ทำเอาช็อกวงการสื่อเลยทีเดียวเมื่อ “อากู๋” ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ผู้บริหารบริษัทจีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด(มหาชน) เข้าไปซื้อหุ้นบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัท โพสต์ พับลิชชิ่ง จำกัด(มหาชน) ส่งผลให้หนังสือพิมพ์ 5 ฉบับไม่ว่าจะเป็น มติชน, ข่าวสด, ประชาชาติธุรกิจ, Bangkok Post, และ Post Today ตกอยู่ในมือของจีเอ็มเอ็มมีเดีย และทำให้อากู๋กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลด้านสื่อสารมวลชนขึ้นมาทันที
งานนี้นอกจากพนักงานทั้งสองบริษัทจะจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่แล้ว ทางด้านการเมืองฝ่ายค้านก็ถึงกับออกมาแถลงการณ์เนื่องจากเกรงว่า จะเป็นการแทรกแซงสื่อและหากวันใดที่นายไพบูลย์ตัดสินใจเล่นการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของสื่อโดยตรง ในขณะที่เจ้าตัวได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า...
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ GMMM แถลงกรณีซื้อหุ้น
“ผมเรียนด้านนิเทศศาสตร์ เอกหนังสือพิมพ์ ผมมีความคิดอยากจะทำหนังสือพิมพ์มานานแล้ว และผมเองก็เขียนหนังสือเป็นด้วยนะ ผมชอบหนังสือพิมพ์มานาน คิดตั้งแต่เรียนจบแล้วว่าอยากทำธุรกิจหนังสือพิมพ์ ซึ่งการที่จะตั้งขึ้นมาเองมันเป็นเรื่องที่ยาก เพราะคนที่ดีเค้าก็อยู่ในที่ๆ ดีอยู่แล้ว การตัดสินใจที่จะมาอยู่กับผมมาเริ่มใหม่มันตัดสินใจยาก ฉะนั้นเมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องมาผมจะไปหาเอง”
“ผมมองว่าหนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่มีรายได้มั่นคงที่สุดมากกว่าวิทยุและแม็กกาซีน ถ้าหนังสือพิมพ์มีชื่อเสียงประสบความสำเร็จเป็นที่นิยมแล้ว น้อยมากที่จะล้มลง ซึ่งนั่นก็จะทำให้ธุรกิจที่ผมทำหลากหลายจะมีขาหยั่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งมติชนและโพสต์เป็นหนังสือพิมพ์ที่มีคุณภาพ ประสบความเสร็จเป็นที่นิยมมาก”
“ซึ่งแกรมมี่จะเข้าไปซื้อหุ้นมติชนทั้งหมด 75 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือถ้ามีคนขายผมก็จะซื้อเองในนามของผม เพราะผมเชื่อมั่นสองโรงพิมพ์นี้จริงๆ ส่วนโพสต์นั้นผมยังไม่อยากพูดอะไรมาก คงต้องรอให้คุณสุทธิเกียรติ(สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์)กลับมาจากอเมริกาก่อน”
สำหรับในทิศทางการบริหารของทั้งสองบริษัทนั้น อากู๋ยืนยันว่าจะไม่เข้าไปข้องเกี่ยว.....
“ในแกรมมี่ไม่มีใครถนัดด้านหนังสือพิมพ์ มีแต่ผมคนเดียว เราคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในด้านการบริหาร แต่ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะเป็นประโยชน์และช่วยได้ก็ให้บอกมาผมจะเข้าไปช่วย ผมอายุขนาดนี้แล้วจะไปแบกอะไรทำไม อะไรที่มันดีอยู่แล้วผมจะไปทุบมันทำไม ผมไม่โง่นะ”
“ผมจะไม่เข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น เพราะเค้าทำมาดีแล้ว ผมไม่ได้เรียกร้องอะไร สิ่งที่ผมอยากจะทำก็คือ อยากจะเข้าไปต่อยอดในส่วนของรายละเอียด ในโลกปัจจุบันนี้มี 5 อย่างที่ได้รับความนิยมอย่างมากก็คือ ข่าว, เพลง, ภาพยนตร์, เกมส์ และ กีฬา ขณะนี้เรากำลังจะเติมเรื่องกีฬา ซึ่งการที่เข้าไปซื้อหุ้นสิ่งพิมพ์ครั้งนี้ จะทำให้เราเป็นผู้มีข่าวสารเยอะที่สุด”
“ส่วนนโยบายด้านข่าวของทั้งสองบริษัทผมจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง แม้ว่าผมจะเข้าไปถือหุ้นเยอะก็ตาม ถ้าผู้บริหารยุคเก่าให้ทำก็ทำ ถ้าไม่ให้ทำอยู่เฉยๆ ก็ดีอยู่แล้ว ผมจะไม่เข้าไปเกะกะในบอร์ดบริหาร”
แม้ว่าจะยืนยันว่าจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องทิศทางการบริหารงานของหนังสือพิมพ์ทั้ง 5 ฉบับ แต่การที่มีสื่ออยู่ในมือมากขนาดนี้ ส่งผลให้อากู๋กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลด้านสื่อสารมวลชนขึ้นมาทันที และมีผลต่อการชี้นำสังคม และถ้าวันใดที่อากู๋ตัดสินใจเล่นการเมือง สถานะของสื่อย่อมส่งผลกระทบอย่างแน่นอน
“ผมสาบานว่าผมจะไม่เล่นการเมือง ผมเคยบอกทุกคนบอกลูกหลานแล้วว่า ไม่ชอบการเมือง ถ้าชอบผมไปเล่นการเมืองนานแล้ว ผมจะใช้สิ่งที่มีอยู่ในทางที่เป็นประโยชน์กับสังคม ทุกวันนี้ผมก็ทำบุญทำกุศลเยอะ อะไรที่มันเป็นข้อเท็จจริงก็เป็นข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงเป็นธรรมชาติเป็นเรื่องของพระเจ้าไม่มีใครแก้ไขได้”
"อาจารย์คึกฤทธิ์เคยบอกไว้ว่า คนทำหนังสือพิมพ์ต้องมีเมตตาธรรม ทั้งรัฐบาลและประชาชน ผมกำลังจะทำหนังสือพิมพ์ให้รัฐบาลเขาอ่านบ้าง"
นอกจากจะเข้าไปซื้อหุ้นสื่อสิ่งพิมพ์จนเป็นข่าวครึกโครมแล้ว ล่าสุดมีข่าววงในแจ้งด้วยว่าผู้บริหารของแกรมมี่ฯ นั้นได้ตั้งเป้าจะเข้าไปเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์อีกด้วย ส่วนหวยจะไปออกที่ไหนก็ต้องลองติดตามกันต่อไป