ในที่สุดรักแสนหวานที่ใครๆ ต่างอิจฉาของ “ขิง ทัศนพรรณ” และ “ตูน อาทิวราห์” แห่งวง "bodyslam" ก็มีอันต้องพังครืนลงหลังคบหากันนานร่วม 3 ปี ฝ่ายชายถึงกับเอ่ยปากเสียดายพร้อมอ้างทำงานหนัก(จน)ไม่มีเวลาดูแลหัวใจใคร ในขณะที่เจ้ากรมข่าวลือกระพือข่าวมือที่ 3 ที่มี "จิ๊บ ปกฉัตร" เป็นเหตุชนวน!?!
งานนี้หนุ่มตูนขอแก้ข่าวเรื่องกิ๊กกับนักแสดงหน้าใหม่ “จิ๊บ ปกฉัตร” ก่อน
“ก็มีบ้างครับความรัก ตามประสาวัยรุ่นอายุ 18 ทั่วไป(หัวเราะ) ถ้าถามผมถึงความรัก ณ วันนี้คือผมไม่สนใจ พูดอย่างนี้น่าจะรู้นะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องดำเนินต่อไป ตอนนี้ผมสนใจแต่เรื่องงาน เท่านี้ก็เอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว”
“กับน้องจิ๊บก็รู้จักกันเพราะว่าน้องเขาเป็นลูกของเพื่อนพ่อและน้องจิ๊บก็ชอบบอดี้สแลม ตามมาดูคอนเสิร์ต คนก็สังเกตว่าเราคุยกันก็เลยจับคู่ให้ ผมก็ว่าน้องเขาน่ารักดีนะ น้องเขายังเด็กนะแต่ว่าไม่มีอะไร มากกว่านี้จริงๆ ซึ่งผมไม่อยากพูดแต่ถ้าถามก็จะพูดแล้วจะได้เคลียร์ ผมเป็นผู้ชายไม่เป็นไรหรอก แต่น้องเขายังเรียนอยู่เลยน่ะครับ”
สรุปกับขิงเลิกกันแล้ว?
“ห่างกันมั้งครับ ไม่รู้สิ ก็แล้วแต่พี่ล่ะกันครับตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว ผมไม่น่าเชื่อว่าผมจะกล้าบอกนะครับ ก็เสียดายเหมือนกัน เสียดายช่วงเวลาที่คบกันมานานเกือบ 3 ปี ตอนนี้อย่างที่บอกผมเหนื่อยมากกับงาน ซึ่งจริงๆ ก็ไม่อยากเอามาเป็นข้ออ้างหรอกแต่เราก็ยังคุยครับ กินข้าวกันบ้าง”
ย้ำยังไม่อยากหาแฟนใหม่
“การที่จะมีแฟนเนี่ยไม่ใช่ผมเอาฝ่ายเดียว ไม่ใช่ผมรับฝ่ายเดียวแต่ว่าจะต้องให้เขาด้วย แต่ว่าผมไม่มีเวลาให้ใคร ชีวิตตอนนี้อยู่กับการนอน ขึ้นไปโชว์คอนเสิร์ตแล้วก็ลงมานอน อาชีพผมคือการนอน อย่างคุยโทรศัพท์กับแม่ได้แค่ 5 นาที แม่ยังน้อยใจเลยคือแม่อยากคุยกับเรานานๆ น่ะ”
ออกปากรู้สึกอึดอัดที่ตนเป็นนักร้องแต่ต้องมาตอบคำถามเรื่องส่วนตัว แต่พยายามเข้าใจกับการตกเป็นข่าว(กับสาวๆ)ที่ก่อนหน้านี้ สาว ”เจนิเฟอร์ โปลิตานนท์” ก็เคยมีข่าวกับตูนมาแล้ว
“ยอมรับตามตรงว่าผมอึดอัดนิดหน่อย ผมไม่ถนัดกับการที่ออกเทปแล้วมีคนมาสนใจนอกจากในเรื่องของเทป หรือคนมาสนใจในเรื่องชีวิตส่วนตัว ซึ่งมันหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ผมต้องเป็นฝ่ายปรับตัว แต่ก็ยอมรับว่าลำบากเหมือนกันในการปรับตัว แต่ก่อนผมยังไม่มีชื่อเสียงไปไหนมาไหนกับแฟนเปิดเผย โดยไม่มีใครมามอง เดี๋ยวนี้ผมทำอย่างนั้นไม่ได้อีกแล้วไปไหนก็ต้องระวัง”
“ผมก็ยอมรับกับการเป็นข่าว 80% อีก 20% ก็แบบไม่ชอบที่คนพูดอะไรที่มันไม่จริงรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง เวลาที่มีอะไรไม่จริงแล้วทุกคนเป็นหมด ทุกคนจะโกรธอยากจะแก้แต่เราทำไม่ได้ แต่ข่าวมันออกมาแล้วก็แบบอ้าวทำไงล่ะ ปกติผมไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว ผมไม่ชอบพูดมันเหมือนเป็นการแก้ตัวมากกว่า แต่สักพักอะไรที่มันไม่จริงก็หายไป อะไรที่มันจริงก็จะค่อยๆ โชว์ขึ้นมา”
“บางคนอาจบอกว่าถ้าพูดแล้วมันทำให้คนเข้าใจเรามากขึ้น ผมไม่คิดอย่างนั้นน่ะครับมันคือการต่อความยาวมากกว่า ผมคิดว่าตอนนี้คนที่อ่านข่าวบันเทิงเขาพอจะแยกแยะออกว่าเรื่องนี้มันไม่น่าจะจริง เรื่องนี้มันจริง ผมว่าให้เกียรติคนอ่านดีกว่า เขารู้อยู่แล้วว่าอันนี้จริงไม่จริง”
“ตอนนี้ผมรู้สึกว่าถ้าผมพูดอะไรที่มันจริงๆ แล้วผมก็อยากพูด ให้ฟังจากผมเลยไง จะได้ไม่ต้องไปเขียนอะไรที่มันไม่จริง เดี๋ยวผมซีเรียสไม่มีแรงร้องเพลง ที่ซีเรียสเพราะว่าบางทีคนก็จะคิดว่าพอเรามีชื่อเสียงก็จะไปยุ่งกับคนนั้นคนนี้
“แต่ผมโชคดีมากที่พี่ที่จีนี่ เขาเข้าใจเราว่าวัฏจักรของวงการหรือว่าการออกเทป ก็เป็นอย่างนี้ ตอนนี้ผมอาจมีคนมาสนใจพี่อาจมาสัมภาษณ์ผม ต่อไปผมไม่ดังพี่อาจไม่สัมภาษณ์ผม วันนี้ผมดีใจที่ทุกคนให้ความสนใจผม ก็ดีครับ”