำหนดเวลาให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.ศกนี้
นายกรัฐมนตรีเวียดนามยังได้อนุมัติการลาออกของนายเหวียนวันเลิม (Nguyen Van Lam) รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่รับเงินจากทั้งบริษัทเอกชนและหน่วยงานของรัฐ รวมเป็นเงินกว่าหมื่นดอลลาร์ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจพบเงินจำนวนดังกล่าวในกระเป๋าเอกสาร ที่เจ้าตัวลืมทิ้งเอาไว้ที่ท่าอากาศยานโนยบ่าย (Noi Bai) กรุงฮานอย
การสอบสวนกรณีทุจริตอื้อฉาวระยะที่ผ่านมาได้พบว่า พล.ต.กาวหง็อกแอว๋ง ได้ติดต่อสนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ PMU18 กว่า 90 ครั้ง รวมทั้งยังได้ส่งข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือของนายบุ่ยเตี่ยนยวุ๋ง (Bui Tien Dung) ผู้อำนวยการใหญ่ของสำนักงานดังกล่าวด้วยตัวเองอีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดนี้เกิดขึ้นในวันที่นายเตี๋ยนยวุ๋งถูกจับกุม
นายพลผู้นี้เคยตกเป็นข่าวอื้อฉาวว่า อาจจะเคยรับสินบนเป็นเงินหลายหมื่นดอลลาร์สหรัฐ จากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ PMU18 เพื่อช่วยปกปิดความผิดและช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ในช่วงที่สื่อของทางการเวียดนามขุดคุ้ยกรณีทุจริต ซึ่งทำให้ รอง ผบ.ตร. ถูกกันตัวออกจากคณะผู้แทนพรรคสาขากระทรวงความมั่นคง และไม่ได้เข้าร่วมการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
สำนักข่าววีเอ็นเอ (VNA) ของทางการเวียดนามรายงานเรื่องราวทั้งหมดนี้ในวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) โดยอ้างการแถลงของนายเหวียนกิงเกวื๊อก (Nguyen Kinh Quoc) โฆษกรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ประชุมหารือและสั่งการกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงความมั่นคงในวันพุธ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดในความพยายามปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวงในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคและรัฐบาล
นายเติ๋นยวุ๋งได้รับการแต่งตั้งจากรัฐสภา โดยได้รับคะแนนโหวตอย่างท่วมท้นให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แทนนายฟานวัยข่าย (Phan Van Khai) ที่ลาออก
ในคราวเดียวกัน รัฐสภาเวียดนามยังได้ลงมติเห็นชอบการแต่งตั้งตังบุคคลเข้ารับตำแหน่งระดับสูงของรัฐบาลหลายนาย ซึ่งรวมทั้งการแต่งตั้งนายเหวียนมิงเจี๊ยต (Nguyen Minh Triet) ขึ้นเป็นประธานาธิบดี นายเหวียนฝูจ่อง (Nguyen Phu Trong) เป็นประธานรัฐสภา นอกจากนั้นยังมีการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี 2 นาย รัฐมนตรีว่าการ 6 กระทรวง และ ตำแหน่งเทียบเท่ารัฐมนตรีว่าการอีกจำนวนหนึ่ง
นายเติ๋นยวุ๋งได้สั่งการให้กระทรวงความมั่นคงเร่งสรุปผลการสอบสวนกรณี PMU18 ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อให้ทราบแหล่งที่มาของเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐที่นายบุ่ยเตี๋ยนยวุ๋ง (Bui Tien Dung) นำไปเล่นพนันทายผลฟุตบอลเมื่อหลายปีก่อน
นายกรัฐมนตรีเวียดนามยังสั่งการให้เจ้าพนักงานสอบสวนลงในรายละเอียด ตรวจสอบใบเสร็จรับเงิน ตลอดจนบัญชีรับ-จ่ายทุกรายการ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการประกวดราคา 5 โครงการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 18 ภายใต้การดูแลของ PMU18
นอกจากนั้นยังสั่งการให้มีการลงโทษอย่างเฉียบขาดเจ้าหน้าที่ที่พยายามขัดขวางขบวนการสอบสวนสืบสวน หรือสร้างความลำบากให้แก่เจ้าพนักงานสอบสวนวนการสะสางกรณีทุจริตต่างๆ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นจะมีตำแหน่งใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวทางการเวียดนาม "วีเอ็นเอ"
ในการประชุมวันพุธ กระทรวงความมั่นคงได้รายงานผลการสอบสวนที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า ผอ.ใหญ่ของ PMU18 ได้ใช้เงินไปอย่างน้อย 1.5 ล้านดอลลาร์เล่นพนันขันต่อในช่วงฤดูการแข่งขันฟุตบอลยุโรป การสอบสวนกำลังพุ่งไปที่การกระผิดกฎหมายในหน่วยงานดังกล่าวอีกหลายประเด็น ในช่วงที่อยู่ภายใต้การบริหารของนายเตี๋ยนยวุ๋ง ซึ่งมีนายเหวียนเหวียดเตี๊ยน (Nguyen Viet Tien) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงขนส่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง
นายเตี๋ยนยวุ๋งถูกจับกุมในเดือน ม.ค.ปีนี้ ส่วนนายเหวียดเตี๊ยน ถูกจับในเดือน มี.ค. บุคคลทั้งสองถูกคุมขังและอยู่ระหว่างการสอบสวน
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ท่าอากาศยานโนยบ่ายได้ตรวจค้นกระเป๋าเอกสารใบหนึ่งที่เจ้าของลืมเอาไว้ และ ได้พบในนั้นมีซองจำนวน 10 ซอง บรรจุธนบัตรทั้งที่เป็นเงินด่งของเวียดนามและเงินดอลลาร์สหรัฐ และต่อมาก็ได้พบว่ากระเป๋าเอกสารดังกล่าวเป็นของนายวันเลิม รองปลัดสำนักนายกฯ ที่เดินทางกลับจากไปตรวจราชการในจังหวัดภาคกลางของประเทศ
ซองแรกบรรจุเงินจำนวน 5 ล้านด่ง (ราว 12,500 บาท) เจ้าของเงินเป็นบริษัทซงดา ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ของประเทศ ส่วนซองที่ 2 บรรจุธนบัตรอีก 1 ล้านด่ง (ราว 2,500 บาท) เป็นของบริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับการก่อสร้างทางน้ำแห่งหนึ่ง อีก 2 ซองผู้จ่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของทางการ จ.บิ่งดิง (Binh Dinh) กับ จ.ฝูเอียน (Phu Yen) รวมเป็นเงิน 50 ล้านด่ง (ราว 50,000 บาท) และยังมีอีก 1 ซองบรรจุธนบัตรจำนวน 10 ล้านด่ง (ราว 25,000 บาท) ซึ่งไม่ทราบที่มาของเงินจำนวนนี้
เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบซองใส่ธนบัตรอีกซองหนึ่ง บรรจุเงิน 9,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่ทราบที่มา
รัฐสภาเวียดนามได้นำเรื่องนี้เข้าอภิปรายอย่างเผ็ดร้อนในการประชุมระหว่างวันที่ 18-29 มิ.ย. เช่นเดียวกันกับกรณีทุจริตอื้อฉาวในกระทรวงขนส่งและการซื้อเครื่องบินของบริษัทการบินเวียดนาม ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีเวียดนามเห็นว่า การนายวันเลิมรับเงินจากเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดนั้นเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบราชการ ส่งผลต่อภาพพจน์ของสำนักนายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ทั้งมวล
นายกรัฐมนตรีเวียดนามยังสั่งการให้คืนเงินทั้งหมดให้กับทางการของทั้งสองจังหวัด และ สั่งการไปยังทางการจังหวัดต่างๆ ห้ามใช้เงินงบประมาณของรัฐให้เป็น "ของขวัญ" สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐจากส่วนกลางที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในท้องถิ่นต่างๆ อีกด้วย
ส่วนเงินอื่นๆ ที่ค้นพบในกระเป๋าเอกสารของนายวันเลิมนั้น เจ้าพนักงานกำลังสอบสวนหาที่มาที่ไป ตลอดจนพิสูจน์เจตนาของการให้และการรับ เพื่อหาทางดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้นี้ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องรายอื่นๆ ต่อไป.