ไม่จบง่ายๆ สำหรับข่าวของ "หมิง ชาลิสา บุญครองทรัพย์" ที่พลาดโพล่งออกไปว่าคบกับ "หมวดอ๋อ" ทั้งๆ ที่เขามีเจ้าของหัวใจเป็นถึงนางเอกสาว "แอฟ ทักษอร" อยู่แล้ว งานนี้ 2 สาวโต้กันแบบไม่ยอมหยุด ไม่มีใครยอมใคร จนหมิงต้องออกมาเคลียร์อีกครั้งด้วยอารมณ์ที่พุ่งสุดๆ พร้อมแก้ข่าวเป็นสาวขี้เมาอีกกระทง
"หมิงเป็นคนบอกก่อนทุกครั้งนะคะว่าหมิงเป็นคนคิดก่อนทำทุกครั้ง หมิงไม่เคยไม่คิดแล้วทำนะคะ หมิงเป็นคนคิด คิดแล้วคิดอีก คิดแล้วคิดอีกถึงจะทำทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องมีคนเข้ามา เรื่องงานและเรื่องเรียนนะคะ ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงแต่ส่วนตัวหมิงเป็นคนอย่างนี้ ก็แล้วแต่มุมมองคนค่ะ”
"เรื่องที่เขาให้สัมภาษณ์หมิงไม่ได้อ่านเลยค่ะซึ่งหมิงก็ไม่ได้รู้สึกอะไรค่ะ ทุกคนมีสิทธิพูดแล้วหมิงถือว่าหมิงพูดตรงที่สุดแล้ว วันนั้นที่หมิงพูดออกไปมันเป็นความจริง หมิงไม่มีอะไรจะปิดบังอีกแล้ว พี่ก็คงจะรู้ถ้าพี่ๆ และทุกคนลองอ่านอย่างเปิดใจก็จะรู้ว่าหมิงพูดความจริงทั้งหมดค่ะ"
หลายคนมองว่าหมิงไม่ยอมหยุดให้ข่าว?
"โห...หมิงเงียบมาตลอดเลยค่ะ หมิงไม่รู้นะคะว่าใครไม่เงียบกันแน่ จนไม่มีคนเงียบหมิงก็เลยต้องออกมาพูดน่ะค่ะ หมิงให้สัมภาษณ์ครั้งเดียวแล้วก็จบเพราะหมิงอยากบอกพี่ทุกๆ คนว่ามันเป็นยังไงแต่พอหมิงเงียบแล้วเนี่ยหลายๆ คนไม่เงียบ บางทีพี่ๆ ก็เขียนต่อไปเรื่อยๆ หมิงก็ไม่เข้าใจนะเพราะว่าหมิงก็ไม่ได้ทำอะไรแล้ว"
"พี่ๆ ก็เห็นว่าหมิงไปไหนมาไหนกับคุณแม่ตลอด หมิงจะเอาเวลาไหนไปยุ่งกับคนอื่นซึ่งหมิงอยากจะบอกได้เลยว่าหมิงไม่มีทางไปยุ่งของของใครหรอกค่ะ ถ้าหมิงรู้หมิงไม่ไปยุ่งแน่นอนอยู่แล้วค่ะ"
การที่แอฟให้สัมภาษณ์ว่าเป็นห่วงหมิงเหมือนน้องจึงเตือนให้คิดก่อนพูดนั้น หมิงบอกขอบคุณแอ๊ฟมากที่เอ็นดู
"ต้องขอบคุณค่ะ เพราะว่าถึงแม้หมิงจะเป็นเพื่อนสนิทกับน้องเขา(แอฟ) แต่คือเพื่อนน่ะมันไม่จำเป็นต้องไปสนิทกับพี่สาว แต่หมิงก็ต้องขอบคุณที่พี่เขาจะมาเอ็นดูเรา ก็ไม่มีปัญหา ก็ดีมีคนรักดีกว่ามีคนเกลียด"
"ถามว่าซีเรียสกับข่าวนี้มั้ยหมิงว่ามันจบไปแล้วค่ะ หมิงไม่สนใจแล้ว หมิงว่าตอนนี้มันต่อยอดทางด้านอื่นมากกว่า ไม่ได้ต่อยอดทางด้านหมิงเลยเพราะว่าหมิงจบแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับหมิงแล้ว แล้วแต่แล้วกันว่าใครจะไปพูดยังไงซึ่งหมิงก็ไมได้เจอเขา(แอฟ)เลยแต่ถ้าเจอเราก็ไม่มีอะไรจะคุยกันอยู่แล้วน่ะค่ะ"
ต่อจากนี้ไปหมิงออกตัวต้องดูผู้ชายให้มากขึ้นกว่าเดิม
"โอ้โห! เราก็ต้องพิจารณาคนขึ้นอีกเยอะค่ะ เราไปมองคนเพียงว่าฐานะดี การศึกษาดี การทำงานดีแล้วเขาจะดีมันไม่ใช่แล้วไงคนสมัยนี้ เราอาจจะเด็กมองคนมิติเดียว จริงๆ แล้วทุกคนมี 3 - 4 - 5 มิติไง เราไม่สามารถดูเขาได้ครบ"
"เมื่อก่อนหมิงมองคนในแง่บวกไง เช่นคนนี้เขาเป็นคนดีแล้วทำไม่ดีเราก็มองว่าเขาดีแหละ ไม่ชอบมองคนในแง่ลบมันเลยเป็นผลเสียกับตัวเรา ตอนนี้พอคนเข้ามาหมิงก็พูดก่อนเลยว่าเป็นเพื่อนกันนะ คงไม่ใช่ลองมาคบถ้าไม่ใช่ก็เลิก มันเสียเวลาน่ะ ถ้าเขาดีจริงจริงใจกับเราก็คงพัฒนาไปเป็นอย่างอื่นได้"
"พอเป็นอย่างนี้มันก็เหมือนปิดตัวเองเหมือนกันที่ทำให้รู้สึกว่าเราอยากเจอคนใน ณ เวลาที่พร้อมจริงๆ ณ เวลาที่เราพิจารณาคนเป็นจริงๆ แล้วก็ใช่จริงๆ ตอนนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับครอบครัวแล้วว่าถ้าคนนี้เขาใช่สำหรับหมิง หมิงก็ลองคบแต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่ใช่สำหรับครอบครัวค่ะ"
ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรกอีกเมื่อคนตาดีเห็นหมิงไปเมาหัวราน้ำที่ผับแห่งหนึ่งจนเกิดประเด็นร้อนขึ้นมาว่าเธอกลายเป็น "นางสาวไทยขี้เมา" ไปเสียแล้ว
"อ่านข่าวแล้วก็เสียใจ งงมากเพื่อนที่ไปด้วยถามว่าวันนั้นไปกินเหล้าเหรอ เขาสังสรรค์ค์แฮปปี้เบิร์ธเดย์กัน แล้วก็โอเคบนโต๊ะก็มีกินบ้าง ถามว่าทำไมพี่ไม่เขียนบ้างว่าหมิงเป็นคนยกเค้กมาให้เพื่อนเป่าแต่ไปหาว่าหมิงเมาหัวทิ่ม บอกได้เลยว่าวันนั้นไมได้แม้กระทั่งแตะน้ำ แก้วหมิงยังไม่มีเลยจะไปหัวทิ่มเป็นไปไม่ได้น่ะ"
"ส่วนเรื่องภาพที่คนจะมองไม่ดีก็กลัวค่ะ ไม่รู้ทำไมคนถึงไปเขียนแบบนั้นหมิงไปสังสรรค์ก็อยากให้มองว่าคนเราก็มีบ้าง เรามีเพื่อนหลายกลุ่ม ถ้าเราไม่ไปเราตัดขาดจากเพื่อนหลายๆ คนก็เป็นไปไมได้ อยากให้เข้าใจว่าไม่มีทางที่เราสะสมภาพมาขนาดนี้แล้ว หมิงคงไม่ไปทำลายภายในวันเดียว"
"ก็ระวังมากขึ้นเพื่อนก็ไม่ชวนแล้วเพราะเขาบอกว่าไม่สามารถปกป้องหมิงได้เหมือนเมื่อก่อนแล้วและบางทีเราก็เลี่ยงๆ ที่จะไปด้วย"