xs
xsm
sm
md
lg

บางจากฯ เดินหน้าขับเคลื่อนตลาดคาร์บอนและ SAF บนเวที APPEC 2025

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้บริหารบางจากฯ “กลอยตา ณ ถลาง” เข้าร่วมเสวนา 2 เวที ในการประชุม Asia Pacific Petroleum Conference (APPEC) 2025 ภายใต้แนวคิด “Navigating Trade, Technology and Transition” เมื่อวันที่ 8-11 กันยายนที่ผ่านมา ณ ประเทศสิงคโปร์ โดย S&P Global Commodity Insights ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

ถือเป็นเวทีประชุมพลังงานระดับภูมิภาคที่ทรงอิทธิพลที่สุดงานหนึ่งของปี เนื่องจากได้รวบรวมผู้กำหนดนโยบาย ผู้บริหารระดับสูง และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก เข้ามาแลกเปลี่ยนแนวโน้ม ความท้าทาย และโอกาสใหม่ในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ


ในวันแรกของ APPEC 2025 วันที่ 8 กันยายน ก่อนพิธีเปิดการประชุม นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับเชิญเข้าร่วม VIP Meet & Greet เพื่อพบกับผู้นำในอุตสาหกรรม แขกรับเชิญจากหน่วยงานต่างๆ และผู้บริหารระดับสูงของ S&P Global โดยมีแขกผู้ทรงเกียรติคือ Ms. Low Yen Ling, Senior Minister of State, Ministry of Trade and Industry and Ministry of Culture, Community and Youth ประเทศสิงคโปร์ กล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน

ต่อมาวันที่ 9 กันยายน ซึ่งเป็นการประชุม Carbon Markets Conference นางกลอยตาร่วมสนทนา Fireside Chat ในหัวข้อ “Designing Carbon Mechanisms for Developing Economies” ได้สะท้อนมุมมองเกี่ยวกับตลาดคาร์บอนของประเทศไทยและร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญจากการซื้อขายคาร์บอนภาคสมัครใจ ไปสู่ระบบกำกับดูแลที่เข้มแข็งมากขึ้น

เช่น ระบบซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ETS) การจัดเก็บภาษีคาร์บอน และข้อบังคับในอนาคต โดยย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือในอาเซียน เพื่อเสริมสร้างภูมิภาคที่เข้มแข็ง ควบคู่กับการสร้างกลไกที่น่าเชื่อถือในระดับสากลและมีความเป็นธรรมภายใน ประเทศ โดยมีผู้ร่วมเสวนาจาก Verra ที่ได้แลกเปลี่ยนแนวคิดเรื่องการออกแบบกลไกคาร์บอนที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศกำลังพัฒนา สร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสอดคล้องกับทิศทางตลาดโลก

วันถัดมา 10 กันยายน ในการประชุม Biofuels Conference นางกลอยตาเข้าร่วมการเสวนาในหัวข้อ “Sustainable Aviation Fuel (SAF) – Taking Flight in Asia” เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการ SAF ที่เพิ่มสูงขึ้นในอุตสาหกรรมการบิน ความจำเป็นในการพัฒนานวัตกรรมเชื้อเพลิงใหม่ เช่น Alcohol to Jet (AtJ) และ e-Fuels รวมถึงกรอบนโยบายและแรงจูงใจภาครัฐ ตลอดจนการแก้ไขข้อท้าทายด้านวัตถุดิบเพื่อเร่งการผลิตและการใช้ SAF ในวงกว้าง โดยมีผู้แทนจาก Petronas Airbus และ Qantas ร่วมเสวนา

ในการอภิปรายสะท้อนถึงความท้าทายในการขยายการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยั่งยืน (SAF) ที่ยังมีต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเครื่องบินแบบดั้งเดิม ขณะที่ปริมาณวัตถุดิบ เช่น น้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (UCO) ยังมีจำกัดและมีการแข่งขันสูง ขณะเดียวกัน บทบาทของหน่วยงานกำกับดูแล ก็มีความสำคัญในการสนับสนุนด้วยข้อมูล มาตรฐานการรับรอง และกรอบนโยบายที่ชัดเจนและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ทั้งผู้ผลิต สายการบิน และผู้โดยสาร และช่วยผลักดันให้การใช้ SAF ขยายตัวได้จริงในอนาคต

นอกจากนี้ยังมีการเน้นถึงการสื่อสารกับผู้โดยสารและภาคประชาสังคมในภาพรวม เพื่อสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วม โดยเฉพาะการทำให้เห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ว่าการใช้ SAF มีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างไร รวมถึงการรณรงค์อย่างโครงการ “Fry to Fly” ของกลุ่มบริษัทบางจากที่เชื่อมโยงประชาชนกับการเดินทางที่สะอาดและยั่งยืนด้วยการรับซื้อ UCO เพื่อนำไปผลิต SAF

ทั้งนี้การมีส่วนร่วมของบางจากฯ ในเวที APPEC 2025 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นขององค์กรสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2050 ตามแผน BCP 316 NET ซึ่งบางจากฯ พร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมพลังงานสะอาด ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ขับเคลื่อนการพัฒนาตลาดคาร์บอนในระดับภูมิภาค มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนทั้งในเอเชียและในระดับโลก




หนุนมาตรการกำหนดสัดส่วนผสม SAF ขั้นต้น ร้อยละ 1 ในปี 2569

กลุ่มบริษัทบางจากสนับสนุนข้อเสนอมาตรการกำหนดสัดส่วนผสม SAF (SAF Blending Mandate) ขั้นต้นที่ร้อยละ 1 ในปี 2569 แม้มาตรการนี้ประเทศไทยยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ แต่นางกลอยตามองว่า “จะช่วยสร้างความชัดเจนให้แก่ผู้ผลิตและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้ต้นทุน SAF ยังสูงกว่าน้ำมันเครื่องบินทั่วไปในปัจจุบัน การผสมในสัดส่วนร้อยละ 1 จะไม่ส่งผลกระทบต่อค่าโดยสาร อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งการลงทุนใน SAF ยังถือเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนในระยะยาว”

ในฐานะผู้บุกเบิกการผลิต SAF ชนิด Neat SAF (100%) จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) รวมถึงวัตถุดิบทางเลือกอื่น ๆ เช่น ของเหลือทิ้งจากภาคอุตสาหกรรมและบริการ โดยกระบวนการผลิตอยู่ภายใต้การรับรองมาตรฐานระดับสากลจาก International Sustainability and Carbon Certification (ISCC) บางจากฯ ยังมีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญคือระบบท่อส่ง SAF ที่เชื่อมต่อโดยตรงจากหน่วยผลิต SAF ที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง สู่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง ที่ช่วยสนับสนุนการกระจายเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมการนำระบบ Book & Claim และตลาดคาร์บอนมาใช้เพื่อสะท้อนผลการลดการปล่อยคาร์บอนจากการบินอย่างแท้จริง และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สายการบินและลูกค้า




กำลังโหลดความคิดเห็น