ไม่ได้จ่ายภาษี 2 ปี "เก๋" บอกไม่รู้ว่าต้องเสียภาษีส่วนบุคคล โดยเรียกย้อนหลัง 2 ล้าน บอกรู้ข่าวทีแรกถึงกับช็อก ยันยื่นภาษีนักแสดงทุกปี โอดเสียดายเงิน บอกยอมผ่อนใช้เสียดอกเบี้ยดีกว่าให้เงินก้อน...
มีรายได้จากร้านเพชร เป็นเจ้าของรับจัดงานออแกไนซ์ แล้วยังเป็นผู้บริหาร คลับเอฟ อีกต่างหาก เท่านี้ยังไม่พอเธอยังมีงานแสดง งานโชว์ตัว และงานพิธีกร อีกมากมาย รายรับมากขนาดนี้ นางแบบสาวก้านยาว “เก๋ ชลดา เมฆราตรี” เผยยังงงกับกระบวนการของภาษีที่เธอไม่รู้ว่าต้องเสียในส่วนใดบ้าง ในที่สุดจึงโดนสรรพกรเรียกให้เสียภาษีย้อนหลัง 2 ปี (2548-2549)
"เก๋เพิ่งทราบจากกระบวนกฎหมายเลยว่า พิธีกร เป็นรายได้นักแสดงที่หักได้น้อยที่สุด โดนเต็มๆ หลายคนที่เป็นพิธีกรคงโดนเหมือนกัน ก็เลยโดนตัวเลขที่ตกใจมากเลย 2 ล้านค่ะ เพราะว่าเก๋มีรายได้จาก พีรดาเจมส์ ด้วย"
"ปกติเก๋เสียภาษีทุกปี ปีนึงประมาณีเสียแสนห้าถึงแสนหก แต่ปีนี้เก๋โดนรายได้ส่วนบุคคล เพราะคุณแม่เขายกร้านเพชรให้เก๋ไปร้านนึง คือแต่ก่อนบริษัทร้านเพชรเป็นบริษัท คุณแม่เขากลัวอนาคตเก๋กับน้องมีปัญหาก็เลยแบ่งแยกชัดเจน บัญชีของร้านเพชรก็เลยเป็นชื่อเก๋"
ยอมไปรายงานตัวแสดงความจำนงบอกเปล่าหลบเลี่ยงภาษี รับ รู้ข่าวทีแรกเล่นเอาเสียสูญเหมือนกัน
"เก๋ก็ไปรายงานตัวตามกฎหมายนะค่ะ ท่านก็เรียกไปพูดคุย ก่อนหน้านี้เก๋ไม่รู้เรื่องการเงินเลย พอโดนกฎหมายเรียกตัวก็แสดงความจำนง แสดงความบริสุทธิ์ ไม่ได้หลบเลี่ยงขอระยะเวลาตั้งตัว ปรับตัว ตอนแรกก็ค่อนข้างช็อคเพราะไม่ใช่เงินค่อนข้างน้อยนะค่ะ"
"เก๋รู้สึกเสียดาย ถ้าเราต้องเสียเพื่ออะไรไม่รู้เราจะสงสัยอ่ะค่ะ พูดง่ายๆ เป็นภาษีแผ่นดิน พี่ๆ สรรพกรเขาก็ปลอบใจว่าทำเพื่อสาธารณะประโยชน์ สร้างตู้โทรศัพท์สาธารณะ ทำให้ต้นไม้กทม.สวยงาม ภาษีประชาชนของเราจะซ่อมแซมของเหล่านี้ โอเค เก๋จะได้เข้าใจตรงจุดนี้"
เผยยอมเสียดอกเบี้ยผ่อนจ่ายดีกว่าให้เงินก้อน บอกกั๊กไว้ทำธุรกิจดีกว่า...
"ตอนที่ไปแสดงตัวที่เขต มีผจก. เก๋ไปด้วย เขาก็เช็คยอดให้เลย ตัวแดงขึ้นมาชื่อแรกเลย เก๋อยู่แถวปิ่นเกล้าก็จะมีนักแสดงไม่กี่ท่าน ก็ชำระความค่ะ ทำการผ่อนผัน 10 งวด จากตอนแรกตามหลักกฎหมายต้องจ่าย 3 งวด แต่ว่าอันนี้เป็นกระบวนการเราก็ต้องเสียดอกเบี้ย 1.5 เปอร์เซนต์ ตอนแรกปรึกษาหลายท่าน เก๋ว่าผ่อนดีกว่า ส่วนเงินก้อนเก็บไว้ทำธุรกิจดีกว่า"
ยันไม่รู้จริงๆ ว่าต้องเสียภาษีรายได้ส่วนบุคคลด้วย..."ถ้าเก๋บอกว่าไม่รู้จะเชื่อมั้ยค่ะ เก๋ไม่ทราบจริงๆ คือเก๋จ่ายภาษีนักแสดงปกติทั่วไป เพียงแต่ว่าไม่เข้าใจกระบวนการนิดนึง เขาไปเช็คดูบัญชีรายรับรายจ่าย บัตรเครดิตการ์ดใช้เท่าไร บัญชีในธนาคารเท่าไร ก็เลยกลายเป็นว่ามีรายรับมากกว่าฐานภาษีมากที่สุด ซึ่งเวลาเก๋ยื่นภาษีนักแสดง ก็ยื่นในภาษีนักแสดงรับจ้าง เป็นการเข้าใจผิดของเรื่องตัวเลข"
"ทางสรรพกรเรียกตัวเข้าไป ก็เลยไปแสดงตัว ซึ่งทางผู้ใหญ่ให้ผ่อนผันได้ไม่มีโทษปรับอะไร เพราะแสดงเจตนาอันบริสุทธิ์จริงๆ แล้วเก๋ก็ไม่ทราบว่าการมีรายได้อย่างนี้ๆ ต้องเสียภาษีเท่านี้ เก๋ไม่รู้ว่าการมีชื่อเป็นเจ้าของกิจการมันเป็นการแยกส่วนภาษี รายได้ส่วนบุคคล กับนิติบุคคลเป็นส่วนของบริษัท"