รัสเซล แบรนด์ นักแสดงและนักแสดงตลกชาวอังกฤษ อดีตสามีของนักร้องชื่อดัง เคที เพอร์รี ออกมากล่าววิจารณ์ความสัมพันธ์ครั้งล่าสุดของอดีตภรรยากับ จัสติน ทรูโด อดีตนายกรัฐมนตรีแคนาดา ระหว่างการปราศรัยในงาน AmericaFest ของกลุ่ม Turning Point USA เมื่อไม่นานมานี้
การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากเคที เพอร์รี เปิดตัวความสัมพันธ์กับทรูโดต่อสาธารณชน โดยระหว่างการพูดบนเวที แบรนด์ได้กล่าวถึงเพอร์รีโดยตรง พร้อมระบุว่าตนยังคงมีความรู้สึกดีต่ออดีตภรรยา และกล่าวถึงมารดาของเพอร์รีซึ่งนั่งอยู่ในกลุ่มผู้ฟังในขณะนั้นด้วย
แบรนด์กล่าวว่า เขาไม่รู้สึกติดใจในช่วงเวลาที่เพอร์รีคบหากับนักแสดง ออร์แลนโด บลูม แต่ออกปากแสดงความไม่เห็นด้วยต่อความสัมพันธ์กับจัสติน ทรูโด พร้อมใช้ถ้อยคำวิพากษ์วิจารณ์อดีตผู้นำแคนาดาในเชิงการเมืองระหว่างการปราศรัย
“ดูนะ แคธี่ เพอร์รี ผมเคยแต่งงานกับเธอ ผมยังรักเธออยู่ และก็ดีใจที่แม่ของเธออยู่ในห้องนี้จะได้ยินเรื่องนี้ด้วย แต่ฟังนะ ตอนที่เป็นออร์แลนโด บลูม ผมก็โอเคนะ แต่ จัสติน ทรูโด? เอาจริงสิ อย่ามาจัดผมให้อยู่พวกเดียวกับหมอนั่น — ไอ้หุ่นเชิดของพวกโลกาภิวัตน์นั่น” เขากล่าว
เคที เพอร์รี และรัสเซล แบรนด์ เคยแต่งงานกันระหว่างปี 2010 ถึง 2012 ก่อนจะยุติความสัมพันธ์ โดยมีรายงานในขณะนั้นว่าแบรนด์เป็นฝ่ายแจ้งขอหย่าผ่านข้อความในคืนวันสิ้นปี
หลังการหย่าร้าง เพอร์รีเริ่มคบหากับออร์แลนโด บลูม และทั้งคู่หมั้นหมายกันในปี 2020 ก่อนจะยุติความสัมพันธ์ในปี 2025 ทั้งสองมีบุตรสาวร่วมกันหนึ่งคน คือ เดซี โดฟ
รายงานข่าวยังระบุว่า คำกล่าวของแบรนด์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเพอร์รีกับทรูโด เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาเองกำลังเผชิญกับกระบวนการทางกฎหมาย โดยก่อนหน้านี้ แบรนด์ถูกตั้งข้อหาหลายกระทงเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศและการข่มขืน
ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกเปิดเผยครั้งแรกในเดือนกันยายน 2023 จากการสืบสวนร่วมกันของ The Sunday Times, The Times และรายการ Dispatches ของ Channel 4 ซึ่งมีผู้หญิงห้ารายออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อ้างว่าเกิดขึ้นระหว่างปี 1999 ถึง 2005
สำนักงานอัยการอังกฤษ ระบุในแถลงการณ์ว่า หลังจากการตรวจสอบหลักฐานที่ได้จากการสอบสวนของตำรวจ เห็นว่ามีมูลเพียงพอในการตั้งข้อหาต่อรัสเซล แบรนด์ ในความผิดหลายรายการ รวมถึงการข่มขืน การล่วงละเมิดทางเพศ และการกระทำอนาจาร
ก่อนหน้านี้ แบรนด์เคยออกมาชี้แจงต่อสาธารณชน โดยยอมรับว่าในช่วงวัยหนุ่มเขามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายประการ แต่ยืนยันว่าไม่เคยกระทำการใดโดยปราศจากความยินยอม และปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมระบุว่าจะใช้กระบวนการยุติธรรมในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนในชั้นศาล


