xs
xsm
sm
md
lg

ยูโอบี จับมือ BACC ปั้น "อาสาสมัครนำชม" เชื่อมผู้คนกับโลกศิลปะ สร้างระบบนิเวศศิลป์ที่ยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ร่วมกับหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) เดินหน้าโครงการ “Audience Building: BACC x UOB Volunteer Docent” สร้าง ‘อาสาสมัครผู้นำชม’ สะพานเชื่อมความหมายของศิลปิน ร่วมสร้างระบบนิเวศศิลป์ไทยที่ยั่งยืนติดต่อกันเป็นปีที่สอง ครอบคลุมทั้งเยาวชน คนทำงาน และวัยเกษียณ

ธรรัตน โอฬารหาญกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ธนาคารยูโอบีเชื่อมั่นในพลังของศิลปะ ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ เปลี่ยนมุมมอง และขับเคลื่อนการพัฒนาในสังคม หากผู้ชมมีความเข้าใจในงานศิลปะ ก็จะเกิดการตีความที่ลึกซึ้ง สร้างการมีส่วนร่วม และเชื่อมโยงกับสังคมได้กว้างขึ้น ทำให้งานศิลปะร่วมสมัยเข้าถึงผู้ชมโดยไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว”

อดุลญา ฮุนตระกูล ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
อดุลญา ฮุนตระกูล ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า “โครงการนี้ไม่ได้หยุดเพียงแค่การอบรม แต่เปิดโอกาสให้อาสาสมัครได้ทำงานจริงในพื้นที่ของหอศิลป์ สิ่งนี้ช่วยเพิ่มจำนวนและคุณภาพของผู้นำชม พร้อมทั้งสร้างกลุ่มที่มีความแข็งแรงและต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดความรู้ทั้งในฝั่งผู้นำชมและผู้ชม โดยมีธนาคารยูโอบีที่เข้ามาสนับสนุนเพื่อเติมเต็มระบบนิเวศศิลป์ไทยให้สมบูรณ์”

โครงการอาสาสมัครผู้นำชมนี้ จัดติดต่อกันเป็นปีที่สอง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ พัฒนาศักยภาพอาสาสมัครนำชมในรูปแบบเพื่อนพาเพื่อนชม ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการที่ครอบคลุมทั้งความรู้ด้านศิลปะร่วมสมัยและทักษะการสื่อสาร โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ คุณพัฒนพงศ์ มณเฑียร ผู้ช่วยศาสตราจารย์อนิวัฒน์ ทองสีดา คุณบุญพงษ์ พานิช และคุณกฤตภาส นิธิสิริปกรณ์ ร่วมเป็นวิทยากรในโครงการ

พัฒนพงศ์ มณเฑียร ศิลปิน นักเขียน ภัณฑารักษ์ และที่ปรึกษาด้านพิพิธภัณฑ์ (Museum Educator) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิทยากร
พัฒนพงศ์ มณเฑียร ศิลปิน นักเขียน ภัณฑารักษ์ และที่ปรึกษาด้านพิพิธภัณฑ์ (Museum Educator) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิทยากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “การให้ความรู้แก่ผู้ชมสำคัญพอๆ กับการสร้างศิลปิน เพราะต่อให้เรามีศิลปินที่เก่งเพียงใด หากไม่สามารถเชื่อมโยงผลงานกับสาธารณะได้ งานศิลปะก็ไม่อาจมีชีวิต การทำให้ผู้ชมกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นและเชื่อมโยงกับผลงานศิลปะได้ คือสิ่งที่ทำให้โครงการนี้มีคุณค่าอย่างแท้จริง“

พีรัส พิสุทธิมาน วัย 29 ปี เจ้าของธุรกิจและครูสอนศิลปะ หนึ่งในผู้ที่เข้าอบรมในโครงการอาสาสมัครผู้นำชม
พีรัส พิสุทธิมาน วัย 29 ปี เจ้าของธุรกิจและครูสอนศิลปะ หนึ่งในผู้ที่เข้าอบรมในโครงการอาสาสมัครผู้นำชม กล่าวว่า “ความท้าทายของการเป็นผู้นำชมคือการทำให้ผู้ฟังประทับใจและอยากกลับมาอีก ซึ่งการอบรมครั้งนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการส่งต่อความรู้”

สำหรับผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้เป็นอาสาสมัครนำชมนิทรรศการที่หอศิลป์กรุงเทพฯ (วันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์) และจะได้รับประกาศนียบัตรเมื่อปฏิบัติหน้าที่ครบ 15 ชั่วโมง โดยการอบรมรอบที่ 3 ประจำปี 2568 จัดขึ้นในวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้