xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ “ณวัฒน์” ปะทะ “กัน จอมพลัง” ทำไมไม่พรีเซนต์ “อีฟ” เป็นประธาน ลั่นประชาชนและสื่อโง่เอง! (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดุเดือดไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ “กัน จอมพลัง” ที่ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีความสงสัยของสังคม กับกรณีที่กันนั่งแท่นที่ปรึกษามูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้ ไม่ใช่ประธานมูลนิธิฯ เอง อีกทั้งในเอกสารข้อบังคับข้อที่ 39 ยังระบุชัดว่าหากมูลนิธิฯ ล้มเลิก ยกทรัพย์สินทั้งหมดให้มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า

โดยงานนี้ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” บอสเวทีมิสแกรนด์ฯ หนึ่งในผู้บริจาคเงิน ได้บุกไปถึงงานแถลง พร้อมถามฟาดรัวๆ ทั้งเรื่องขอคืนเงินบริจาค ทำไม “อีฟ กาญจนา สถาวร” ประธานมูลนิธิฯ ไม่เคยพรีเซนต์ว่าเป็นประธาน การใช้เฮลิคอปเตอร์ของหน่วยงานราชการ ใครเป็นผู้อนุญาต

ณวัฒน์ :ในฐานะผู้บริจาค ทำไมคุณอีฟไม่เปิดตัวแต่แรก ทำไมอยู่ข้างหลัง จนวันนี้ถึงยอมออกมา

อีฟ : เบื้องต้นอีฟอยู่มาตลอด พี่ๆ หลายคนก็เคยเจออีฟ ตั้งแต่ก่อน

ณวัฒน์ : คำถามคือไม่มีการนำเสนอชัดเจน ใครเป็นประธาน ใครเป็นผู้มีอำนาจ ใครคือคีย์แมนมูลนิธิ เปรียบเหมือนเป็นพรีเซ็นเตอร์ เงินไหลเข้าภายใต้อันเดอร์คุณทั้ง 3 คน ทำไมไม่ชี้แจงให้ชัดเจนว่าเป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรก ให้ตอบให้ตรงประเด็น อย่าตอบว่าช่วยคนอื่น ทุกคนช่วยหมด ทำไมไม่ดีแคร์ตัวเองในนามมูลนิธิตั้งแต่ต้น ทำให้สังคมไม่สับสนครับ

กัน : ผมขออนุญาตอบคำถาม

ณวัฒน์ : ผมถามคุณอีฟครับ




อีฟ : เบื้องต้นอีฟไม่เคยปิดบังในพาร์ตตัวเองเป็นประธานมูลนิธิ คนรู้จักหรือได้เห็นกัน อีฟก็เปิดตัวตลอดว่าเป็นประธานมูลนิธิ รวมถึงการไปลงพื้นที่แล้วเจอเจ้าหน้าที่ต่างๆ ในส่วนพาร์ตประสานงานเป็นตัวของอีฟหมดเลยค่ะ
ณวัฒน์ : คุณอีฟเคยพลับบลิกสื่อช่วงไหนบ้างครับ ในการเป็นประธานมูลนิธิ คุณอีฟช่วยโชว์เอกสาร โชว์ข่าวย้อนหลังให้เห็นนิดนึงครับ

อีฟ : จริงๆ แล้วอีฟไม่ใช่คนในสื่อค่ะ

ณวัฒน์ : กลับมาประเด็น ทำไมไม่บอกผ่านทุกคน ผ่านสื่อ และผู้ที่กำลังโอนเงินให้คุณว่าเป็นของคุณ นี่เป็นประเด็นหลักครับ ผมถามสื่อมวลชนว่าใครรู้มาก่อนหน้านี้มั้ยว่าคุณอีฟเป็นประธาน ถ้ารู้ยกมือขึ้น (ไม่มีใครยกมือ) ไม่มีใครรู้ครับ มันเป็นวาระซ่อนเร้นสำหรับผม เข้าประเด็นเลยครับ

อีฟ : จริงๆ แล้วมันไม่เป็นวาระซ่อนเร้นอะไรหรอกค่ะ

ณวัฒน์ : สำหรับเรามันคือวาระซ่อนเร้น

กัน : เรื่องนี้ขออนุญาตเป็นคนกลาง

ณวัฒน์ : ไม่เป็นไร คุณกันเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์

กัน : ถ้าพี่ณวัฒน์ถาม ผมอยากให้พี่ณวัฒน์รอฟังคำตอบเขานิดนึง พอเขาพูดแล้วพี่ณวัฒน์ก็จะขัด ขออนุญาตฟังคำตอบเขานิดนึง

ณวัฒน์ : เชิญครับ

อีฟ : อีฟต้องบอกก่อนว่าอีฟเข้าใจในสิ่งที่คุณณวัฒน์สื่อสาร ว่าทำไมไม่มีประกาศลงเฟซบุ๊กหรืออะไรต่างๆ ที่เป็นสื่อของคุณกัน จอมพลังเอง จะบอกว่าปกติไม่มีใครมานั่งดูว่าใครเป็นประธาน เพราะเราโฟกัสสิ่งที่ทำอยู่ แต่ส่วนตัวอีฟ ปิดบังหรือเปล่า ไม่มีค่ะ พูดตรงๆ จะประธานหรือไม่ประธาน สถานะก็คืออาสาสมัครคนนึงเหมือนกัน ตัวอีฟก็ลงพื้นที่ทำงานตามปกติ ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง


ณวัฒน์ : อันนี้ต้องเบรก เพราะไม่อยากให้ผ่านประเด็น

อีฟ : ไม่ผ่านประเด็นค่ะ เราต้องตอบจนกว่าคุณณวัฒน์จะเข้าใจตรงกันค่ะ

ณวัฒน์ : ไม่ตรงครับ คุณกำลังลากไปจุดอื่น ประธานไม่ประธาน ก็คืออาสาสมัคร มันไม่ใช่ ประธานคือผู้มีอำนาจใช้เงินร่วมกับคนอื่นอีก 1 คน ตรงนี้คือประเด็นและสาระ อาสาสมัครไม่มีตำแหน่งหรือมีตำแหน่งก็ได้ ประเด็นของผมคือคุณคือผู้ที่นำเงินไปใช้ เป็นประธานมีอำนาจเต็มร่วมกับคนอื่น ทำไมถึงไม่แจ้ง

อีฟ : อีฟรู้สึกว่าคำถามนี้ค่อนข้างชี้นำว่าอีฟเป็นคนใช้เงิน แต่จริงๆ แล้วการใช้เงินเราต้องมีมติร่วมกันนะคะว่าเรานำไปใช้ในภารกิจทำอะไร

ณวัฒน์ : คำถามผมยังไม่ได้ตอบเลยครับ ทำไมไม่แจ้งพี่ๆ สื่อมวลชนและพี่น้องชาวไทยที่บริจาค 200 ล้านว่าคุณเป็นคนคุมอำนาจ อันนี้สำคัญมากในการกระทำทุกบริบท เชิญคุณอีฟครับ

กัน : ขออนุญาตแทรกนิดนึง ขออนุญาตพี่นะ ผมเจอพี่และเคารพกัน แต่ถ้าถามก็อยากให้น้องตอบนิดนึง แล้วพี่รอฟัง ขออนุญาต ส่วนคำตอบ จะโดนใจหรือไม่โดนใจ

ณวัฒน์ : คุณกัน เราไม่เล่นสำนวนแล้วนะ เราจะเล่นหลักการ ในเมื่อสื่อมวลชนที่มาทั้งหมดและที่ชมอยู่ทางบ้านทุกคน คุณเคยรู้มาก่อนมั้ยมูลนิธินี้เป็นของใคร ใครเป็นประธาน ใครเซ็นอำนาจจ่ายเงิน ไม่มีใครรู้ เพราะคุณกันเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ข้างหน้าบังอยู่ตลอด ทำไมไม่ปรากฏให้ชัดเจน ก่อนคนจะลุ่มหลงเอาเงินให้คุณเยอะขนาดนี้ ประเด็นผมมีแค่นี้ครับ

อีฟ : ยังยืนยันคำเดิมค่ะไม่มีใครลุ่มหลงเอาเงินมาให้อีฟหรอกค่ะ เพราะเงินบริจาคเนี่ย...

ณวัฒน์ : ไม่ใช่ครับ ถ้าคุณกันบอกคุณอีฟทำไมไม่ตอบคำถาม


กัน : มันกลายเป็นว่าพออีฟพูด .. ผมตอบเลย ผมขอพูดในมุมผมนะ ผมเชื่อว่าทุกคนรู้ว่ามูลนิธินี้เป็นมูลนิธิ กันจอมพลังช่วยสู้ และผมก็ดำเนินการอยู่ตรงนี้ ส่วนมูลนิธิอื่น ผมเชื่อว่าชื่อของประธานสามารถตรวจเช็กได้ไม่มีใครปิดบัง ส่วนน้องอีฟเรื่องการออกสื่อ โหนกระแสน้องก็ไป สื่อก็ไป ขับเคลื่อนช่วยสังคมลงไปไลฟ์ในพื้นที่ก็ไป ไม่มีใครปิดบังหรอก แม้แต่อีฟเองที่ลงไปเป็นวิทยากรก็ใช้ว่าตัวเองเป็นประธานมูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้ ไม่มีใครปิดบังหรอก อย่างที่บอก ถ้าผมไม่โปร่งใส ถ้าอยากให้ผมนั่ง ผมนั่งได้

ณวัฒน์ : กลับมาที่ปัญหาเดิมไปโหนกระแส ได้บอกไหมว่าเป็นประธาน

อีฟ : ณ วันที่ออกโหนกระแส ยังไม่ได้เป็นมูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้ค่ะ

ณวัฒน์ : ฉะนั้นสิ่งที่คุณกันอธิบาย ณ ตรงนี้ไม่ใช่ คำถามผมคือหลังจบแล้ว คุณกันอย่าเอาโหนกระแสเข้ามาเดี๋ยวเปื้อนพี่หนุ่มอีก เวลาคุณกันอธิบาย คุณเล่าอารัมบท ถ้าคนทางบ้านฟังเผินๆ เหมือนจดมูลนิธิแล้วคุณอีฟเคยไป แต่ผมมีเรคคอร์ดว่าคุณอีฟไปก่อนหน้านั้น ผมเลยกลับมาถามคำถามนี้ ผมขออภัย คุณอีฟไม่เคยไปในนามประธาน หลังป็นประธาน คุณอีฟไม่เคยพรีเซนต์ตัวเองผ่านสื่อไหนเลยสักครั้งเดียว

อีฟ : อีฟต้องบอกว่าอีฟไปในนามประธานมูลนิธิ เวลาคนเชิญไปเป็นวิทยากรต่างๆ ก็ไปในนามประธานมูลนิธิฯ เลย แต่งานไม่ได้โด่งดังหรือเป็นที่จับตาจับจ้องของสื่อค่ะคุณณวัฒน์

ณวัฒน์ : โอเค คำตอบไม่ตรงคำถาม ผมถามว่าทำไมไม่ชี้แจงกับสื่อ คุณกันเล่นกับสื่ออยู่ตลอดเวลา แต่คุณอยู่ข้างที่จะมีสื่ออยู่ตลอด ทำให้คนเข้าใจผิด ทำไมถึงไม่พรีเซนต์ตัวเองว่าคุณคือคนมีอำนาจ แค่นี้แหละครับ ถ้าไม่ตอบไม่เป็นไร

กัน ผมขอตอบ

ณวัฒน์ : ไม่ๆ ผมถามคุณอีฟ ถ้าคุณกันตอบแทนคนอื่น มันจะกลายเป็นเรื่องคุณกันไป

อีฟ : โอเคค่ะ เบื้องต้นโดยส่วนตัวไม่รู้ว่าตัวเองต้องมีหน้าที่มาตอบออกสื่อนะคะ เพราะการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามกฎหมายถือว่าให้ทราบโดยทั่วกันค่ะ

ณวัฒน์ : โอเคถือว่าเป็นความโง่ของสื่อและประชาชนแล้วกันนะครับ ถ้าตอบแบบนี้

อีฟ : หนูไม่ได้เป็นคนพูดนะคะ

ณวัฒน์ : ผมพูดครับ ผมโง่ครับ ไม่ต้องเล่นสำนวนหรอกครับ

อีฟ : เราไม่ได้เล่นสำนวนค่ะ

กัน : เอางี้ครับ

ณวัฒน์ : ไม่ ผมสองสามคำถาม ผมไม่เอาแล้ว ผมฟังมาตลอด คุณกัน ในฐานะเรารู้จักกัน เราชอบกันส่วนตัว แต่ถ้าเรื่องไม่ชอบมาพากลขึ้นมา ก็จำเป็นต้องซักไซ้ไล่เรียง คุณกันในอนาคตจะเล่นการเมืองไหมครับ

กัน : ไม่เล่นครับพี่ ผมยืนยัน คนรู้จักผมดีทุกคน ผมไม่เล่นการเมือง


ณวัฒน์ : คำถามต่อไป การใช้ทรัพย์สิน เฮลิคอปเตอร์ของหน่วยงาน ทำไมสามารถใช้งานได้ มีใบอนุญาตหรือยังครับ

กัน : เรามีการประสานหน้างานตรงภัยพิบัติ ผมก็ประสานอย่างเช่นชาวบ้านเขาอดข้าวอยู่บนดอยเป็นพันๆ คน ถนนขาด ผมก็ประสานไปหน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้ ว่าพี่ครับ ใครปฏิบัติอยู่ในพื้นที่บ้าง พอเขาบอกว่าผมอยู่ พอผมอยู่ ส่วนของผมสมัยก่อนมีกลุ่มเพื่อนๆ รวมเงินมา ไม่ว่าพี่หนุ่มหรือใครก็แล้วแต่ที่สนับสนุนมา เราก็เอาเงินนั้นไปซื้อของแล้วเอามาอยู่ที่ลาน ของใครพร้อมทำบิล ทำภารกิจ เครื่องว่างก็ขอติดไป เอาของไปลงให้ชาวบ้าน ซึ่งวันนั้นพูดตามความเป็นจริงตรงๆ ว่ารถก็เข้าไม่ได้ เดินก็ไม่ได้ ชาวบ้าน 3 วันไม่ได้กินข้าว ผมไม่รู้จริงๆ ว่าสิ่งที่ผมทำถูกไหม หรือผิดไหม

ณวัฒน์ : ขออนุญาตใครครับ

กัน : ประสานอธิบดีหลายท่านครับ

ณวัฒน์ : ล่าสุดที่มีภาพ อธิบดีท่านไหนครับ

กัน : กรมฝนหลวงครับ แต่เฮลิคอปเตอร์ไม่ใช้หน่วยงานเดียว หลายหน่วยงาน กองทัพอากาศก็ประสาน

ณวัฒน์ : เป็นสิ่งที่ดีที่อยากช่วยคน แต่ต้องวางบรรทัดฐาน ว่าหลังจากนี้ทุกมูลนิธิที่อยากช่วยคน ถ้าราชการเห็นว่าลำบาก ต้องเอาเฮลิคอปเตอร์ช่วย จะได้ลบคำถามว่าอภิสิทธิ์หรือมากกว่าขีดลิมิตที่ควรจะทำ

กัน : ขอเสริมเรื่องนี้ จริงๆ แล้วมีหลายหน่วยงานที่ใช้อยู่ สื่อมวลชนเองก็ได้ใช้ สว. สส.ก็มีการประสานใช้เครื่องอยู่แล้ว ถามว่าหน้าที่สื่อมวลชนเอาไปทำอะไร เวลาเกิดภัยพิบัติต่างๆ คนที่สะท้อนเอาปัญหาออกมาข้างนอกคือพี่ๆ สื่อมวลชน ตรงไหนลำบากหรือขอความช่วยเหลือ ความช่วยเหลือก็จะหลั่งไหลเข้าไป ไม่ใช่ว่าผมเป็นอภิสิทธิ์เลย เพราะหลายคนก็ได้ใช้ แล้วผมเชื่อว่าถ้าเรามีคนติดอยู่อดข้าว ทุกคนถ้าประสานไปเขาช่วยหมด เพราะหน้างานไม่มีใครเลือกใครครับ พูดจากใจ

ณวัฒน์ : อันนี้เคลียร์ครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไร พี่ๆ สื่อมวลชนกระซิบให้ถาม ผมถามให้ สุดท้ายที่อยากถาม คนเห็นพรีเซนเทชั่นแต่แรก ปฏิเสธไม่ได้คนคิดว่าเป็นของกัน ล้านเปอร์เซ็นต์ รวมถึงตัวพี่ รวมถึงพี่หนุ่มด้วย คนใกล้ตัวก็คิดว่าเป็นของกันจนบริจาคกันไป ถ้าประชาชนจะขอเงินคืนจากความเข้าใจผิด โดยที่มูลนิธิไม่ได้แสดงออกถึงความชัดเจน รวมทั้งข้อ 39 ที่ไปให้มูลนิธิคุณธรรมนัส ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เพราะข้อมูลไม่ครบทิศครบทาง สามารถโอนเงินคืนได้เลยไหม

กัน : ในส่วนของ 39

ณวัฒน์ : ข้อ 39 เดี๋ยวผมถาม ผมถามว่าถ้ามีคนที่พิมพ์ขึ้นมา อยากได้เงินคืนทุกไลฟ์ที่ชมขณะนี้ คืนได้เลยไหมครับ ผมถามคุณอีฟครับ

อีฟ : คืนได้ไม่ได้ อีฟคนบอกคนเดียวไม่ได้ เนื่องจากด้วยเงิน...


ณวัฒน์ : ปรึกษากันเลยได้ไหม เพราะมีอยู่แค่ 3 ท่าน 2 ใน 3 ก็ได้แล้วครับ อันนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องชัดเจนนะครับ แล้วไม่เอาเงินส่วนตัวของใคร เวลาโอนไปที่ไหน ที่นั่นต้องโอนกลับมเพราะบริษัทเป็นมหาชน ต้องชัดเจนเรื่องกฎหมาย เพราะข้อมูลที่ได้มาไม่ครบด้าน และไม่รู้เบื้องหลังเปเปอร์ เพราะบริษัทเราไม่อยากยุ่งเกี่ยวหรือเกี่ยวข้อง หรืออาจทำให้เกี่ยว เรื่องในอนาคตที่อาจทำให้เกิดใดๆ กับใครคนใดคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราขออนุญาตถอนตัวอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ไม่ว่าอนาคตจะพากันไปถึงจุดไหน อันนี้ไม่ได้กล่าวหานะ แต่ตั้งข้อสงสัยจะไปถึงฟอกเงินไหม ไปถึงการทำอะไรไม่ถูกต้องตรงไหนไหม จะไปถึงเป็นแบ็กอัปนักการเมืองไหม จะไปถึงคนตั้งให้ จะคือวางแผนพีอาร์ไหม เราจะได้หยุดตัวเองอยู่แค่นี้ ถ้าเราไม่สบายใจ เราขอความร่วมมือ เพราะมิได้แจ้งเรา คืนได้ใช่ไหมคุณอีฟ

อีฟ : จากที่คุณณัฒน์ตอบว่ามีเรื่องของกฎหมาย ทางอีฟก็เหมือนกัน อยู่ดีๆ อีฟจะตัดสินใจคืนหรือไม่คืนเลย อีฟตอบเลยไม่ได้ หลักกฎหมายเงิน เงินที่โอนเข้ามาได้บรรลุวัตถุประสงค์ และถูกใช้ไปตามวัตถุประสงค์ผู้บริจาคแล้วหรือเปล่า สองอีฟเข้าใจในสิ่งที่ทุกคนกังวล และไม่สบายใจ ว่าเงินนี้มันมาเป็นเงินอีฟ ไม่ใช่เงินคุณกัน แต่จริงๆ คุณกันยืนยันมาตลอดอยู่แล้วว่ามูลนิธินี้เป็นมูลนิธิคุณกัน คุณกันอยู่ในสถานะผู้ร่วมก่อตั้ง ไม่ใช่มูลนิธินี้เป็นของอีฟ ส่วนจ่ายได้หรือไม่ได้ ยังไงจะรีบให้คำตอบโดยไวที่สุดค่ะ

ณวัฒน์ : นานไหมครับ กี่วันครับ

อีฟ : หนูขอปรึกษาทนายก่อนค่ะ

ณวัฒน์ : ประมาณการคร่าวๆ ได้ไหม จะได้ไปบอกทางบริษัท ตอนนี้เอสเอ็มเอสขอคืนแบบถล่มทลาย เขาไม่ทราบจริงๆ ว่าคุณอีฟเป็นประธาน และไม่ทราบว่าเมื่อยุติจะยกให้มูลนิธิธรรมนัส เขาไม่ทราบ สิ่งที่คุณอีฟพูดว่าไม่รู้เงินเอาไปทำบรรลุวัตถุประสงค์หรือยัง คุณอีฟพูดได้ แต่คุณอีฟต้องฟังคนบริจาคด้วยว่า บรรลุวัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ของผมคือให้คุณกัน เห็นว่าคุณกันเป็นประธานมูลนิธิ และไม่ได้ให้เอา ถ้ามีการเลิกมูลนิธิให้เอาไปให้มูลนิธิคุณธรรมนัส นี่คือวัตถุประสงค์ของผมและทุกคน ฉะนั้นยังไม่ได้บรรลุวัตถุประสงค์นะครับ คุณเอาไปทำอย่างนั้นไม่ได้

กัน : เดี๋ยวผมจะปรึกษากัน เอาเป็นวันจันทร์ จะตอบให้ครับ

ณวัฒน์ : ผมชอบคุณกันนะ คุณกันชัดเจน อย่าเหมือนคุณอีฟ ขณะที่เป็นหัวขบวนเป็นประธานเป็นผู้มีอำนาจ แต่ไม่มีความชัดเจนในคำตอบให้ทุกคนที่รอคอย

กัน : น้องทุกคนมีความตั้งใจครับ น้องอีฟไม่ใช่ไม่เก่ง ส่วนตัวที่ได้คุยกับน้อง

ณวัฒน์ : ขอโทษนะ ผมว่ามันไม่ใช่ประเด็นที่กำลังถาม ไม่มีใครที่อยากรู้อารัมบท แต่อยากรู้ว่าวิธีการที่จะจบเรื่องนี้ จะจบด้วยวิธีใด
กัน : เดี๋ยวผมพูดวิธีจบให้เลย วันจันทร์จะแจ้ง ให้ทางมูลนิธิแจ้งก็ได้ ว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่วันนี้วิธีการจบที่ผมเตรียมไว้ดีที่สุดเรื่องความโปร่งใส หลังจบตรงนี้เวลาบ่ายสองโมง ผมจะเดินทางไปกระทรวงมหาดไทย ให้กระทรวงตรวจสอบมูลนิธิว่าทุจริตไหม มีเงินเข้าไปหาคุณธรรมนัส หรือมูลนิธิอื่นๆ ไหม มีการกดเงินสดออกมาใช้ไหม เพื่อความโปร่งใส ผมให้ตรวจสอบตัวเอง

ณวัฒน์ : ผมมั่นใจว่าไม่มีครับ สิ่งที่สังคมถามไม่ได้คิดว่ามี แต่ถามในฐานะที่มีรายละเอียดบดบังอยู่เท่านั้นเอง ที่สังคมรู้สึกแย่ ผมมั่นใจว่ามูลนิธิไม่น่าถึงขั้นตอนนั้น ยิ่งโอนเงินให้มูลนิธิธรรมนัสไม่มีอยู่แล้ว เพราะข้อกำหนดต้องปิดมันถึงจะไปได้ อันนี้ไม่ต้องเสียเวลาให้ใครคอนเฟิร์ม และไม่ต้องไปให้เสียเวลา คุณกันเอาเวลาไปกินกาแฟ เพราะเชื่อว่าไม่มี สิ่งที่เรามายืนอยู่ตรงนี้ เราไม่ได้บอกว่าคุณกันทำผิดนะ ไม่ได้บอกว่ามูลนิธิทำผิดนะ แต่กำลังบอกว่ามูลนิธิไม่ได้พรีเซนต์อย่างครบด้านและชัดเจน ก่อนพาไปสู่เหมือนอิงแอบการเมือง ปฏิเสธไม่ได้ว่คนต้องคิด

คนเราเวลาทำอะไรลงไป มันบ่งบอกเจตนาและวิธีการ ตรงนี้เองที่คนไม่สบายใจ แต่ถามว่าผิดไหม ก็ตอบว่าไม่ผิดนะครับ ต่อให้เป็นมูลนิธิคุณธรรมนัสก็ไม่ได้ผิดครับ แต่อาจผิดตรงที่คุณกัน ชอบบอกว่าสนิทบ้างไม่สนิทบ้าง มันกลับไปกลับมา มันเป็นเรื่องบุคลิกภาพส่วนตัว แต่ถามว่ากฎหมายผิดไหม ไม่ผิดเลย ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเสียเวลา แต่เยียวยาความรู้สึกประชาชนที่กำลังดิ่งลงเหว โดยไม่ได้บอกข้อมูลครบด้าน ไม่บอกว่าใครเป็นประธาน อยู่ๆ พอเรื่องแดงขึ้นมาถึงเปิด อยู่ๆ ก็มีเรื่องข้อ 39 มีคนเปิดมาเรื่องราวอีกมากมายก่ายกอง ตรงนี้มันเป็นสิ่งที่ผิดพฤตินัย ไม่ผิดกฎหมาย เท่านั้นเอง

กัน : ผมขออนุญาตตอบคำถามพี่นิดนึง

ณวัฒน์ : ผมไม่ต้องการฟังคำตอบแล้ว

กัน : ผมขออนุญาตครับ อย่างน้อยพี่บอกว่ามูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้มันจะไม่ผิดอะไรก็แล้วแต่ แต่วันนี้ผมได้ยินคำพูดว่าคนดีต้องตรวจสอบได้ ทุกคนต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ วันนี้สิ่งที่ผมไปทำอย่างน้อยจะได้เป็นบรรทัดฐานหลายๆ คน การที่ผมให้ตรวจสอบมูลนิธิ ผมเชื่อว่าไม่มีใครบ้าให้ไปทำอย่างนั้นหรอก ผมทำวันนี้ให้เป็นบรรทัดฐาน คนอื่นๆ จะได้เดินตามแนวนี้ด้วย อย่างมีคนบอกกดเงินสดออกมาใช้ ซึ่งข้อเท็จจริงไม่มีการกดเงินสดออกมา เรื่องทุจริตบวกโน่นบวกนี่ไหม ก็ให้ตรวจสอบ ถ้าไม่มั่นใจผมคงไม่กล้า แต่อยากทำเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ไม่งั้นไม่กล้ามานั่งกันแบบนี้ ในส่วนของอาจไม่ถูกใจอย่างพี่ณวัฒน์บอก วันนี้ผมไม่รู้นะว่าต้องเป็นที่มูลนิธิผมคนเดียวไหม

ณวัฒน์ : ผมเห็นด้วยครับ ทุกมูลนิธิ ยกเว้นมูลนิธิด้านบน เราอย่าก้าวล่วงเด็ดขาด ต้องบอกทุกคนด้วย เฉพาะมูลนิธิคนเดินดิน ผมมีประสบการณ์กับประสิทธิ์ เจียวก๊ก ปัจจุบันอยู่ในคุก มาขึ้นศาลก็แหกคุก ผมก็บริจาคไปเยอะเหมือนกัน มูลนิธิวัดพระบาทน้ำพุ พูดวาทศิลป์สวย ก็เช่นเดียวกัน ทนายตั้มก็ตั้งมูลนิธินิดหน่อย กันพูดก็เป็นสิ่งที่ดี ตรวจให้หมดเลย อะไรไม่จำเป็นก็ยุติเถอะครับ เรามีรัฐบาล เราเสียภาษี ฉะนั้นเราต้องไปดันให้รัฐบาลทำงานให้ประชาชน ไม่อยากให้ประชาชนเก็บงานเล็กงานน้อย งานแค่จุดย่อยๆ งานจุดใหญ่คือต้องไปดันนายกฯ รัฐมนตรี ให้เกิดมหภาคทั้งประเทศ ต่อให้ช่วยชายแดนใต้ ช่วยชายแดนอีสาน ชายแดนใต้ก็มีปัญหา ช่วยอำเภอโน้นอำเภอนี้ก็มีปัญหา มันจะกลายเป็นว่าประเทศไทยไม่ไปไหน เกิดแต่ภาพอย่างเดียว แต่ไม่เกิดความเคลื่อนไหวในมหภาค ถ้าใครคิดอยากช่วยประเทศไทย ช่วยไปจัดการรัฐบาล ดันหลังรัฐบาลให้เกิดภาพใหญ่และได้ทำงานจริงจัง ดีกว่าลงไปทำงานเอง และกลายเป็นว่ารัฐบาลไม่ต้องทำงานบางจุด เพราะนั่งดูคนอื่นช่วยงาน ผมเสียภาษีเยอะ พอแล้ว เงินไปไหนหมด ผมว่านักช่วยเหลือที่ดี ต้องช่วยเหลือเป็นปากเป็นเสียงของประชาชน เพื่อดันผู้บริหารภาษีให้เกิดประโยชน์ มิใช้เพื่อเรี่ยไรเงินประชาชนแล้วเอาไปสร้างภาพในการมาบริจาคกันต่อเนื่อง แล้วเราไม่รู้ว่าจริงๆ เป็นของใคร ผมฝากไว้แค่นี้ครับ

กัน : ก็ดีครับ ผมถึงเลือกให้หน่วยงานตรวจสอบ ถ้าผมเป็นของปลอม ผมต้องถูกดำเนินการ ส่วนวัดพระบาทน้ำพุเปรียบเทียบผมว่าน่าจะคนละบริบท เพราะมูลนิธิไม่เคยไปซื้อที่ดินเป็นของใคร

ณวัฒน์ : ผมยกตัวอย่างเฉยๆ ไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องของคนอื่นครับ ผมพูดให้ฟังว่าดี เห็นด้วย

กัน : ผมขออนุญาตตอบสื่อนะครับ เรื่องระบบ วันนี้วิธีของทุกคนมีวิธีของตัวเองช่วยเหลือประเทศชาติ มีหลายแบบ ไม่ใช่การด่ารัฐบาลอย่างเดียวเป็นการช่วยเหลือ ระบบไม่ได้ดีมาตั้งแต่แรก มันเป็นมานานมากแล้ว เรื่องความล่าช้า อย่างถนนที่ผมไปทำ 10 ปียังไม่ทำ วันนี้เราพลิกฟ้าด้วยฝ่ามือได้ไหม พรุ่งนี้ต้องดี สองปีต้องดี ไม่มีใครกะเกณฑ์ตรงนั้นได้ วันนี้ส่วนตัวผม ออกมาทำเท่าที่ทำได้ รอวันนั้นคนทำได้มีหน้าที่ทำก็ทำไป ชุดเกราะบังเกอร์ที่ต่างๆ ที่ทำให้ทหารมีชีวิตรอด ถนนที่ 10 ปีไม่ได้ทำ ก็ไปทำให้ทหารออกมารักษาตัวเองได้ ให้คนด้านนอกเข้าไปช่วยได้ ก็เท่านั้นเอง ทุกคนมีวิธีการช่วยในรูปแบบตัวเอง ใครมีหน้าที่ผลักดันก็ผลักดันไป ผมอาจโฟกัสที่การปกป้องชีวิตครับ



กำลังโหลดความคิดเห็น