"แหม่ม" ทำใจยอมรับหากชื่อเสียงไม่กลับมาฟู่ฟ่าเช่นเดิม บอกเพราะทำดีที่สุดแล้วที่เหลือประชาชนเป็นคนตัดสินเอง แต่เชื่องานละครคงไม่ถูกดอง ส่วนธุรกิจของสามีที่กำลังฉิวเจ้าตัวเผยตนเองมีส่วนเล็กน้อย ออกปากชมฝ่ายชายน่ารัก ทำตัวสมเป็นหัวหน้าครอบครัว
รีเทิร์นเข้าสู่วงการบันเทิงได้พักใหญ่ๆ แล้ว แต่ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของ "แหม่ม คัทลียา กระจ่างเนตร" จะกู่ไม่กลับจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นงานพิธีกรที่ไม่มีสักรายการเดียว ขณะที่กำลังถ่ายทำอยู่อย่าง "เปลือกเสน่หา" ก็ดูเหมือนว่าเงียบเชียบและใช้เวลาค่อนข้างจะนานผิดปกติ แถมยังมีข่าวออกมาอีกว่า ผู้จัดคนเก่ง "บอย ถกลเกียรติ" อาจจะขอเช็คเรตติ้งตัวเธอก่อนจะปล่อยละครออกมาอีกต่างหาก
เมื่อสอบถามไปยังคุณแม่ยังสาว "แหม่ม" เปิดเผยว่าถือเป็นเรื่องปกติของการทำงานในวงการบันเทิง พร้อมกับทำใจยอมรับหากชื่อเสียงจะไม่กลับมาดังเหมือนเดิมโดยบอกว่าตนเองทำดีที่สุดแล้ว..."คือเราไม่ว่าอย่างไรนะ เพราะทุกอย่างก็ใช้เรตติ้งแหละ ถ้าเรตติ้งไม่ดีก็ไม่รู้ว่าช่องอาจจะไม่ให้ทำต่อ เหมือนรายการอื่นๆ ก็ใช้ระบบเดียวกันแหละ ไม่กังวลทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง แหม่มก็ทำหน้าที่ตั้งใจเล่นละครให้ดีที่สุด"
"ทุกคนคงอยากให้ผลงานของตัวเองมีคนดูอันนั้นคือสิ่งที่เราต้องน้อมรับ แต่ว่าหน้าที่เราๆ ก็ต้องทำให้ดีที่สุด แต่ถ้าเราเล่นไปอย่างนั้นไม่ได้ตั้งใจให้ดีที่สุดก็ต้องสะท้อนและเสียใจว่าก็คุณไม่ได้ทำของคุณให้เต็มที่ ตอนนี้ถ่ายไปได้ 40 - 50 เปอร์เซ็นต์แล้วมั้งค่ะ แต่ไม่น่าจะเป็นละครดองนะ"
ด้านรายการยังไม่มีอะไรคืบหน้าโดยขอรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ดีก่อนคิดเรื่องรายการใหม่ เผยอาจจะเห็นเธอเป็นพิธีกรอีกครั้ง ส่วนรายการเดิมยังยึดฐานอยู่ช่อง "ทีไอทีวี" อย่างช้าจนถึงสิ้นปี
"รายการตอนนี้ยังไม่มีอะไรยังสงบนิ่ง อย่างที่เราทราบกันอยู่ว่าค่าเงินบาทแข็ง เศรษฐกิจไม่ดี รัฐบาลไม่รู้จะเลือกตั้งเมื่อไร ตอนนี้นิ่งไว้ดีกว่า ยุ่งกับถ่ายละคร มีละครติดต่อมาเพิ่มบ้าง แต่อันนี้ยังถ่ายไม่เสร็จก็รอไปก่อน"
"ช่องก็แน่นอยู่แล้ว เราคงอยู่ทีไอทีวีน่ะค่ะ ก็อยู่ไปจนถึงสิ้นปี เท่าที่ทราบเท่าทีทางทีไอทีวีได้แจ้งไว้ ช่องอื่นเราก็คุยอยู่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะเอารายการจากทีไอทีวีไป แต่ว่าเราจะคิดรายการใหม่ แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า รายการใหม่อาจจะเห็นตัวเองเป็นพิธีกร ขึ้นอยู่กับว่าช่องไหนจะเลือกรายการไหน"
งานในวงการไม่ฉลุยผิดกับธุรกิจคอนโดฯ ของสามีที่หัวหินที่ขายดิบขายดี แถมยังเตรียมกว้านซื้อที่ที่จังหวัดกระบี่เพื่อทำรีสอร์ทอีกต่างหาก..."มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง เป็นเรื่องปกติ เหมือนกับก่อนที่เขาจะทำที่หัวหินก็ตระเวนซื้อที่อยู่แล้ว ไปซื้อที่หัวหินแล้วชอบก็ทำคอนโดขาย เขาตระเวนไปหมด กระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงรายก็ไปหมด"
"ว่าเราไม่ได้ช่วยอะไรเขาเพราะเราไม่ได้มีความสามารถทางด้านนี้ แต่ว่าพอเป็นเรื่องเป็นราวแล้วเราก็คงต้องช่วยโปรโมท ดูรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่เราทำได้ แต่ตอนนี้เป็นเรื่องของการติดต่อธุระคุยกับ อบต. เขาจะถนัดกว่าเยอะ เรื่องตัวเลขเขาเก่งกว่ามาก เขาเป็นคนบุกไปหาที่ต่างๆ เราก็เลี้ยงลูก"
แจงอนาคตอาจหอบลูกและสามีย้ายไปอยู่ที่กระบี่ โบ้ยสาเหตุที่โกยซื้อที่ไม่ได้อยากเป็นเศรษฐีที่ดินแต่อย่างใด
"ไม่แน่อาจไปอยู่กับเขา แต่อนาคตอีกนาน ตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ ก็ไปๆ มาๆ ถ้าหยุดนานหน่อยก็จะไปหัวหิน หลักจริงๆ คืออยากให้ลูกได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ ไม่ได้จะเป็นเศรษฐีที่ดิน มันเป็นปกติ เพียงแต่ทุกคนจับทุกประเด็นมาเป็นประเด็นใหญ่ เขาชอบซื้อที่ดินมาก่อนที่จะเจอแหม่มด้วยซ้ำ เป็นความชอบอย่างเราก็ชอบซื้อรองเท้ากระเป๋า เขาก็ชอบซื้อที่"
ส่วนคอนโดที่หัวหินซึ่งขายดีขึ้นหลังจากที่ฝ่ายชายได้แต่งงานกับเธอนั้น "แหม่ม" บอกว่าคงจะไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าเธอเป็นดารามีชื่อเสียงแต่อย่างใด
"ไม่เกี่ยวหรอก เขามีที่ของเขาอยู่ตั้งเยอะแยะก่อนที่จะเจอแหม่มอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับที่บุคคลแล้ว อยู่ที่ความสามารถแล้วไม่เกี่ยวกับชื่อเสียง ชื่อเสียงอาจจะช่วยได้บ้าง มีคนรู้จัก แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น ไม่ใช่แค่เอาชื่อเสียงมาแล้วทุกอย่างจะเฮงๆๆ เขาทำงานหนักมาก คิดตัวเลข ประชุมๆๆ เยอะ ทุกอย่างไม่ได้ได้มาง่ายๆ"
ชมสามีน่ารัก ทำตัวเป็นพ่อบ้านที่ดีช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด
"เราชอบจัดการเรื่องในบ้านอยู่แล้ว เขาก็เป็นคนหาเงินซัพพอร์ท เขาก็เป็นคนน่ารัก เพราะเราก็พยายามบอกว่าเอาแบบบ้านคนรุ่นใหม่มั้ย ช่วยกันหาเงิน แชร์ค่าใช้จ่าย เขาก็ว่าไม่ต้องเดี๋ยวเขาดูแลเอง เราก็เลยจัดการดูแลเรื่องรายละเอียดไป ไปซื้อแจกัน ซื้อเสื้อผ้าให้แม็ค ซื้อของเข้าบ้าน"