หลังเลิกลากับเพื่อนหนุ่มนักร้อง "กัปตัน ภูธเนศ" ชื่อของสาว "พิม พิมพ์มาดา" ก็หายไปพอสมควร มาเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อมีคนเห็นว่าเจ้าตัวเดินควงอยู่กับหนุ่มไฮโซ “กรณ์ ณรงค์เดช” ด้วยอาการที่กุ๊กกิ๊กเกินกว่าจะเป็นเพื่อน หรือพี่ - น้อง ทำเอาหลายคนสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสอง
เพื่อความกระจ่างก็คงต้องถามไปที่เจ้าตัวซึ่งได้รับคำตอบเสียงแข็งแกมดุยอมรับเดินด้วยกันจริง แต่ไม่มีอะไรในกอไผ่อย่างแน่นอน
“ความรักตอนนี้ของพิมก็มีแค่ข่าวน่ะค่ะ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษจริงๆ คือบอกตรงนี้เลยแล้วก็น่าจะอยากให้เรื่องตรงนี้มันจบไปด้วยน่ะค่ะ มันไม่มีอะไรเลย(เน้นเสียง) จริงๆ ค่ะ รู้จักกันมั้ยรู้จักกันค่ะแต่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ก็เหมือนคนรู้จักกันน่ะค่ะเหมือนพิมรู้จักพี่(นักข่าว)ก็ทักทายสวัสดีปกติ ซึ่งคำถามที่ว่าอีกหน่อยจะพัฒนามั้ยก็ไม่มีด้วยซ้ำ บางคนแบบว่าในอนาคตจะมีการพัฒนามั้ยซึ่งพิมก็บอกตรงนี้เลยว่าไม่มีค่ะ”
เซ็งกับการเป็นข่าวชนิดที่จะไปไหนกับใครทีต้องระวังตัวขึ้นมากๆ โดยเฉพาะกับคนมีชื่อ
“พิมรู้สึกซีเรียสเบื่อกับข่าวมากเพราะมันเหมือนคลื่นกระทบฝั่งน่ะค่ะ จะเขียนข่าวถึงเราก็ต้องมีคนอื่นไปพาดพิง ซึ่งบางทีพิมอ่านเองแล้วรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องของพิมเลย ไม่รู้ทำไมต้องมีชื่อพิมไปเกี่ยวข้อง บางทีเซ็งๆเหมือนกัน”
“ถามว่าพิมได้คุยกับคนที่ตกเป็นข่าวมั้ย ก็ไม่มีอะไรต้องคุยค่ะไม่มีอะไรต้องทำความเข้าใจด้วยเพราะเราเข้าใจว่าข่าวก็คือข่าว แต่ถามว่าถ้าเราเจอกันแล้วจะกล้าคุยกันมั้ยเพราะอาจถูกจับตามอง คือพิมว่าก็ไม่กลัวน่ะค่ะ เพราะชีวิตประจำวันเราไม่ได้โคจรมาเจอกันอยู่แล้ว เรื่องตรงนี้พิมไม่ได้กังวลอะไรเลย”
“แต่เวลาไปไหนมาไหนกับใครพิมต้องระวังมากขึ้นแน่นอน ปกติก็ระวังมาตลอดแต่ว่าก็ไม่ได้ระวังจนเสียความเป็นตัวเอง เราก็ระวังในส่วนที่ทำได้ดีกว่าคือเราจะเลี่ยง โอเคก็รู้แล้วว่าไปกับคนที่มีชื่อเสียงที่เป็นซัมบอดี้ในสังคมเหมือนกันเนี่ยมันก็มีความเสี่ยงที่จะป็นข่าวได้สูงกว่าคนปกติ”
ตั้งแต่เลิกกับ “กัปตัน ภูธเนศ”ก็ไม่เห็นว่าสาวพิมจะเปิดตัวว่าคบหากับใครอยู่ นอกจากมีข่าวกับสาวหล่อซึ่งเธอยืนยันว่าเป็นเพื่อนกันเท่านั้น จึงมีคำถามตามมาว่าเธอกลัวความรักหรือเปล่า?
“จริงๆ พิมก็ไม่ได้บอกว่าไม่มีซะทีเดียวนะคะบางทีมันก็ต้องมีบ้างคนที่เป็นเพื่อนคุยหรือคนที่ให้กำลังใจเวลาเราเครียดๆ ฉะนั้นก็เป็นเรื่องปกติ แต่ว่าพิมไม่อยากให้สัมภาษณ์ออกไปว่าโสดหรือว่าต้องการมีคนสมัครเข้ามามั้ยคือไม่ดีกว่า พิมขออยู่แบบเฉยๆ อย่างนี้ดีกว่า”
“สำหรับพิมเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญในชีวิตเลย ไม่ได้นึกถึงเลยด้วยซ้ำ รู้สึกว่ากำลังสนุกกับการทำงาน เรียนจบเพิ่งจะได้มีชีวิตวันที่จะได้ทำงานจริงๆ โดยที่ไม่ต้องลาเรียนหรือเครียดเรื่องสอบ เพราะฉะนั้นเราก็จะเอ็นจอยกับตรงนี้มากกว่า ที่จะมานั่งคิดเรื่องอื่น”
“ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองนะคะ พิมแค่อยากจะให้จบเรื่องกับคนที่เป็นข่าว(กรณ์)มากกว่าเพราะเรารู้สึกว่ามันไม่เป็นความจริง ก็จะได้เคลียร์กันไปทีเดียวจะได้ไม่มีเป็นระลอกๆ เพราะว่าถ้าอยู่เฉยๆ ก็ไม่ได้เดินออกมาแก้ข่าวถ้าไม่ได้เจอพี่ เจอกันตรงนี้ก็ดีจะได้พูดไปเลยว่าขอให้เรื่องตรงนั้นมันจบไปเถอะ”
“ถ้าวันหนึ่งพิมอยู่ในสภาวะที่ตัวเองพร้อมเต็มที่แล้วไม่ว่าจะใครก็แล้วแต่ที่ทุกคนสงสัยต่างๆ นานาพิมก็พูดได้ค่ะเพราะการที่เราจะไปคบใครหรือให้ใครเข้าไปอยู่ในชีวิตเราก็ต้องให้เกียรติเขา เขาก็ต้องให้เกียรติเรา ไม่ใช่ว่าเดินไปบนถนนจับไม้จูงมือกันแต่กลับมาปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน พิมรู้สึกว่าไม่แฟร์ไม่ให้เกียรติคนที่ศึกษาอยู่หรือกำลังคบอยู่”