xs
xsm
sm
md
lg

"แซม" เผย ข้อดีมากมายของ "ทักษิณ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"แซม" ย้ำยังอยู่ "ไทยรักไทย" ยันที่ผ่านมาทำตามกติกาทุกอย่าง บอกอดีตนายก "ทักษิณ" มีข้อดีที่ตนเห็นและสัมผัสได้มากมาย ส่วนข้อเสียก็มีเช่นกันแต่ตนอยากให้เป็นหน้าที่ของศาลพิสูจน์ คุยความเป็นนักประชาธิปไตยในตัวเข้มข้นเพราะถูกสะสมมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ก่อนบอกรู้สึกท้อหลังการเมืองเปลี่ยน เผยตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนไร้ที่พึ่ง ส่วนตัวก็อยากช่วยแต่ไม่มีตำแหน่งเลยทำอะไรไม่ได้

เริ่มกลับมารับงานบันเทิงเพิ่มมากขึ้นแล้วสำหรับ "แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี" หลังต้องกลายเป็นเพียงแค่อดีตส.ส.ของพรรคไทยรักไทยตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่ผ่านมา มีโอกาสได้เจอเจ้าตัวเลยต้องถามไถ่กันเสียหน่อยเกี่ยวกับอนาคตบนถนนเส้นทางสายการเมืองเส้นนี้

"ก็ไม่ได้ทำบันเทิงมานานนะครับ ก็จะไปทำเรื่องสังคมอยู่พอสมควร ตอนนี้กำลังเปิดคลีนิคที่กำลังจะเปิดตัววันที่ 29 นี้ที่เชียงใหม่ เป็นคลีนิคดูแลรักษารูปร่าง หน้าตา ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยครับ สาขาแรกเปิดที่เชียงใหม่ก่อน เพราะผมมองว่าเชียงใหม่นี่อีกหน่อยดูเหมือนจะเป็นศูนย์กลางแห่งสุขภาพแล้วนะ เชียงใหม่มันเป็นเมืองที่กำลังจะขยายแล้วคนสนใจเรื่องสุขภาพเยอะ"

เผยยังไม่คิดบอกลาการเมือง แต่ตอนนี้รอให้ทุกอย่างนิ่งเสียก่อน..."การเมืองผมคงรอให้นิ่งก่อน รอว่าทิศทางการเมืองจะเป็นอย่างไร กฎกติกาที่คิดว่ามันเหมาะสม มันพอดีสำหรับคนไทยต้องการอย่างไร ผมก็พร้อมที่จะรอ และทำตามกติกาที่อยากจะให้เป็นนะครับ แล้วก็มาดูกันอีกทีเรื่องอนาคต"

"ผมก็ยังไม่ได้ไปไหนนะครับ ก็ยังอยู่ ตำแหน่งรองโฆษกก็ยังอยู่ ปกติผมก็เป็นรองโฆษกที่ทำเฉพาะเรื่องสังคม เรื่องประชาชนอยู่แล้ว เป็นรองโฆษกที่ไม่ค่อยได้ยุ่งเรื่องการเมือง อะไรที่เป็นกิจกรรมที่ดีสำหรับส่วนรวมก็จะเข้าไปยุ่งกับตรงนั้นเสียส่วนใหญ่ ถ้ามีการบวช การบริจาคเลือด น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือกิจกรรมที่ช่วยคนด้อยโอกาสอย่างนี้ ก็จะไปนั่งจัดกิจกรรม และประชาสัมพันธ์เรื่องกิจกรรมของพรรค"

"ส่วนเวลาที่มีเรื่องตอบโต้ทางการเมืองจะเป็นโฆษกคนอื่นเพราะว่าผมไม่ถนัดเรื่องตอบโต้ทางการเมือง"

ยืนยันที่ผ่านมาทำตามกติกาทุกประการ..."ก็อย่างที่บอกว่าผมก็รอกติกาที่คิดว่ามันเหมาะ เพราะที่ผ่านมาผมก็ทำตามกติกาทุกอย่าง เมื่อมีการแก้กติกา บอกว่าสิ่งนั้นมันผิด ผมก็ยังไม่รู้ว่าถูกผิดตรงไหนนะครับ แต่ก็ยอมรับว่า เมื่อมันเป็นอย่างนั้น ผมก็พร้อม หรือว่าเขาอยากจะให้กติกามันเป็นอย่างไร มีการเขียนชัดเจนว่ากติกาเป็นอย่างนี้ อย่างนั้น"

"ผมมองเห็นว่าผมมีโอกาสได้เข้าไปทำงานตรงนั้นได้ มีโอกาสได้ทำงานในสิ่งที่ผมอยากทำ ผมทำการเมือง แต่ผมอยากทำเรื่องสังคม เรื่องครอบครัว เรื่องเยาวชน เรื่องคนสูงอายุ พวกนี้ผมก็ทำอย่างต่อเนื่องมาตลอด เมื่อทุกอย่างมันยุติ ผมก็ยอมรับ ยุติไปก่อน เมื่อมีกติกาใหม่มาแล้ว ถ้าผมเห็นว่ากติกาใหม่มันดี มันสมควรที่จะไปทำงานตรงนั้นหรือไม่ ก็เดี๋ยวมาตัดสินใจอีกทีหนึ่ง"

สมาชิกพรรคคนอื่นเป็นอย่างไรบ้าง?
"ผมก็ไม่ค่อยทราบเรื่องในพรรคมากนะครับ แต่ร้อยคนก็ร้อยความคิดนะ จะให้ทุกคนมาคิดเหมือนกัน และคิดแบบเดียวกันมันก็ไม่ใช่ ผมก็มีความคิดในแบบของผม หลายคนในพรรคก็อาจจะมีความคิดที่หลากหลายกันออกไป ทั้งหมดทั้งปวงมันก็ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นที่ตั้งว่าจะเป็นอย่างไร ผมก็ทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด และอะไรผิดก็ว่าตามผิด อะไรถูกผมก็ยึดเอาไว้"

ให้พูดถึงอดีตหัวหน้าพรรค "ทักษิณ ชินวัตร" แซมบอกว่าตนมองเห็นและสัมผัสข้อดีของคนๆ นี้มากมาย แต่ก็ยอมรับว่ามีด้านที่ไม่ดีอยู่เช่นกันซึ่งเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ทั่วๆ ไป แต่อยากให้คนส่วนใหญ่เปิดใจรับสิ่งที่ดีๆ มากกว่า
"ผมเชื่อว่าคนเรามีทั้งดีและไม่ดีปนกันนะครับ ข้อดีมากมายของท่านอดีตนายกทักษิณนี่ ผมก็เห็น รู้สึกแล้วก็สัมผัสได้ในหลายๆ เรื่อง ข้อเสียบางเรื่องผมก็รู้และสัมผัสได้ ซึ่งอันนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป จะให้ผมเป็นคนตัดสินว่าใครผิด ใครถูก ผมคงพูดไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นหน้าที่ศาลนะครับ"

"ผมก็อยากจะให้สังคมเปิดกว้าง และรับในสิ่งที่ดี หรือใครจะงานด้านนี้ต่อ ด้านไหนที่เขาทำไว้ดีแล้ว ก็อย่าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไข ด้านไหนที่คิดว่าไม่ดี ก็เอาไว้เป็นบทเรียนแล้วก็แก้ไขกันต่อไป ก็อยากให้สังคมไทยมองอย่างกว้างๆ แล้วก็เลือกพิจารณาในสิ่งที่ควรจะเป็นก็คงไม่มีปัญหา ก็อยากให้อย่าเพิ่งไปตัดสินว่าสิ่งนั้นคือเลว และก็ชั่วร้ายไปหมด"

"ผมก็เป็นคนหนึ่งในพรรคไทยรักไทย และผมก็มองว่าพรรคไทยรักไทยเองก็มีคนที่ดีและไม่ดีปนกัน ก็อยากจะให้เลือก อย่าเหมารวม ผมคิดว่าสังคมกำลังต้องการความชัดเจนว่าอะไรผิด แล้วอะไรถูก"

เผยรู้สึกท้อ เพราะตนตั้งใจจริง มุ่งมั่นอยากทำงานการเมืองมานานแล้ว ไม่ใช่การจับพลัดจับผลูเข้าไปทำ..."ถามว่าท้อไหม ท้อนะครับ เพราะว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจดี กับการทำงานการเมือง ยอมทิ้ง ยอมเสียสละอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาชีพ เรื่องรายได้ หรือว่าความเป็นส่วนตัวอะไรหลายๆ เรื่องเพื่อที่จะไปทำงานอย่างที่เราอยากจะทำ แล้วก็ตั้งใจนะไม่ใช่จับพลัดจับผลูไป"

"โดนสั่งสมมานานมากแล้ว เพราะว่าคุณพ่อของผมเป็นหนึ่งในคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทย มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อ พ.ศ. 2475 คุณพ่อผมเป็นหนึ่งในห้าของผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยใช้ในทุกวันนี้ เพราะคุณพ่อตั้งใจดีที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครอง ให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตย"

"ผมฟังเรื่องการเมืองมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วใครชักชวนกี่ยุคกี่สมัยก็ยังไม่พร้อม จนกระทั่งขอไปเรียนปริญญาโท รัฐศาสตร์ ธรรมศาตร์ เพื่อให้เรารู้ว่าการเมืองที่เราได้รู้ ที่เราอ่าน ที่เราสัมผัสอยู่นี่ มันเป็นอย่างไร รากฐานที่แท้จริง เป็นอย่างไร ไปเรียนเพิ่มเติม เพื่อให้เรามั่นใจว่าสิ่งที่เรากำลังทำนี่ มันมีตรรกะ มันมีความคิด มันมีพื้นฐานของมันอยู่ ถึงได้รู้เมื่อได้มาทำการเมืองจริงๆ ว่าตำราเล่มไหนก็ไม่เคยมีใครเขียนการเมืองแบบนี้ขึ้นมาเลย มีแต่ในการเมืองของไทย"

"แต่ก็นั่นแหละ คือการเมืองแบบไทยๆ ที่เรามีหน้าที่ต้องศึกษา เรียนรู้ แล้วหยิบสิ่งที่ดีไว้ แก้ไขในสิ่งที่ยังไม่ดี ให้มันแล้วเสร็จ ท้อไหมก็อย่างที่บอกว่าเมื่อตั้งใจริงมาเจอแบบนี้มันก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่ามันยังไงกัน แต่ถ้าทุกคนที่ตั้งใจดีแล้วท้อหมด ก็จะไม่เหลือคนที่ตั้งใจดีอีก ผู้ใหญ่หลายๆ คนที่เห็นว่าเราตั้งใจริงๆ เขาก็บอก อ้าว...อย่าท้อนะ แล้วก็ดูก่อน ถ้าอะไรที่เราช่วยเหลือประเทศชาติบ้านเมืองได้ ยังพอทำอยู่ได้ ก็ทำไปเถอะ ถ้าเราเชื่อว่าสิ่งที่เราทำนั้นดี"

อนาคตทางการเมืองยังไม่ยืนยัน บอกทำงานตามความต่อเนื่องมากกว่า เผยประชาชนยังฝากความหวังที่ตนและพรรคอยู่
"ไม่ถึงกับยืนยันนะครับ แต่ว่ามันเป็นความต่อเนื่องมากกว่า อย่างในพื้นที่ที่ผมดูแลอยู่ พื้นที่ดินแดงนี่ เวลานี้คือไม่มีสส.เลย ประชาชนก็เดือดร้อนในหลายๆ เรื่อง ไม่มีใครช่วยได้ เพราะว่ามันเป็นช่องโหว่เนี่ย พอเรารู้เรื่องอะไรก็แล้วแต่ เราก็ไม่สามารถที่จะไปบอกรัฐบาลได้ เพราะเราไม่มีตำแหน่งหน้าที่ใดๆ อะไรช่วยเหลือเองได้ ก็ช่วยไป ทุนทรัพย์ส่วนตัวก็ร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่มีงบประมาณใดๆ ที่จะไปช่วยดูแลทั้งสิ้น"

"แต่ประชาชนเขายังฝากความหวัง เดินไปนี่เขาก็ยังรู้สึกว่าเรายังเป็นสส. ของเขาอยู่ แต่เราคงไปทำงานอย่างเมื่อก่อนไม่ได้แล้วเพราะเราต้องกลับมามีอาชีพของตัวเองด้วย เพราะผมมีครอบครัวที่ต้องดูแล ตอนทำการเมืองก็ไม่ได้พอใช้อยู่แล้ว แต่ยังแบ่งได้ แต่ตอนนี้นี่อาชีพตัวเองก็ไม่มี แล้วยังต้องดูแลครอบครัวเลี้ยงลูกอีกสองคน ภรรยาด้วย คุณแม่ด้วย แล้วยังต้องกันส่วนหนึ่งไปช่วยในพื้นที่ด้วยซึ่งก็ยังทิ้งไม่ได้ เพราะว่าเรายังเป็นความหวังของเขาอยู่"
กำลังโหลดความคิดเห็น