จมดิ่งกับเกมที่ตัวเองไม่เคยได้ยินข่าวกระแทกหูมาก่อน แทบจะถอนตัวไม่ขึ้น รู้แต่ว่าอยากเล่นมันต่อไปเรื่อยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าข่าวเกม“ก๊อด ออฟ วอร์” (God of War) มันผ่านหูผ่านตาไปได้อย่างไรกับเกมฟอร์มยักษ์หนึ่งของโซนี่ แต่ที่แน่ๆมันทำให้ลบภาพเกมแอคชั่นผจญภัยสุดมันๆบน PS2 อย่าง เดวิล เมย์ คราย หรือ ปริ๊นซ์ ออฟ เปอร์เซีย ไปแล้วโดยสิ้นเชิง
สำหรับเรื่องราวของ “เครโทส” ตัวเอกของเกมนั้นค่อนข้างน่าสนใจ เรียกว่าชวนให้คนเล่นติดตามลุ้นตลอดเกมว่าปมแห่งปัญหาทั้งหมดที่ทำให้ “เครโทส” ต้องออกมาห้ำหั่นฟาดฟันกับศัตรูเกิดจากสาเหตุอะไร กับชายที่หน้าตาไม่ได้หล่อเหล่าดึงดูดใจสักเท่าไหร่ หน้าตาเหี้ยมเกรียมเต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผลที่บ่งบอกให้รู้ถึงการผ่านสมรภูมิรบมาอย่างโชกโชน คนคนนี้แหละจะทำให้ทุกคนต้องทึ่งในวิถีชีวิตที่เขาเลือกเดิน
“ก๊อด ออฟ วอร์” หยิบเรื่องราวของเทพนิยายกรีกโบราณมาทำเป็นเกม โดยมี “เครโทส” แม่ทัพทหารสปาร์ตันที่เก่งกาจเป็นตัวดำเนินเรื่อง วันหนึ่งระหว่างที่เขาใกล้ที่จะพลาดท่าให้กับพวกบาบาเรียน เขากลับยินยอมพร้อมใจเป็นทาสรับใช้ ของ“แอรีส” เทพเจ้าแห่งสงครามเพื่อแลกกับการชนะศึก โดยแอรีสมอบดาบที่มีโซ่ติดกับข้อมือให้กับเครโทสไปใช้กำราบข้าศึก จากนั้นเขาได้กลายเป็นคนละคนไปทันที เข่นฆ่าผู้คนอย่างโหดเหี้ยมแบบไร้สติ จนเผลอฆ่าลูกเมียไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว สุดท้ายเมื่อเครโทสได้สติ ฉุกคิดขึ้นได้ เขากลับโศกเศร้าจากเหตุการณ์ที่ทำลงไป จนกลายเป็นฝันร้ายที่ติดตามมาหลอกหลอนตอกย้ำความรู้สึกของเครโทสเรื่อยมา และสีที่ร่างกายของเครโทสกลายมาเป็นสีขาว
แต่แล้ว “อาธีนา” เทพธิดาแห่งเมืองเอเธนส์ ที่คอยปกปักรักษาความผาสุกของชีวิต การหัตถกรรม การเกษตร ได้มาเสนอให้เครโทสกำจัดแอรีสที่ทำให้กรุงเอเธนส์ลุกเป็นไฟด้วยสงครามที่กำลังก่อตัวขึ้น เพื่อแลกกับการไถ่บาปที่เครโทสสร้างขึ้นมาทั้งหมด โดยการออกไปค้นหา “Pandora's box” สิ่งวิเศษสิ่งเดียวที่ช่วยให้กำราบแอเรสได้ หากใครเล่นเกมจนจบจะทราบประวัติภูมิหลังและความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งหมด ซึ่งยังมีความลับอีกมากที่ไม่อาจบอกได้เพราะเกรงจะเล่นกันไม่สนุก รับรองว่าเกมนี้ต้องมีภาคต่อแน่นอน
ด้านการควบคุมในการกดท่าโจมตีนั้น ง่ายๆไม่ซับซ้อน เกมจะมีไกด์บอกให้กดท่าก่อนจะต่อสู้ทุกครั้งที่ได้ท่าใหม่ ทั้งนี้ ก่อนที่ผู้เล่นจะได้ท่าใหม่นั้น จะต้องเก็บสะสม Orb สีแดงไว้คอยอัพเกรดเลเวลของอาวุธและพลังอำนาจวิเศษเอง ซึ่งแต่ละชนิดจะมีเลเวลสูงสุดที่เลเวล 3 ด้านการต่อท่าคอมโบแบบสวยๆในการกำจัดบอสใหญ่หรือรองนั้นจะบังเกิดก็ต่อเมื่อเห็นสัญลักษณ์วงกลมให้กด จากนั้นก็ให้กดปุ่มตามที่เกมกำหนดให้ทันตามเวลา บางครั้งอาจให้ใช้อนาล็อกซ้ายควงตามลูกศร ส่วนจังหวะที่มีการปะทะกันแบบตัวต่อตัว ขึ้นคร่อมกดดาบให้เสียบคู่ต่อสู้ก็ต้องระดมปั๊ม ปุ่มกันสุดฤทธิ์ อาวุธมีให้ใช้กันแค่ 2 ชนิด คือ Blades of chaos (ดาบคู่ติดโซ่ ตอนใกล้จบเปลี่ยนมาเป็น Athena’s blades) และ Blades of artemis (ดาบเดี่ยวอันใหญ่ กด L1+R1 พร้อมกัน)
ส่วนพลังวิเศษนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ชนิด คือ Posaidon’s rase ,Meduza’s gaze (สาปแข็งเป็นหิน หากเราโดยสาปให้แข็งต้องขยับอนาล็อกไปมาอย่างรวดเร็ว) ,Zeus’fury (พลังสายไฟฟ้า) และ The Army of Hades (ปล่อยวิญญาณออกมาช่วยฆ่า) ทั้งนี้ พลังวิเศษทั้งหมดจะเลือกได้โดยกดปุ่มลูกศรทิศทาง แต่จะทยอยออกมาให้เรา ไม่ได้มีพร้อมตั้งแต่ตอนต้น และจะต้องสะสม Orb สีฟ้าให้มากๆเพื่อนำมาใช้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพลัง Rase of god ที่ให้เราแปลงร่างเป็นทหารกรีกที่เต็มไปด้วยพลังการทำลายมหาศาลด้วยการกด L3+R3 พร้อมกัน (ใช้ตอนที่ช่องเกจพลังด้านขวาล่างเต็ม)
ส่วนไอเท็มอื่นๆที่หากเก็บสะสม จะช่วยให้เราเล่นเกมได้ง่ายขึ้นก็คือ Gorgon eyes และ Phoenix Fxeathers (ขนนก) เก็บครบตามจำนวนจะเพิ่มขีดพลังชีวิตและขีดพลังวิเศษให้ยาวขึ้น (ตามลำดับ) โดยไอเท็มที่ให้เราเก็บนั้นจะอยู่ตามหีบสมบัติในฉากต่างๆ
ฉากแรกของเกมนั้นเกิดขึ้นบนเรือในทะเล Aegean โดยมีบอสเป็นไฮดราตัวใหญ่ให้เราได้กำจัด เรียกว่าเป็นการเอาบอสขนาดใหญ่ยักษ์มาเป็นจุดขายตั้งแต่เริ่มเพื่อล่อให้คนเล่นอยากลุยในด่านต่อไปได้ดีมาก ตลอดทั้งเกมจะมีศัตรูแปลกๆใหม่ๆทยอยออกมาให้ฟันกันแบบไม่ยั้ง แต่ความลงตัวที่ทำให้เกมนี้ดูมีเสน่ห์กว่าเกมรุ่นพี่อย่าง เดวิล เมย์ คราย และ ปริ๊นซ์ ออฟ เปอร์เซีย ก็คงเป็นการแก้ Puzzle ที่ต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบกันแบบคาดไม่ถึงในหลายจุด เล่นเอาบางคนท้อแท้ไปนักต่อนัก เกมมีความบู๊และบุ๋นคละเคล้าไปแบบสมดุล ไม่เน้นด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป พูดง่ายๆว่าอะไรที่เดวิลมี “ก๊อด ออฟ วอร์” ก็มี หรืออะไรที่ปริ๊นซ์มี “ก๊อด ออฟ วอร์”ก็มีด้วย แถมดีกว่าในบางจุด รู้สึกว่าเท่าที่ลองเล่นจนจบมี Puzzle ยากๆอยู่ 2 จุด คือด่านที่เอาเครื่องยิงธนูไปทำลายประตู กับฉากที่ช่วยเหลือผู้หญิงบนเชือก นอกนั้นพอจะเดาได้ออกแบบไม่ยากเกินไป
ภาพกราฟิกเกมนี้ทำออกมาได้สวยงามหยดย้อย เรียกว่าดึงประสิทธิภาพของเพลย์สเตชั่น 2 มาใช้ได้คุ้มค่าที่สุด ฉากที่ชอบมากที่สุดในความอลังการเห็นจะเป็นด่านที่เป็นทะเลทราย มีฝุ่นผงปลิววอนกระจาย บดบังทัศนียภาพได้ดีเยี่ยมยอด มีการใช้แตรวิเศษเป่าพายุทรายให้ทะลุเป็นช่องโหว่ยาวจนสุดสายตา เพื่อให้เราเดินลอดผ่าน คล้ายๆฉากเสกแม่น้ำให้เป็นช่องในการ์ตูนแอนนิเมชั่นเก่าของดรีมเวิร์กเรื่อง The prince of egypt เลย
องค์ประกอบเด่นๆที่ขอหยิบยกมาบอกให้ทราบกันคร่าวๆอาทิ “เชือก” ที่ให้เราโหนตัวนั้น หากเราโหนที่ต้นเชือกจะไม่มีแรงส่งพอให้กระโดดไปได้ ต้องเลื่อนลงมาจับปลายๆเพื่อให้เกิดแรงเหวี่ยงมากขึ้น ซึ่งทำได้สมจริงมาก ผิดกับเกมอื่นๆที่ทำมา นอกจากนี้ เชือกในเกมยังมีกิจกรรมให้เล่นอีก เช่น โรยตัวลงมา หรือ ไต่ข้ามไปอีกฝั่งท่ามกลางศัตรูที่ไต่มาด้วย โดยเราสามารถต่อสู้กันบกเชือก ด้วยท่าทางต่างๆ ที่เด็ดมากคือการเอาขาล็อคคอแล้วเหวี่ยงให้ตก และใช้อนาล็อกสลัดศัตรูที่ดันมาจับขาเรา
ด้านการเกาะตาข่าย หรือผนัง ก็ทำได้ดี มีการจับศัตรูที่มาใกล้ๆ กระแทกกับผนังหรือดึงขาให้หล่น แถมมีการกระโดดย้ายไปจับผนังอีกด้านที่แสดงท่าการจับได้เหมือนจริง ส่วนฉากที่ถูกใจคนไทยมากคือการปีน “ต้นงิ้ว” (เสาที่มีคมเหล็กแหลมรอบๆ) อันนี้แค่โดดจึ๊กเดียว ไม่ว่าคุณจะขึ้นไปสูงแค่ไหนก็ร่วงลงมาเริ่มใหม่ด้านล่าง
แสงเงาของน้ำและพื้นห้องที่สะท้อนได้ เกมนี้ทำได้งดงาม ต้นไม้ก็มีการโอนเอนสั่นไหวตามแรงลม มุมกล้องแม้จะไม่สามารถบังคับหมุนวนได้ตามใจชอบ แต่ก็ถือว่าคนทำเลือกบังคับมุมมองได้เกือบดีแล้ว อย่างบางฉากที่เดินเข้าไปในทะเลทราย เกมจะวางมุมกล้องให้ดูเหมือนเราเดินไปจนสุดขอบฟ้าจริงๆ มีเพียงบางมุมเท่านั้นที่ยังดูติดขัด จุดด้อยข้อบกพร่องเกมนี้แทบจะหาไม่เจอเท่าไหร่ เท่าที่สังเกตมี 2 จุดที่รู้สึกขัดๆ คือ การเดินข้ามทางแคบๆในช่วงฉากแรกที่เหมือนขาเราลอยได้ กับจุดที่เราน่าจะหล่นลงไปได้ แต่กลับไม่หล่น คล้ายๆเดวิล เมย์ คราย ที่มีการจำกัดให้เราอยู่ในกรอบที่เกมกำหนด ดูไม่เป็นอิสระ
ด้านการโหลดของเกม แทบจะไม่เป็นอุปสรรค กวนใจตลอดที่เล่นเลย ทำให้เล่นเกมได้ลื่นไหล บางครั้งจะแอบโผล่คำว่า “Loading” มาระหว่างฉาก แบบคาดเดาไม่ได้ว่าจะมาตอนไหน ส่วนการที่เราตายระหว่างฉากนั้นก็ไม่สร้างปัญหาให้กับผู้เล่นที่จะต้องไปเริ่มจุดเซฟ เพราะมันจะซอยย่อยทีละช็อตที่คิดว่าผู้เล่นจะตายมากที่สุด สำหรับฉากหนังที่บอกเล่าเรื่องราวเกมก็ทำได้ดี สวยงามเหมือนเราได้ชมหนังเรื่องหนึ่ง มีการวางจุดที่จะบอกเล่าความเป็นมาของเรื่องได้ลงตัว
อีกจุดหนึ่งที่เกมกล้าในการตัดสินใจทำออกมาก็น่าจะเป็นฉากเปลือยหน้าอกของสาวๆในเกมที่โชว์หน้าอกกันแบบโจ๋งครึ้ม และยังสามารถวู้ฮู้กับสาวๆได้ด้วยเพียงแต่เราจะเห็นแค่เหยือกสั่นหลังจากที่กดคอมโบตามที่กำหนดมาได้ทัน รวมไปถึงการต่อสู้ที่โหดชนิดเลือดสาดแบบเต็มที่ ซึ่งเห็นว่าเกมนี้ไม่เหมาะสำหรับให้เด็กเล็กๆเล่นแน่นอน เพราะมันดูรุนแรงเกินไปถ้าเด็กยังแยกแยะโลกแห่งเกมกับโลกแห่งความเป็นจริงไม่ออก
ด้านดนตรีประกอบเกมนี้นั้นไม่ธรรมดา อลังการกว่าหนังฮอลลีวู้ดใหญ่ๆซะอีก ใช้เสียงบรรเลงของวงออร์เครสต้า เร้าอารมณ์ในการเล่นให้รู้สึกฮึกเฮิมได้ดี เสียงพากย์ของตัวละครและสิ่งแวดล้อมรอบๆก็จับเอามาแบบทุกเม็ด ตอนขีดเลือดใกล้หมดจะมีเสียงหัวใจเต้นรัวขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าเสียงประกอบในเกมนี้ทำได้โดดเด่นที่สุดสำหรับเกมแอคชั่นในขณะนี้
นับว่า “God of war” เป็นเกมแอ็คชั่นผจญภัยเกมแรกที่ทำในอเมริกาแล้วรู้สึกโดนใจกว่าเกมญี่ปุ่นบ้างเกมซะอีก ถือว่าเป็นเกมที่เราเทใจให้คะแนนไปเต็มๆ คาดว่ามันคงจะได้รางวัลใหญ่ๆไปกอดหลายสาขาเลยทีเดียว และตอนจบคุณจะรู้ว่าเครโทสได้ทำหน้าที่อะไรต่อไป
| เกมการเล่น | 9.5 |
| กราฟิก | 10 |
| เสียง | 10 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 9.5 |
| ความคุ้มค่า | คุ้มเกินคุ้ม |
| ภาพรวม | 9.5 |
หมายเหตุ - "ผู้จัดการเกม" จะมีการให้รางวัลเกมที่รีวิวกับเกมต่างๆที่ผ่านการรีวิวจากเรา แบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้
-เหรียญทอง คะแนนภาพรวมมากกว่า 9.0
-เหรียญเงิน คะแนนภาพรวมมากกว่า 8.0
-เหรียญทองแดง คะแนนภาพรวมมากกว่า 7.0
By… FMMAN
