xs
xsm
sm
md
lg

"Phantom Hourglass" เซลด้าภาคสัมผัส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


---คลิกชมวีดีโอตัวอย่างเกม "The Legend of Zelda: Phantom Hourglass " ได้ที่นี่---
ดูวีดีโอประกอบจาก Manager Multimedia

การเป็นที่หนึ่งนั้นยาก แต่การรักษาตำแหน่งไว้นั้นยากยิ่งกว่า เป็นคำพูดที่ใช้เปรียบเทียบกับเกมภาคต่อทั้งหลายได้ดี ที่ภาคแรกทำออกมายอดเยี่ยม แต่เมื่อทำภาคต่อความสนุกกลับหดหายไป จนบางซีรีย์ออกได้ไม่กี่ภาคก็เงียบหาย ทำให้คนที่รอคอยเกมภาคต่อควรจะเผื่อใจไว้ให้ผิดหวังบ้างเพราะยากยิ่งนักที่จะทำเกมภาคต่อให้สนุกทุกภาค แต่สำหรับเซลด้าอาจเป็นข้อยกเว้น เพราะแม้จะคาดหวังไว้สูงแค่ไหนก็ไม่เคยผิดหวังเลยแม้แต่ภาคเดียว

แน่นอนว่า The Legend of Zelda: Phantom Hourglass ภาค DS ย่อมต้องถูกคาดหวังไว้สูงมากตามมาตรฐานของเซลด้า ยิ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ภาคTwilight Princess ทำออกมาได้อย่างสุดยอด แล้วทุกคนรวมทั้งตัวผมเองจึงคาดหวังภาคนี้ไว้สูง (เลยคิดๆไว้ว่าอาจจะต้องผิดหวังเพราะคาดหวังไว้สูงนี่แหละ) และแรกสัมผัสต้องพบกับความประทับใจในเรื่องกราฟิกเป็นโพลิกอน 3D ที่ถอดแบบมาจาก ภาค The Wind Waker ที่เคยถูกวิจารณ์ไม่ค่อยดีนัก เพราะภาพของเกมอาจดูเด็กเกินไปที่จะอยู่บนเครื่องคอนโซล แต่เมื่อมาลงเครื่องมือถือ กลับดูดีและเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ และแม้ตอนเล่นจะยังคงเป็น 2 มิติมุมมองจากด้านบน แต่ก็ทำให้เล่นได้ง่ายการแก้ปริศนาก็ทำได้ง่ายดายกว่าแบบ 3D เยอะเลย

แต่จุดที่เด่นที่สุดของภาคนี้ไม่ใช่ภาพ หรือเนื้อเรื่องแต่เป็นการที่ เซลด้าภาคนี้เป็นเซลด้าภาคที่ดึงลูกเล่นของเครื่อง DS ออกมาได้มากที่สุดจนหลายต่อหลายครั้ง การแก้ปริศนาในดันเจี้ยน เราต้องร้องว่า “คิดได้ไง” เพราะใช้ทั้ง จอสัมผัสเพื่อทั้งการเขียนตัวเลขหรือรูปเพื่อผ่านทาง หรือใช้จดคำใบ้ในการแก้ปริศนาหรือจุดที่มีสมบัติในแผนที่ได้ โดยไม่ต้องมานั่งจำ รวมทั้งการใช้ไมโครโฟนของ DS ในส่วนที่ไม่น่าเชื่อว่าจะใช้เช่นการส่งเสียงเพื่อจัดการกับศัตรูบางตัว หรือแม้แต่การใช้การพับหน้าจอของ DS ให้เป็นประโยชน์ หรือวิธีฆ่าบอสบางตัวที่ใช้ 2 จอของ DS มาเป็นประโยชน์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนกระทั้งวิธีฆ่าบอสของภาคเครื่องคอนโซลยังอายไปเลย เมื่อรวมไอเดียบรรเจิดทั้งหมดที่มีในเกม ที่แม้กระทั้งคนที่เล่น DS มาเป็นร้อยๆเกมยังคิดไม่ทันกับการใช้ลูกเล่นของเกมนี้เลยทีเดียว

ส่วนการควบคุมบังคับเกือบทั้งหมดล้วนใช้การสัมผัสหน้าจอแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการฟัน แทง หรือการใช้ท่าพิเศษ และอาวุธเสริม ก็ทำได้ง่ายดายแค่ปลายนิ้วสัมผัส อย่างเช่นการใช้บูมเมอร์แรงก็ควบคุมทิศทางได้ด้วยการลากเส้น โดยการควบคุมการเดินก็ให้จิ้มไปที่หน้าจอตามทิศทาง “ลิงค์” จะเดินตามไปโดยการสัมผัสได้ใส่รายละเอียดลงไปอย่างครบถ้วน ที่ปุ่มบน DS ไม่สามารถทำให้ เช่น การเดินช้าๆให้สัมผัสใกล้ๆตัว “ลิงค์” แล้วลากช้าๆ แต่ถ้าจะวิ่งให้จิ้มห่างออกไป “ลิงค์”จะวิ่งเร็วขึ้นตามระยะห่าง ส่วนนี้ถือว่าเป็นการสร้างระบบได้ดีเยี่ยมไม่แพ้การใช้แกนอนาล็อกเลย และดีกว่าการใช้การสัมผัสในเกมก่อนหน้านี้บน DS ด้วยซ้ำ

ส่วนรายละเอียดที่เพิ่มเข้ามา เนื่องจากภาคนี้ใช้การเดินเรือเป็นเป็นหลักในการเล่น แน่นอนการเดินเรือก็ใช้การลากเส้นในแผนที่เพื่อเดินเรือ โดยมีกัปตันสุดกวน อารมณ์เดียวกับ Jack Sparrow จาก Pirates of the Caribbean เป็นคนขับเรือ และการเดินเรือมีอุปสรรคมากมายทั้งโจรสลัด พายุ หมอก สัตว์ประหลาด และมีสมบัติใต้ทะเลให้งมกับอีกด้วย ซึ่งทำให้เราต้องปรับจูนเรือเพื่อผจญภัยในทะเล ที่ทำให้การล่องเรือสนุกขึ้นเยอะเลยทีเดียว ข้อเสียข้อเดียวของเกมนี้ก็คือการใช้ภาษาในการแก้ปริศนาพอสมควร และแน่นอนสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ภาษาญี่ปุ่นคงมึนหัว ทางที่ดีควรจะรอภาค US แต่ถ้าอยากเล่นจริงๆสามารถหาข้อมูลการเล่นตามเว็บบอร์ด ได้เช่น www.thainin.com ที่มีเพื่อนๆทำบทสรุปคร่าวๆไว้ให้แล้ว ส่วนของแถมเล็กๆน้อยๆที่เสริมมาคือโหมดเล่นแข่งกันแย่งTriforce ผ่าน Wi-Fi ที่ดูเหมือนเป็นของแถมมากกว่าเอาไว้เล่นกันจริงๆจังๆ

สรุปแล้ว Phantom Hourglass ยังคงรักษามาตรฐานของเกมในซีรีย์เซลด้าได้อย่างดีเยี่ยม และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆเพิ่มเติมให้กับเซลด้า แม้จะไม่ยิ่งใหญ่อลังการ เท่า Twilight Princess เพราะเป็นเครื่องมือถือ แต่ก็ทำได้ยอดเยี่ยมที่สุด สำหรับมือถือเช่นกัน ทั้งความยอดเยี่ยมของเนื้อเรื่อง ไอเดียและลูกเล่นที่สุดยอด ปริศนาในดันเจี้ยนทำให้เราติดหนึบ จนทำให้เล่นเพลินจนกว่าจะรู้ตัวไฟแดงเตือนว่าแบตจะหมดก็ขึ้นมาแล้ว สนุกขนาดนี้แล้ว คงยากที่จะมีใครโค่นเซลด้าลงจากที่ หนึ่งได้


---------------------------------------------------------------------------------------

เกมการเล่น10
กราฟิก9.5
เสียง9
ความคิดสร้างสรรค์10
ความคุ้มค่าคุ้มค่าที่จะซื้อของแท้
ภาพรวม9.8


วงศกร ปฐมชัยวัฒน์ (Darth.vader)






กำลังโหลดความคิดเห็น