xs
xsm
sm
md
lg

อนาคตในวงการ "โอเวน วิลสัน" หลังพยายามฆ่าตัวตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้คนในวงการต่างออกมาให้ความเห็นถึงเหตุการณ์คิดสั้นขนาดฆ่าตัวตายของหนุ่มหน้าเป็น "โอเวน วิลสัน" หลังจากอกหักกับคู่กิ๊ก "เคท ฮัตสัน" ว่ามันจะส่งผลระยะยาวในวงการบันเทิงของเขาหรือไม่ แต่ก็ยืนยันว่ามันจะไม่เลวร้ายเหมือนกับที่กำลังจะเกิดกับบรรดาสาวๆ ปาร์ตีคนดังทั้งหลายอย่างแน่นอน ตามรายงานจากเอพีและรอยเตอร์

คนวงในของฮอลลีวูดต่างออกให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่า โอเวน วิลสัน ดาราหนุ่มคนดัง ที่ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหลังจากตัดสินใจฆ่าตัวตายจากการอกหักที่บ้านพักในซานตา โมนิกา จะยังคงรักษาชื่อเสียงทางการแสดงไว้ได้อย่างเดิม

สิ่งที่พิสูจน์ได้คือผลงานทำเงินเก่าๆ ของเขาทั้งการแสดงใน Wedding Crashers ที่ทำรายได้ในสหรัฐฯไป 200 ล้านเหรียญ ส่วนการพากย์เสียงใน Cars ก็ทำเงินไปได้ถึง 250 ล้านเหรียญ ยังไม่นับภาพลักษณ์ในจอที่เป็นคนขี้เล่น ที่สามารถหว่านเสน่ห์กับสาวๆ แม้กำลังเล่นหัวกับหนุ่มๆ ก็เป็นสิ่งที่จูงใจกับทั้งผู้สร้างภาพยนตร์และแฟนหนังเอง

"ใครๆ ก็รักเขา เรื่องที่เกิดขึ้นมันหนักหนา แต่มันเป็นแค่เหตุการณ์ๆ เดียวเท่านั้น ใครๆ ก็มีวันซวยของตัวเองทั้งนั้น" เบอร์นี บริลสไตน์ ผู้คร่ำหวอดแห่งฮอลลีวูดกล่าว

แล้วโอเวน วิลสันจะต้องเจอกับทางตันทางอาชีพเหมือนกับที่กำลังเกิดขึ้นกับสาวๆ ปาร์ตีทั้งหลาย อย่าง ลินด์ซี โลแฮน กับ บริทนีย์ สเปียร์ส หรือเปล่า?

"ผมไม่คิดว่าบรรดาค่ายหนังจะมีปฎิบัติต่อเขาแบบนั้นหรอก" บริลสไตน์กล่าว

ตามความเห็นของ พอล เดอการาเบเดียน ผู้วิเคราะห์รายได้บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศในแต่ละสัปดาห์เผยว่าการตอบรับของวงการที่มีต่อเหตุการณ์ของวิลสันครั้งนี้ "ไปในทางบวก" อย่างมาก

"โอเวน วิลสัน เป็นคนที่มีประวัติที่ดีมากๆ และตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่ก็ได้แต่ให้ความเห็นใจกับเขา"

ซึ่งความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับปฎิกริยาของค่ายหนังต่างๆ ที่เขาร่วมงานด้วยในปัจจุบัน เพราะต่างก็ออกมาตอบรับกับเหตุกาณ์ครั้งนี้ด้วยดีเป็นส่วนใหญ่

The Darjeeling Limited ผลงานชิ้นล่าสุดของเขาที่ร่วมแสดงกับ เอเดรียน โบรดี และ เจสัน ชวาร์ซแมน และกำลังจะลงโรงฉายในวันที่ 29 ก.ย.นี้ ซึ่งทางค่าย Fox Searchlight ไม่ได้ออกมาให้ความเห็นต่อเรื่องราวดังกล่าวแต่อย่างใด เช่นเดียวกับ Drillbit Taylor ผลงานล่าสุดของค่าย Paramount ที่ต้นสังกัดพร้อมจะฉายในเดือนมี.ค.ปีหน้า ก็ไม่ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด

จะมีสะดุดบ้างเห็นจะได้แก่ Tropic Thunder ผลงานของ Dreamworks ที่เปิดกล้องที่ฮาวายไปแล้ว 6 สัปดาห์ และมีบทของเขาที่กำลังรอถ่ายทำอยู่ แต่ล่าสุดได้มีการยกเลิกการร่วมแสดงของเขาแล้ว ในผลงานที่เขามีนัดจะได้ร่วมประชันฝีมือกับ แจ็ค แบล็ก, โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ และคู่หูอย่าง เบน สติลเลอร์ ที่นั่งแท่นผู้กำกับเรื่องนี้ด้วย

รวมทั้งผลงานใหญ่ที่กำลังรอถ่ายทำอย่าง Marley & Me ที่เขาจะได้ประกบกับดาราสาวคนดังอย่าง เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ก็ไม่ได้รับการชี้แจงจากทางค่าย 20th Century Fox ว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไร

"มันไม่เหมาะสมที่จะคุยถึงเรื่องนั้นในตอนนี้ ที่เราสนใจตอนนี้คือสุขภาพกายและใจของเขา โอเวนขอร้องให้เคารพความเป็นส่วนตัวของเขา และเราก็จะถือว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้"

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา วิลสันได้กล่าวผ่านทาง อินา เทรชิโอคาส ประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของเขาว่า "ผมขอร้องด้วยความนับถือต่อสื่ออย่างยิ่งในการให้โอกาสผมรับการดูแลและรักษาอย่างเป็นส่วนตัวในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้" โดยประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของเขาปฎิเสธที่จะตอบปัญหาถึงรายละเอียดต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังจากตัดสินใจฆ่าตัวตายครั้งนี้

นายแพทย์ ชาร์ล กู๊ดสไตน์ ศาสตราจารย์คณะจิตเวชศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย New York University Medical Center เผยว่าขณะที่ผู้ป่วยที่มีแนวโน้มจะฆ่าตัวตายจะได้รับการดูแลอย่างจริงจัง แต่บรรดาคนดังที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันมักจะไม่ค่อยได้รับการรักษาอย่างที่ควรจะเป็น

"คนในวงการบันเทิงมักจะถูกมองจากโลกภายนอกว่าเป็นพวกที่อยู่ในโลกมายา อารมณ์ของพวกเขามักจะขึ้นๆ ลงๆ เสมอในการทำงาน จนรอดพ้นจากการวินิจฉัยอาการต่างๆ ไปได้ พวกเขามักมีวิธีที่ได้ผลในการซ่อนเร้นสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นปัญหา"

แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนก็คือ ขณะที่คนธรรมดาจะจัดการกับปัญหาดังกล่าวอย่างเงียบๆ แต่ปัญหาเดียวกันนี้ของคนดังจะกลายเป็นประเด็นสำคัญของคนในสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตามความเห็นของ เอส. มาร์ค ยัง ศาสตราจารย์คณะธุรกิจบันเทิงแห่งมหาวิทยาลัย University of Southern California แต่เขาเห็นว่าสังคมจะให้ความเมตตาต่อเขามากกว่าที่ลินด์ซีย์ โลแฮนจะได้รับ

"ผู้คนเขารู้กันทั่วแล้วว่าลินด์ซีย์เป็นพวกติดยา แต่ในกรณีของโอเวน วิลสันมันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน ถ้ามันจริงว่าที่เขาทำไปเพราะผิดหวังจากความรัก มันก็กลายเป็นเรื่องน่าสงสารสำหรับเขาไป"

อย่างไรก็ดี เรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดจากความไม่มั่นคงทางอารมณ์ของเขาครั้งนี้ ในความเห็นของ ไมเคิล เลวิน นักประชาสัมพันธ์รุ่นใหญ่ของวงการ เห็นว่าน่าจะมีผลอย่างมากต่อการว่าจ้างทำงานของเขากับผู้สร้างภาพยนตร์ รวมทั้งปัญหาที่จะตามมาในเรื่องการยื่นประกันด้วย

แต่เบอร์นี บริลสไตน์มองเรื่องเหล่านี้ว่าเกิดขึ้นในหน้าข่าวบันเทิงและความสนใจของผู้คนมาอย่างช้านานและจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป

"ทุกอย่างมันไม่ขอบเขต เรื่องแบบนี้มันมีมาเป็นชาติแล้ว แต่บรรดาสื่อก็ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยกับการเสนอข่าวร้ายๆ ของคนกันหรอก"

"โอเวน วิลสัน" ฆ่าตัวตายเห็นภาพ "เคท ฮัตสัน" กอดจูบแฟนใหม่

กำลังโหลดความคิดเห็น