xs
xsm
sm
md
lg

“ณวัฒน์” โต้ข่าว “มิสจาเมกา” โคม่า ยันจ่าย 2 ล้านดูแลเต็มที่ ส่งกลับบ้านแล้ว แต่หากโดนฟ้องก็ต้องยอมรับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ณวัฒน์” โต้ “มิสยูนิเวิร์สจาเมกา” ตกเวทีอาการโคม่า ยันกลับบ้านแล้วใช้ชีวิตปกติได้ ยืนยันดูแลเต็มที่จ่าย 2 ล้านส่งพยาบาลประกบถึงประเทศ แต่ยอมรับไม่รู้อนาคตจะมีการเรียกร้องอะไรหรือไม่ แต่โยนให้กองแม่ เพราะหมดหน้าที่เจ้าภาพ แต่หากฟ้องก็ต้องยอมรับสภาพ

หลังจากที่เกิดเหตุ “ดร.กาเบรียล เฮนรี” มิสยูนิเวิร์สจาเมกา 2025 ประสบอุบัติเหตุตกจากเวทีระหว่างประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2025 ในรอบพรีลิมฯ ซึ่งจัดประกวดที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา และมีข่าวออกมาว่าอาการสาหัส เลือดออกในสมอง สูญเสียการรับรู้ ต้องส่งตัวกลับไปรักษาต่อที่ประเทศบ้านเกิด ล่าสุด “ณวัฒน์ อิสรไกลศีล” ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวออกไป เพราะถึงแม้ตนจะไม่ได้ไปส่งที่สนามบิน แต่ทราบว่าสามารถกินข้าวได้ ใช้ชีวิตปกติได้ดีแล้ว แค่อาจจะยังมีมึนๆ หัว

กลับไปเรียบร้อยแล้วครับ ค่ารักษา 2 ล้านกว่าบาท เพราะน้องก็อยู่ดีกินดี รักษาเต็มที่ รักษาที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ย้ายมาจากโรงพยาบาลเดิมที่เข้าฉุกเฉินไป ใกล้ๆ กับอิมแพ็คฯ มาอยู่ที่เพชรบุรีตัดใหม่ ก็เพิ่งกลับไปเมื่อ 5 วันที่ผ่านมา ก็มีการจัดแพทย์และพยาบาลขึ้นเครื่องไปส่งถึงจาเมกา เพราะเป็นการรีเควสของคนไข้ ดูจากอาการแล้วน้องทานข้าวได้ปกติ ทุกอย่างปกติ เพียงแต่น้องบอกว่าอาจจะมีมึนๆ หัวในบางจังหวะอยู่ ก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ น่าจะโอเคอยู่ ก็คือการใช้ชีวิตได้

ส่วนข่าวออกมาว่าอาการโคม่า คือตอนที่ไปจากเรา ผมไม่ได้ไปส่ง แต่ผมก็เช็กงานจากทางองค์กรยูนิเวิร์ส ก็ทานข้าวได้ ใช้ชีวิตปกติได้ โดยปกติถ้าโคม่าขึ้นเครื่องไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแค่อาจจะอยู่ในอาการที่ยังไม่ 100% แต่สามารถที่จะสื่อสาร รับรู้ คือเครื่องบินมีแบบเดียว ถ้าคุณโดยสารแบบปกติ จะต้องเป็นเครื่องบินที่เขายอมรับความปลอดภัยในระดับนึง เขาถึงให้คุณขึ้น แต่อาจจะมีแพทย์ พยาบาลเป็นเพื่อน ก็จะเป็นความปลอดภัยอีกระดับนึง แต่ถ้าคนที่สาหัสหรือเป็นคนไข้ที่หนัก ส่วนมากจะต้องเคลื่อนย้ายด้วยเครื่องบินสำหรับปฐมพยาบาล เป็นเครื่องบินเล็ก ก็คือนอนนิ่ง แต่มันไม่ได้เป็นระบบนั้น แต่ผมก็ไม่รู้ว่าไปแล้วจะหนักแค่ไหนนะ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ครับ”

องค์กรรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่รู้อนาคตจะมีการเรียกร้องอะไรหรือไม่
“พูดง่ายๆ ว่าค่าใช้จ่ายองค์กรก็รับผิดชอบไป ประกันก็เต็มความสามารถ บางอย่างที่โอเวอร์กันประกัน มันเป็นการรักษาหรือขอพิเศษ ทางองค์กรยูนิเวิร์สเขาก็ยอมจ่ายให้นะครับ คือในเงื่อนไขเราทำประกันให้แล้ว ก็คือจ่ายแล้ว ส่วนเกินก็สามารถที่จะดูแลให้ ทางครอบครัวหรือทางจาเมกาก็ไม่ได้ต้องจ่ายอะไร รวมถึงการเดินทางกลับ ซึ่งกลับพร้อมกับครอบครัวด้วย เอาพยาบาลติดไปด้วย ก็ตั้งแต่ขึ้นเครื่องไปจนถึงจาเมกา พอถึงก็กลับ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นหน้าที่ของทางองค์กรและประกันอยู่แล้ว เราก็ทำงานเต็มความสามารถและเต็มที่ในลักษณะของการเกิดอุบัติเหตุและต้องช่วยเหลือครับ

ผมไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น อาจจะมีการเรียกร้องอะไรผมไม่รู้จริงๆ ทั้งหมดผมส่งเรื่องนี้กลับไปที่ยูนิเวิร์สที่เม็กซิโกเรียบร้อยแล้ว ว่าเป็นเรื่องของระหว่างทางจาเมกากับทางองค์กรนะ เพราะเราหมดหน้าที่ประเทศเจ้าภาพแล้ว เราได้ดูแลในขอบเขตของประเทศไทยจบสิ้นแล้ว และเราก็ได้เก็บเรคคอร์ดที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากอะไร เพราะเรามีเทป เราชี้แจงไปหมดแล้ว เราทำหน้าที่ในฐานะเจ้าภาพในฐานะมนุษยธรรม ในฐานะผู้ดูแล ในฐานะผู้ที่ทำประกันให้ครบถ้วนทุกอย่างแล้วครับ”

เผยถ้าอีกฝ่ายจะฟ้องก็เป็นสิทธิที่ทำได้
อันนี้ผมถึงได้บอกว่าผมไม่แน่ใจว่าอาการจริงๆ ตอนนี้เป็นยังไงกันแน่ ไม่แน่ใจว่าอาการนี้จะไปบวกกับเอกสาร หรือจะไปบวกกับคำร้องผมก็ไม่แน่ใจ แต่ถามว่ามีสิทธิ์ไหม ก็มีสิทธิ์นะครับ ผมยังยืนตามหลักมนุษยชน เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องหรือต่อต้านอะไรก็ได้ เป็นสิทธิ์ส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ แต่เราก็มีสิทธิอธิบายและรอไป แต่โดยเบื้องต้นคุยกันหรือลูกน้อง หรือเจ้าหน้าที่ติดต่อพูดคุย ครอบครัวก็เป็นคนไนซ์ เป็นคนเข้าใจได้ ครอบครัวก็เป็นหมอ ตัวน้องเองก็เป็นหมอนะ ซึ่งก็เข้าใจกันได้และไม่มีอะไรที่ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ตึงเครียดขณะอยู่เมืองไทย มีการออมชอม มีการช่วยเหลือ มีการทำความเข้าอกเข้าใจ และองค์กรยูนิเวิร์สก็ส่งคนมาดูแลตลอดเวลา แต่ถ้าหลังจากนี้เมื่อกลับไปแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นเราก็ต้องยอมรับสภาพที่มันเกิดครับ

ตอนนี้ถ้าจะบอกก็ต้องบอกที่ยูนิเวิร์สองค์กรแม่สำนักงานใหญ่ เพราะหมดสิ้นจากภาระของเราแล้ว แต่ถ้าจะฟ้อง ผมก็ไม่รู้ว่าจะฟ้องใคร ถ้าจะฟ้องโดยปกติก็ต้องฟ้องยูนิเวิร์ส เพราะสนธิสัญญาระหว่างเขากับยูนิเวิร์ส แต่สำหรับเราที่จบไปเราก็ต้องยืนยันอีกครั้งว่าเราได้ดูแลทุกคนอย่างดี 120 คน มันตกไป 1 คน สาเหตุการตกเราก็พูดอย่างชัดเจนนะ เรามีบล็อกกิ้งถึงจุดไหนแล้วเลี้ยว ทุกคนก็เดินไปถึงจุดนั้น แต่น้องเดินมาไม่ถึงจุด ห่างเยอะมาก ไกลๆ เลย เดินมาได้ประมาณ 2/3 ของรันเวย์ และเลี้ยวเองเลย และไม่ได้เข้าทางด้วย มันก็เลยลงช่องไป

เราก็เก็บเรคคอร์ดตรงนั้นเป็นหลักฐาน ว่าทุกๆ คนเดินมาตรงไหนและทำอะไร ผ่านการฝึกซ้อมอย่างดี และรันเวย์ของเราไม่ว่าจะปีกซ้าย ปีกขวา ปีกกลาง เป็นรันเวย์ที่ใหญ่มาก เป็นรันเวย์ที่คนยืนหลายๆ คนแล้วเต้นได้ มาพร้อมๆ กัน 120 คน เต็ม 3 รันเวย์ได้ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นเส้นที่เล็กมากจนก่อให้เกิดความน่าหวาดเสียว เพราะวิ่งกันได้ เต้นกันได้ เรียงหน้ากันได้ 5 คนต่อรันเวย์ แต่การตกต้องยอมรับว่าสิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัด เราได้ดูเทปแล้ว คือน้องไม่ได้จดจำคิวที่จะต้องดำเนินการแสดงหรือดำเนินการประกวดครับ”

ยอมรับไม่ได้ขึ้นซ้อม เพราะก่อนถึงเวลาประกวดเกิดไม่สบายพอดี
“ที่บอกว่าไม่ได้ขึ้นซ้อม อันนั้นก็อาจจะมีส่วนนะครับ เพราะน้องอาการก็ไม่ค่อยดี เหมือนไม่ค่อยสบาย และก่อนขึ้นก็เหงื่อออก ดูเหมือนจะไม่ค่อยไหว และทางเจ้าหน้าที่เราที่อยู่ด้านหลังก็ถามว่าไหวไหม น้องก็บอกว่าไหว แต่เราก็ไม่อยากจะไปบอกว่าน้องไม่ซ้อม เพราะน้องก็ป่วยแล้ว เอาเป็นว่าซ้อมมากซ้อมน้อยไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นคือไม่ได้จำบล็อกกิ้งที่จะเดินจริง เรามีวงกลมเล็กๆ เป็นจุดมาร์กไว้ให้อยู่แล้ว ถ้าเดินจบและเลี้ยวยังไงมันก็เกินแสนเกิน แต่น้องเดินมาไม่ถึง และเลี้ยวโดยที่ไม่มองเลยว่าเดินไปไหน และก้าวลงไปเลย ถ้าทุกคนเห็นภาพนะ ก้าวเลยโดยที่ไม่มีการบ่งบอกสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้นครับ”

เผยรับรู้เรื่องข่าวว่ามีกลุ่มซาแซงของ “วีนา ปวีนา ซิงค์”
ก็รู้ข่าวครับ แต่อยากอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เพราะว่าเรื่องของด้อมเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และมีมาตั้งแต่ปี 2022 ของอิงฟ้า (อิงฟ้า วราหะ) เริ่มต้นที่พวกเราทำด้อมกัน ด้อมต้องมีวินัย ต้องมีระเบียบ ต้องมีความซื่อสัตย์ ต้องจริงใจ แต่ปัญหาคลาสสิกก็คือปัญหาคนหาผลประโยชน์กับด้อม หรือหาผลประโยชน์กับความรักที่คนมีให้กับศิลปินหรือผู้เข้าประกวด อันนี้เป็นเรื่องคลาสสิก และมีบ่อย มีกับหลายคน เพียงแค่เรื่องมันไม่เปิดเผยออกมา หรือเรื่องได้ถูกการพูดคุยแล้วสงบลง

ผมก็อยากให้เรื่องนี้เขาไปคุยกันเอง ถามว่ามันเข้าข่ายผิดกฎหมายไหม สำหรับผมคิดว่ากฎหมายมันยาก แต่ผิดศีลธรรม ผิดจริยธรรม ความไม่เหมาะสมน่ะใช่ เพราะว่ากฎหมายมันต้องยึดเอกสาร ถ้าเราทำเอกสารมันก็ส่วนนึง แต่ถ้าไม่มีเอกสารใดๆ ให้ไปด้วยความเสน่หา อาจจะเสน่หาคนอื่นแล้วเอาไปรวมไว้ที่คุณ มันก็เป็นเรื่องของความเสน่หา

เพราะฉะนั้นผมพูดได้แค่นี้ว่าใครที่ทำก็หยุดซะ และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ถ้าใครทำตามก็ขอให้ด้อมอื่นๆ ศิลปินคนอื่น ผู้เข้าประกวดคนอื่นให้ระวังด้วย สำคัญที่สุดต้องมีแอดมินที่ดีทุกด้อม นี่คือเทคนิคเลย แอดมินที่ดี ไว้เนื้อเชื่อใจได้หายากมาก แอดมินที่ดีจะต้องตรวจสอบบัญชีที่ดี และบัญชีที่ดีจะต้องมีการเปิดเผยทุกกรณี ไม่ใช่เอามาใช้เป็นทรัพย์สินตัวเอง มาซื้อตั๋วเครื่องบิน มาเช่าโรงแรมเพื่อวิ่งตามศิลปินโดยใช้เงินโอน บริจาค โดเนท อันนี้มันเกิดขึ้นเยอะมากครับ ถ้าใครทำอยู่ก็เลิกเถอะครับ เพราะว่าเวลาที่มีปัญหาขึ้นมาคนที่เสียคือคนทำ คนที่น่าอายคือคนทำ และคนที่จะทำให้คนไม่อยากเข้าใกล้ก็คือคนที่ทำแบบนั้นครับ ถามว่ากลัวจะมีผลต่อภาพลักษณ์นางงามไหม ไม่มีครับ ภาพลักษณ์ก็จะมีกับคนที่ขโมยไป (หัวเราะ) ของเราชิลๆ สบายๆ ครับ”

บอกถ้าเจอตัวก็คงจะตักเตือนให้กลัวกันบ้าง
“ถ้าบอกว่าคนนี้เคยมีประวัติกับหลายด้อม เอาเป็นว่าผมไม่รู้เรื่องอดีตของเขา แต่เขาก็ยอมรับว่ามันเคยเป็นแบบนั้น เนื่องจากความจำเป็นหลายประการ เรื่องของการลงทุนทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ แล้วมันขัดสน ก็เลยเป็นเรื่องอดีตที่เกิดขึ้นจากซาแซงศิลปินคนอื่น ศิลปินต่างชาติอะไรแบบนี้ครับ

ถ้าผมมีโอกาสเจอน้อง ผมจะคุย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เจอ แต่ถ้าเจอน้องผู้ที่ถูกกล่าวหา ตอนนี้ผมก็สนิททุกคน ไปเที่ยวอยู่กับเรา ถ้าเจอก็จะบอกว่าคนเราทำอะไรต้องรับผิดชอบ และไม่ว่าคุณจะผิดมากผิดน้อย ยังไงก็แล้วแต่ผมเชื่อกฎแรงโน้มถ่วงอย่างนึงว่าสิ่งที่คุณทำถ้ามันไม่เหมาะสม มันผิดพลาด ยังไงชีวิตคุณก็จะต้องมีปัญหาแน่ๆ เพราะฉะนั้นก็คงจะให้การตักเตือนสไตล์ผู้ใหญ่ เพื่อให้เขารู้สึกกลัวในสิ่งที่จะมีผลกระทบทีหลังเมื่อทำไปมากกว่าครับ เรื่องดำเนินคดี สำหรับผมคิดว่ายาก เพราะมันเป็นความชอบ มันเป็นเสน่หา มันไม่มีเอกสาร และไม่สามารถแจกแจงได้”

ยินดีกับ “กชเบล ศรัณย์รัชต์ เผือกพิพัฒน์” ที่ภาพยนตร์เรื่อง “ข้างบ้าน” ใกล้แตะร้อยล้าน
“ตอนนี้ 80 ล้านแล้ว (ปรบมือ) ผมว่าถ้าผ่านเสาร์-อาทิตย์นี้ได้ ยังไงก็ 100 ล้าน 100% ก็ขออวยพรให้เป็นนางเอก 100 ล้านกับเขาแล้วกัน ดีใจกับกชเบลด้วยนะครับ ตอนนี้งานติดต่อน้องมาเยอะมาก ทำให้น้องดูมีประกายฟรุ้งฟริ้งมากมายก่ายกอง ทั้งหมดก็มาจากความพยายาม เราเองก็คัดสรรงานให้ เราก็ภูมิใจ น้องเองก็สามารถที่จะเล่นได้สมบทบาท และต้องขอบคุณพี่โขม (ก้องเกียรติ โขมศิริ) ผู้กำกับด้วย ที่ร้อยเส้นเรื่องนี้ออกมาได้น่าดูมาก ถ้าผู้กำกับไม่เก่ง คนเล่าเรื่องไม่เก่ง เรื่องมันก็จะไม่น่าสนใจเท่านี้ครับ”

เผย Grand all star คนแรกของประเทศไทยมีแน่นอน
อิงฟ้า-ชาล็อตเหรอ ให้มันได้หายใจหายคอบ้างเถอะ (หัวเราะ) แต่คนแรกที่มีชื่อแล้วคือ ทารีน่า โบเทส (มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2566 และรองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2564) แต่คนไทยยังมีอีกหนึ่งคนนะครับ เดี๋ยวรอเปิดตัว ส่วน น้ำ (พัชรพร จันทรประดิษฐ์) ไม่ว่าง ด่าผัวอยู่ (หัวเราะ)"









กำลังโหลดความคิดเห็น