หลังจากออกจากค่ายอาร์เอส "เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์" หันไปซบอกแกรมมี่ฯ ซิวตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนสอนดนตรีมีฟ้าของแกรมมี่ ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเผยโปรเจ็กต์เด็ด ผุด "ค่ายมีฟ้า" ค่ายเพลงน้องใหม่ที่เน้นปั้นศิลปินในโรงเรียนมีฟ้า โดยคงยึดคอนเซ็ปต์ป็อบปไอดอล เหมือนที่เคยทำให้กับ "ไอดี เรคคอร์ด" ของอาร์เอสเปี๊ยบ
"ตอนนี้มีฟ้าจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือโรงเรียนสอนดนตรีมีฟ้าเหมือนเดิม ส่วนที่จะเพิ่มขึ้นคือ เราจะมีหลักสูตรที่เอาสิ่งที่แกรมมี่สอนศิลปินอย่างไรก็เอามาสอนอย่างนั้น นอกจากนั้นแล้วก็ยังจะสร้างค่ายเพลงมีฟ้า โดยจะเปิดโอกาสในกับน้องๆ ที่มาเรียนได้มาคัดเลือก"
"ค่ายมีฟ้าเราจะมุ่งสร้างป็อปไอดอล จับกลุ่มวัยทีนเหมือนไอดี เรคคอร์ด ซึ่งเป็นแนวถนัดของผม แต่จุดประสงค์ในการทำงานต่างกัน ไอดี เรคคอร์ดจะมุ่งเน้นทำงานเพลงมีแผนการเหมือนธุรกิจ แต่ค่ายมีฟ้าเป็นปลายทางความฝัน ส่วนธุรกิจเป็นเรื่องรอง เราไม่ได้ต้องการเงินทอง"
แปลว่า การทำงานกับไอดีเรค คอร์ดที่ผ่านมาค่อนข้างอิงตลาด?
"มีฟ้าก็อิงตลาดเหมือนกัน ตลาดก็คือ...ทำอย่างไรให้คนชอบ เราก็ต้อทำให้คนชอบไม่ใช่ทำแล้วรู้สึกไม่ดี มันอาจจะเป็นแนวทางเดิม แต่ศิลปินเป็นนักเรียนของเราเอง แต่ของไอดีจะได้ศิลปินมาจากหลายๆ ทาง ได้จากการแคสติ้ง เด็กเดินเข้ามาเองบ้าง แต่ศิลปินมีฟ้าเราจะเห็นเขามาตั้งแต่เด็กๆ ถ้าเราจะทำเค้าอีก 2 ปี เราก็จะให้เขาเรียนอย่างที่อยากให้เป็นได้เลย"
เคยบริหารค่ายไอดี เรคคอร์ดจนประสบความสำเร็จ พอมาทำ "ค่ายมีฟ้า" แน่นอนว่างานนี้ไม่แคล้วโดนเปรียบเทียบ เพราะดันจับกลุ่มป็อปไอดอลเหมือนกัน หรือว่างานนี้เจมส์จะหัก "เฮีย" ณ อาร์เอสซะแล้ว
"จริงๆ แล้วผมไม่ได้ยึดความสำเร็จเดิมๆ ตรงนั้นอยากจะเก็บไว้เป็นความภูมิใจ การที่ผมมาอยู่ที่นี่ก็เพราะต้องการทำอะไรใหม่ๆ และถึงผมไม่ได้มาทำ ไม่มีค่ายมีฟ้า แต่นักเรียนที่เรียนที่มีฟ้าก็ต้องไปทำงานเพลงกับค่ายอื่น เราเป็นกรรมการบริหารก็เป็นห่วงนักเรียนของเราเลยคิดว่า เราก็น่าจะมีค่ายรองรับจุดนี้ ผมไม่ได้มองว่าจะต้องไปแข่งกับใคร อาร์เอสหรือค่ายอื่นๆ ถ้าแข่งขันมันไม่ได้งานที่บริสุทธิ์"
ส่วนงานนี้ "เอ๊ะ ศศิกานต์ อภิชาตวรศิลป์" แฟนสาวจะย้ายจากอาร์เอสมาช่วยบริหารค่ายมีฟ้าเหมือนตอนที่เคยทำไอดี เรคคอร์ดหรือไม่ เจมส์บอกว่า แล้วแต่ทางเอ๊ะจะตัดสินใจอย่างไร
"เรื่องนี้คงต้องให้เอ๊ะตัดสินใจเอง แต่ตอนนี้ฟังๆ เขาดูแล้ว เขาอยากทำอะไรหลายอย่างมาก อยากเรียนต่อ อยากเดินแบบ อยากทำงานเบื้องหลัง และอยากทำธุรกิจ ก็ปล่อยให้เขาได้ตัดสินใจทำเองดีกว่า เขาก็มีมาปรึกษาบ้าง ผมก็ให้คำแนะนำว่า น่าจะไปพักผ่อนไปเที่ยวอยู่กับตัวเองแล้วค่อยตัดสินใจ ความเป็นไปได้คิดว่า 50 – 50 ถ้าเขามาร่วมงานด้วยก็ดี แต่ถ้าไม่มาก็ไม่เป็นไร บางอย่างมันเป็นเรื่องของชีวิตเขา"
เรื่องการร่วมงานกับเอ๊ะยังไม่รู้ ส่วนเรื่องข่าวลือที่ว่า ทั้งคู่จะร่วมหอลงโรง ถึงขั้นไปดูฤกษ์ดูยามมาแล้วนั้น เจ้าตัวก็บอกว่า ไม่เป็นความจริง
"ไม่มีครับ ไม่ได้ไป ผมกับเอ๊ะเป็นคริสต์ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เรายังไม่ได้คุยกันเรื่องแต่งงานเลยยังเด็กอยู่ ชีวิตการแต่งงานมันมีอะไรอีกเยอะ ไม่ใช่มีเงิน มีหน้าที่การงานที่ดีแล้วแต่งงานกันเถอะ พลาดเลิกกันไปก็เยอะแล้ว ตัวผมเป็นคนคิดเยอะ ชีวิตครอบครัวถ้าจะมีไม่ต้องเพอร์เฟ็กต์ แต่ต้องอยู่นานๆ วันนี้ถามว่าพร้อมหรือยัง ในเรื่องปัจจัยผมพร้อมหมดแล้ว แต่เรื่องความเข้าใจเรื่องเวลายังไม่พร้อม"
"ผมยังห่วงชีวิตอิสระและความเป็นโสด เราทำงานวงการนี้เรายังต้องเจออะไรอีกเยอะ เราจะทุ่มเทชีวิตให้กับครอบครัวยังไม่ได้ ผมตั้งความฝันเอาไว้ว่า หากวันไหนที่มีเมียแล้วอยากจะเลี้ยงลูกดูแลทุกอย่าง อยากจะทำงาน 5 ชม.แล้วกลับมาดูแลเขา แต่ตอนนี้มันยังทำไม่ได้ ตรงนี้ไม่ใช่ประเด็นเรื่องเงิน ผมทำงานมา 10 -12 ปี ถ้าไม่ใช้จ่ายสรุ่ยสร่ายก็ใช้ไม่หมดแล้วแหละ ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นประเด็น 7 ปี ยังรู้สึกว่าพอหรือยัง การแต่งงานไม่ใช่เรื่องง่าย"