xs
xsm
sm
md
lg

วิพากษ์ลั่น "โทรทัศน์ทองคำ" เอียง "ช่อง3-แกรมมี่"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แค่เพิ่งเริ่มแถลงข่าวคณะกรรมการของงานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำครั้งที่ 20 ก็ถูกครหาว่าเข้าข้างช่อง 3 และเชียร์ค่ายแกรมมี่จนออกนอกหน้าซะแล้ว เนื่องจากแต่ละรางวัลมีโผรายชื่อช่อง 3 เข้าชิงเพียบ เช่นเดียวกับรางวัลมิวสิกวิดีโอดีเด่นก็มีแต่เพลงของแกรมมี่เท่านั้น!!!

ทำเอา “นคร วีระประวัติ” กรรมการอำนวยการในการจัดพิธีประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำครั้งที่ 20 ที่ได้ประกาศผล “รางวัลเกียรติยศคนทีวี” ซึ่งคณะกรรมการได้ตัดสินไว้แล้วดังนี้คือ พิชัย วาสนาส่ง, มารศรี อิศรางกูล ณ อยุธยา และ สินีนาถ โพธิเวช ต้องออกมาชี้แจงถึงคำครหาดังกล่าวว่าเป็นเรื่องนานาจิตตัง

“ภายนอกอาจคิดว่าเรามีปัญหาทางด้านการทำงาน ในเรื่องการตัดสินอะไรต่างๆ ผมว่าอาจจะเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนก็ได้ แต่ว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น หลายคนมองว่าโทรทัศน์ทองคำรางวัลจะได้กับทางช่อง 3 เป็นส่วนมาก อันนี้เราต้องยอมรับนิดหนึ่งว่าละครช่อง 3 ออกมาเยอะ ทั้งนักแสดง-ผู้กำกับ-บทละครของเขาค่อนข้างมีคุณภาพ”

“แต่ไม่ใช่ว่าคณะกรรมการจะมองเฉพาะช่อง 3 นะ ปีนี้เรายังไม่รู้อะไรเลยแต่ว่าผลออกมาก็เป็นอย่างนี้ทุกที พอช่อง 7 ถ่ายทอดสดละครช่อง 3 ก็ได้ เราก็ทำอย่างดีที่สุดน่ะ เราก็ต้องเอามาเปรียบเทียบกัน อย่างละคร “ในฝัน” ของหม่อมน้อยเราก็เอามา เราดูงานไม่ได้ดูช่องคือเราจะเอาชื่อละครชื่อนักแสดงมาถกกันแต่พอรายชื่อออกมาจริงๆ ก็โอ้โห! ช่อง3เยอะอีกแล้ว”

ต่อข้อสงสัยว่าทำไมรางวัลมิวสิกวิดีโอดีเด่นจึงมีแต่ค่ายแกรมมี่เข้ารอบทั้งหมด เช่น เพลง แทนความคิดถึง ของ ก๊อต จักรพรรณ , โอ้ละหนอ...My love ของ เบิร์ด ธงไชย, คนมันแรง ของ So cool , สักวาปากหวาน ของ เอ็นโดรฟิน และ ยินดีปีระกา ของ ลานนา คัมมินส์ นครซึ่งเป็น 1 ในคณะกรรมการก็ยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้
“อันนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน มันก็คงป็นเรื่องของกรรมการที่เขาพิจารณา อย่างที่เรียนก็คือคณะกรรมการเขาไม่ได้มีส่งซิกหรือส่งอะไรกับแกรมมี่ แต่ว่าเขาก็เห็นว่าเป็นอย่างนี้เพลงเป็นอย่างนี้ เขาพิจารณาจากมิวสิกวิดีโอที่ส่งมาน่ะครับ”

“เรื่องกระแสที่คนมองว่าตอนนี้แกรมมี่ขาลงเราจึงช่วยเชียร์ ความจริงมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องของความคิด ผมพูดอยู่เสมอว่าความคิดเป็นสิทธิ์ของเขาเราอย่าไปล้มล้าง เราอย่าไปว่าแต่ละคนมีสิทธิ์วิจารณ์แต่ว่าเราก็มีสิทธิ์ในการทำงานของเรา มันนานาจิตตัง ซึ่งเราก็รับได้”

ย้ำจุดยืน “โปร่งใส-ไร้ผลประโยชน”
“ถ้าถามถึงเกณฑ์การตัดสิน ปีนี้ก็เหมือนทุกๆปี คณะกรรมการที่เราเชิญมาเป็นครูบาอาจารย์ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นคนที่ทำงานในวงการโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียง เราไม่สามารถไปบอกท่านได้ว่าเราอยากได้คนนี้นะเราไปจูงใจท่านไม่ได้ ถ้าเราไปบอกอย่างนั้นท่านไม่มาทำงานกับเราแน่”

“เพราะฉะนั้นหลักเกณฑ์คือเราก็ดูตามความรู้สึกตามความคิดเห็น บางทีเรามองคนนี้ แหม! เล่นแข็งเป็นท่อนไม้เลย นั่นก็คือความรู้สึกของเรา ทางกรรมการที่เราเชิญมาเขาก็มีความคิดเห็นของเขา เวลาประชุมทุกคนจะอภิปรายกันอย่างเต็มที่ แล้วก็มาสรุปกัน”

“เราทำงานตรงนี้คำครหาต้องมีน่ะแต่เรามีความตั้งใจ บริสุทธิ์ใจและเราไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ เราก็พยายามทำให้ดีที่สุดครับคือเราก็แคร์คนนะ”
กำลังโหลดความคิดเห็น