xs
xsm
sm
md
lg

ICF Bangkok ผนึกล็อกซเล่ย์–เอเอสเอ็ม “โค้ชเพื่อน้อง”เปลี่ยนชีวิตเยาวชนบ้านมุทิตา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สหพันธ์การโค้ชนานาชาติ สาขากรุงเทพฯ (ICF Bangkok Charter Chapter)เดินหน้ากิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับ กลุ่มธุรกิจ บมจ.ล็อกซเล่ย์ และ บริษัท รักษาความปลอดภัย เอเอสเอ็ม แมเนจเมนท์ จำกัด (ASM) จัดโครงการ “โค้ชเพื่อน้อง ซีซั่น 3 สตรองคูณ3 ” ภายใต้โครงการ “Pay The Love Forward” ครั้งที่ 3 ณ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชาย บ้านมุทิตา จ.นครปฐม เพื่อเสริมพลังใจ สร้างสภาพการณ์ที่ให้รู้สึกปลอดภัย เป็นกัลยาณมิตร แก่เยาวชนกลุ่มเปราะบางได้ทบทวนและตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยตัวเอง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ครอบครัวเข้าใจและสนับสนุน ช่วยป้องกันการกลับไปสู่พฤติกรรมเดิมสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ สหพันธ์การโค้ชนานาชาติ (ICF)ที่ต้องการเห็น “โลกที่มีการโค้ชเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคม”

นี่เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ ICFสาขากรุงเทพฯทำมาทุกปีคือโครงการ “ Coach ICF จิตอาสา” ที่มุ่งใช้พลังของศาสตร์การโค้ชเข้าไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในหลายภาคส่วน และปีนี้ได้ไปสนับสนุนน้องๆกลุ่มเปราะบาง ตามนโยบายของICFด้านDEIB คือ การส่งเสริมความหลากหลาย ความเป็นธรรม การมีส่วนร่วม และการสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในสังคม ด้วยโครงการ “โค้ชเพื่อน้อง” โดยทีมโค้ชICFจิตอาสาได้เข้าไปช่วยให้กลุ่มเยาวชนที่ครั้งหนึ่งอาจเคยถูกมองว่าเป็น“ปัญหาสังคม”ได้เกิดวิธีคิดใหม่ ด้วยการใช้ทักษะการโค้ชช่วยเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้พวกเขาได้ค้นพบเสียงในใจ ที่มุ่งมั่นทำสิ่งที่มีคุณค่าต่อตัวเองและผู้อื่น

ในปีนี้โครงการเข้าสู่ปีที่ 2 ของการร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญคือ กลุ่มบริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ได้ทำงานเชิงลึกกับศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชาย บ้านมุทิตา เพื่อสนับสนุน โครงการ “เตรียมความพร้อมก่อนปล่อย” ผ่านกิจกรรมที่มุ่งดูแลเยาวชนทั้งด้านจิตใจและความสัมพันธ์กับครอบครัว

สิ่งที่ “โค้ชเพื่อน้อง”ทำมีมากกว่าแค่การโค้ชแบบตัวต่อตัว แต่คือการเป็น “เพื่อนร่วมทาง” ที่รับฟังโดยไม่ตัดสิน เป็น “สะพาน” เชื่อมสายใยความรักในครอบครัว และเป็น “กำลังใจ” ให้เด็ก ๆ เห็นคุณค่าในตัวเองอีกครั้ง เราเชื่อว่าทุกคนต้องการโอกาส แม้เคยผิดพลาด ก็สมควรได้เรียนรู้และเติบโต เพราะในที่สุด... สังคมที่มีคนล้ม แล้วมีมือที่พร้อมพยุงให้ลุกย่อมแข็งแรงและน่าอยู่กว่าสังคมที่ปล่อยให้ใครคนใดถูกทิ้งไปตามยถากรรม

โครงการนี้จัดกิจกรรม 1.แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตจริงในการก้าวข้ามข้อจำกัดจากนักกีฬาฟุตบอลคนตาบอดสู่ทีมชาติไทย 2.กิจกรรมสันทนาการที่เปิดโอกาสให้ทดลองเล่นฟุตบอลในมุมมองของผู้พิการทางสายตา 3.การโค้ชเพื่อให้เด็กๆ และครอบครัวได้ทบทวนตัวเองอย่างลึกซึ้งและค้นพบแนวทางที่เหมาะสม ผ่านกระบวนการโค้ชจริงแบบ 1 โค้ชต่อ 1 ครอบครัว นาน 45 นาที เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในครอบครัว

นอกจากนี้ยังมีการมอบข้าวสารและอาหารจำเป็นให้แก่ 17 ครอบครัว เพื่อแบ่งเบาภาระและส่งต่อกำลังใจ โค้ชหงส์หยก ฉิมพันธ์ ประธานสหพันธ์dkiโค้ชนานาชาติ สาขากรุงเทพฯ และที่ปรึกษาโครงการโค้ชICFจิตอาสา กล่าวว่า “หัวใจของการโค้ชตามมาตรฐาน ICF คือการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กๆ ได้ฟังเสียงจากใจตัวเอง กล้าทบทวนชีวิตและเลือกทางเดินใหม่ด้วยความรับผิดชอบ โครงการนี้จึงไม่ใช่การสร้างแรงบันดาลใจ แต่คือการอยู่เคียงข้างด้วยความเคารพในศักยภาพ และเตรียมครอบครัวให้เข้าใจ สนับสนุน และเป็นพลังสำคัญให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริงอย่างยั่งยืน และแม้ในวันที่ไม่มีใครในครอบครัวคอยเคียงข้าง น้องๆ ทุกคนก็มีพลังที่จะยืนหยัด และปรับเปลี่ยนชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นได้เสมอ”

โค้ชโสฬัส อมาตยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม (DEIB) และประธานโครงการโค้ช ICFจิตอาสา กล่าวเพิ่มเติมว่า
“เราเชื่อว่าครอบครัวคือเกราะป้องกันที่แข็งแรงที่สุด การออกแบบโครงการนี้จึงมุ่งให้เด็กและพ่อแม่ได้ทบทวนสร้างความเข้าใจกันผ่านกระบวนการโค้ชที่เป็นกลาง ปลอดภัย และไม่ตัดสิน เพื่อให้เกิดรากฐานที่มั่นคง ลดโอกาสการก้าวพลาดซ้ำ นี่คือพลังของการโค้ชมืออาชีพตามมาตรฐาน ICF”

โครงการ โค้ช ICF จิตอาสา ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญ ของสหพันธ์การโค้ชนานาชาติ (ICF) สาขากรุงเทพฯ ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์คือ
1.นำศาสตร์การโค้ชไปสนับสนุนสังคมให้เติบโตก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
2.ขยายโอกาสให้คนไทยเข้าถึงประโยชน์จากการโค้ชที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล
3.เปิดพื้นที่ให้โค้ช ICF ในประเทศไทยได้รวมพลังสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกันด้วยศาสตร์การโค้ช

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารโครงการ และร่วมเสนอความคิดเห็นต่อโครงการโค้ช ICFจิตอาสาในการช่วยเหลือกลุ่มใดต่อไป ได้ทางเพจ ICF Bangkok เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์สังคมที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง


กำลังโหลดความคิดเห็น