เคยเกิดกรณีพิพาทขึ้นเมื่อหลายปีก่อนเมื่อครั้งที่ "พีท ทองเจือ" ทำหนังเรื่อง "จังหวัดที่ 77" ซึ่งมี "ไมค์ กิ่งโพยม" ร่วมแสดงด้วย ครั้งนั้นตกเป็นข่าวใหญ่ว่า พีทเบี้ยวไม่จ่ายค่าตัวไมค์อย่างไรก็ตามข่าวนี้ได้เงียบหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ
จนกระทั่งล่าสุด พีทก็ได้ออกมารายการ "คุยแหกโค้ง" แฉถึงสาเหตุที่ไม่จ่ายค่าตัวให้ไมค์ว่า เป็นเพราะไมค์ไปทำความผิดที่อเมริกาซึ่งทำให้เกิดค่าเสียหาย จึงจำเป็นต้องหักจากค่าตัว ทำเอาหลายคนสงสัยว่า ไมค์ไปทำความผิดอะไร? และทำไมพีทพึ่งออกมาพูดตอนนี้? มีเจตนาอะไร? ต้องการลบล้างตราบาปของตัวเองหรือเปล่า?
"มันไม่ได้มีปัญหาอะไร ทางรายการเขาแค่ไม่มีประเด็นอะไร เขาอยากเชิญเรามาเป็นแขกรับเชิญ ไม่รู้จะเชิญมาคุยเรื่องอะไรก็ขอคุยเรื่องนี้ เราก็โอเคไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องราวทั้งหมดผมขอเป็นลูกผู้ชายไม่พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น มันเกี่ยวข้องกับเรื่องงาน ตอนนั้นเราเป็นผู้บริหาร พอมีอะไรเกิดขึ้น เราไม่อยากสร้างความเสียหาย โอเคมันอาจะเป็นประเด็นที่น่าสนใจ แต่บางทีการเป็นดาราศิลปินมันก็ต้องมีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี แต่ก็ไม่อยากให้พูดถึงด้านที่ไม่ควรพูด"
"ผมเองไม่ชอบแก้ตัว คนแก้ตัวคือคนที่พยายามรักษาภาพของตัวเอง แต่ผมไม่รู้จะรักษาภาพทำไม ผมไม่ได้มีสังคมที่นี่ที่เดียว ผมไม่ค่อยได้ทำงานในวงการซักเท่าไหร่ ก็เลยไม่ชอบแก้ตัว แต่พอถึงเวลาที่เราโดนถามถึงงานที่เราทำหน้าที่รับผิดชอบ เราก็ต้องเล่าให้ฟังว่า เราได้แก้ไขปัญหา มันเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้น และผมก็ได้รับผิดชอบสิ่งเหล่านั้นไป ซึ่งมันทำให้เกิดจำนวนเงินที่เขาต้องชำระ เขาก็ต้องชดใช้ด้วยค่าตัวของเขา แต่เรื่องนั้นมันผ่านไปแล้ว ไม่เป็นไรผมไม่ซีเรียส"
การมาพูดครั้งนี้ไม่ได้หวังให้ได้เครดิตกลับคืน แต่ที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้เจอสื่อก็เลยไม่ได้ชี้แจงความจริง และโดยส่วนตัวก็ไม่ชอบแก้ข่าว
"ผมไม่ค่อยแคร์เรื่องเครดิตซักเท่าไหร่เพราะผมไม่ได้ทำงานวงการบันเทิง แต่มันก็เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเราก็โตมากับตรงนี้ ชื่อเสียงของผมมันมีหลายมุม ไม่ใช่ดีหรือเลว ผมผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ผมเข้าใจข่าว เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด"
"แต่ที่พึ่งออกมาพูดก็เพราะว่าที่ผ่านมาผมไม่ได้ออกมาเจอสื่อ ถ้าใครที่ติดตามข่าวของผมจะเห็นว่าเวลามีข่าวแรงๆ ออกมาผมจะไม่โผล่ออกมาต่อสู้ซักเท่าไหร่ อย่าไปเขียนอะไรให้มันเสียหายเลย มันเป็นแค่เหตุการณ์หนึ่ง แต่มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสม ก็ไม่น่าจะออกมาเปิดเผย เหมือนผมไปเล่นละครให้อาหลอง ผมขับเจ็ทกีไปชนอะไรเสียหายทางอาหลองก็ต้องตามไปเคลียร์ให้ ผมคิดว่าตรงนี้มันเป็นเหมือนเจ้ากรรมนายเวรกันมากกว่า"
หลังจากที่ออกรายการไปทางด้าน "ไมค์ กิ่งโพยม" ก็ไม่ได้มีฟีดแบกอะไรกลับมา..."ก็ไม่เห็นเขาว่าอะไร ผมเองก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายแค่บอกว่ามันเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้น ตอนนั้นผมเหมือนเป็นหัวหน้างาน ลูกน้องทำอะไรผิดเราก็ต้องรับผิดชอบ ทุกอย่างมันจบไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ผมก็ทำงานของผม ผมทำเกี่ยวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เป็นในส่วนของโปรดักชั่นเซอร์วิส ให้กับหนังที่มาถ่ายทำในเมืองไทย ทำอีเวนท์เกี่ยวกับรถยนต์ และก็มีทีมแข่งรถ ส่วนงานหนังของตัวเองคงต้องอีกซักพัก เพราะตอนนี้ผมดูแล้วตลาดหนังมันยังเป็นไปได้ยาก ส่วนงานเบื้องหน้าคงต้องหยุดไว้เลย เพราะผมอยากให้เวลากับครอบครัว"