"กิตติ" ยันยังยืนหยัดทำงานให้ "ไอทีวี" เพราะตอนนี้ตนยังมีความสุขดีกับการที่ไม่มีใครมาบงการแต่เสียงอ่อยบอกตนไม่ขออยู่ที่นี่ไปจนตายหากในอนาคตมีทางอื่นที่ดีกว่า โต้กระแสวิจารณ์ถ้าไม่ได้ตำแหน่งใหญ่กิตติไม่ยอมไปทำงานให้เด็ดขาด เจ้าตัวชี้จุดยืนทำงานแบบติดสุข คุยได้รางวัลท็อปอวอร์ดเป็นเครื่องพิสูจน์คนยังศรัทธาตนเอง พร้อมลั่นตำแหน่ง(ใหญ่)ที่ได้มาเพราะความสามารถล้วนๆ
แม้ทิศทางของ "ไอทีวี" จะยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ถึงเสถียรภาพความมั่นคงขององค์กรแต่ขุนศึกแถวหน้า(จอ)อย่าง "กิตติ สิงหาปัด" ยืนยันยังจะไม่ทอดทิ้งโทรทัศน์เสรีช่องนี้ไปไหน บอกเหตุไม่เกี่ยวกับการยึดติดกับตำแหน่งใหญ่หากแต่เป็นเพราะความสุขจากการได้รับอิสระเต็มที่ในการทำงาน
"มันไม่เกี่ยวกับเล็กหรือไม่เล็กนะคือผมทำงานโทรทัศน์ผมพูดมาหลายครั้งแล้วและคนไอทีวีก็รู้ดีว่าผมน่ะ..คือสายข่าวคนทำงานจะมี 2 แนว อยากจะอยู่เบื้องหลังแล้วเติบโตสายงานบริหารแล้วคนที่ทำรายการคือผมเป็นผู้ดำเนินรายการอยู่หน้าจอมาตั้งแต่ต้นผมก็อยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดี"
"ผมไม่อยากพะวงหรือปวดหัวกับเรื่องที่วันๆ วิ่งประชุมแล้วบางท่านต้องมานั่งจัดรายการซึ่งต้องเครียด ผมก็เอาดีทางนี้ผมไม่มีความพะวงและไม่มีความใฝ่ฝันทะเยอทะยานอยากจะเป็นใหญ่ในทางการบริหาร แน่นอนคือตำแหน่งก็อาจจะมาด้วยความสามารถของเราในบางส่วนแต่ว่าไม่ได้เป็นเป้าหมายหลักของผม"
ไม่สนองค์กรเล็กหรือใหญ่ ขอเพียงมีอิสระและคนข่าวที่มีคุณภาพตนเองก็พร้อมที่จะลุยด้วย
"เพราะฉะนั้นเวลาผมจะย้ายงานไม่ย้ายงานเนี่ยไม่ได้อยู่ที่ว่าจะไปเล็กไปใหญ่ผมเอาที่ว่าผมทำแล้วผมมีนักข่าวผมมีทรัพยากรให้ผมใช้งานได้ขนาดไหน ไปอยู่ที่ไหนก็ตามถ้าผมมีนักข่าวอยู่ในมือ มีเหตุด่วนแล้วไปตามให้ผมได้ตามความสามารถและอิสระภาพของผม 100% ผมสามารถทำงานได้ด้วยวิจารณญาณของผม ไม่มีคนมาบงการ ผมก็ทำได้ด้วยความสบายใจผมอยู่ที่ไหนผมก็อยู่ได้ อันนี้เป็นปัจจัยหลัก"
"อันอื่นก็เป็นปัจจัยมาประกอบเพื่อสาระตะแล้วเนี่ยเราทำงานอย่างไรให้เรามีความสุขที่สุดผมจำเป็นที่จะต้องทำงานแบบค่อนข้างที่ติดสุขอยู่นิดหน่อยคือว่าไม่ทำงานมากเกินไปเพราะว่าเราทำงานครอบครัวผมมีงานอดิเรกก็ทำนู่นทำนี่ส่วนตัวผมก็อยากมีวันหยุดไม่อยากทำงานตั้งแต่ดึกถึงมืดนี่คือจุดยืนของผมที่ไม่ทำแบบนั้น"
เจ้าตัวออกปากแม้จะอยู่ที่ไอทีวีอย่างมีความสุขดีแต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกาะอยู่ที่นี่ไปจนตาย
"ผมทำงานแค่อันเดียวทำให้ดีที่สุดอันใดอันหนึ่งถ้าทำแล้วยังมีความสุขก็ยังอยากจะทำเพราะว่าได้ใช้เสถียรภาพ 100% แต่ไม่ได้แปลว่าผมจะอยู่ที่นี่จนวันตายนะครับเราคงไม่สามารถพูดอย่างนั้นได้ ถ้าในอนาคตมันมีการเปลี่ยนแปลงหรือผมมีช่องทางทั้งหลายแหล่ถ้าเกิดว่ามันทำแล้วดีขึ้นกว่าหมายถึงว่ามันเปิดโอกาสให้เราทำงานเต็มที่ 100%เหมือนกันผมก็อาจจะพิจารณาในภายหลังนะครับแต่ตอนนี้ผมทำงานที่นี่ 100% และยังมีความสุขดี 100%"
ล่าสุดกับรางวัลท็อป อวอร์ดสาขา "ผู้ประกาศยอดเยี่ยม" ที่ได้รับมาก็ทำเอาผู้ดำเนินรายการคนดังยืดเต็มที่ เจ้าตัวบอกถือเป็นรางวัลที่สำคัญต่อจิตใจอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงหลายต่อหลายอย่างที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีเข้ามา พร้อมคุยแสดงว่ายังมีคนเชื่อมั่นในแนวทางของตนอยู่เยอะ
"วันนั้นผมตั้งใจพูดบนเวทีซึ่งเป็นความรู้สึกที่แว๊บขึ้นมา ต้องเข้าใจว่าปีนี้ถ้าใครติดตามข่าวบางส่วนจะพบว่าไอทีวีถูกโจมตีซึ่งบางส่วนมาโจมตีผมเป็นการส่วนตัวแบบว่าอยากจะให้เราจมธรณีลงไปหรืออย่างไรไม่ทราบนะครับ แต่ว่าเรื่องหน้าจอเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าผมทำงานไม่เข้าใครออกใครตรงไปตรงมาแล้วก็คนดูฮ็อตนิวส์ทุกคืนจะรู้"
"สภาพการเมืองที่แตกแยกหนักแบบที่เป็นอยู่เนี่ยเมื่อผมได้รางวัลนี้ซึ่งเป็นรางวัลที่โหวตผ่านสวนดุสิตโพลเป็นป็อบปูล่าโหวตผมก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นกำลังใจมากในปีนี้ ถ้าเป็นปีอื่นหรือทุกปีผมอาจจะเฉยๆ ผมรู้สึกว่าเออมีผู้ชมข่าวโหวตมาให้เราเป็นผู้ประกาศยอดเยี่ยมแปลว่าคนดูเข้าใจว่าผมและรายการเป็นอย่างไร"
"ผมก็เลยรู้สึกว่าท็อป อวอร์ดปีนี้เป็นรางวัลซึ่งมาได้ถูกที่ถูกเวลาเหมือนกับมันเป็นกำลังใจลึกๆของผมว่าผมทำมาเนี่ยอย่างน้อยมีคนจำนวนมากชื่นชอบแล้วเชื่อมั่นในแนวทางถึงโหวตให้เราได้รางวัลนะครับ ก็เป็นรางวัลที่มีผลทางด้านจิตใจมากในปีนี้ครับ"