เคยได้รับบทเด่นเป็นนางเอกมาตลอด แต่ไหงในละครเรื่องล่าสุด “ฟ้ากระจ่างดาว” ทางช่อง 7 “เอมี่ มรกต กิตติสาระ” กลับถูกลดขั้นให้เหลือแค่ตัวรองนางเอกรุ่นพี่ “นุ่น วรนุช” ซะแล้ว แต่งานนี้เจ้าตัวบอกไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแต่อย่างใด ทั้งยังยิ้มรับโดยดุษฎีแถมยังบอกเป็นเรื่องดีจะได้ฝึกฝนและลองหลายๆบทบาท
“การมารับบทรองพี่นุ่นมี่ไม่ได้รู้สึกอะไร แล้วก็ไม่ได้คิดว่าคนอื่นเขาจะทำให้เราคิดแบบนั้นด้วย ด้วยความที่เป็นกองฯเรื่องหลงทางรักด้วย ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ความสัมพันธ์ระหว่างผู้กำกับ ผู้ช่วยผู้กำกับ แม้กระทั่งทีมเด็กไฟคือทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม แล้วทุกคนก็ดูแลเราเหมือนเราเป็นนางเอกคนนึงเหมือนกัน”
“ทุกบทที่เราได้รับเป็นบทที่ท้าทาย และไม่ได้ตัดสินว่าเราเก่งหรือไม่เก่งตรงไหน คนจะชื่นชอบเราเค้าไม่ได้มองว่าเราเป็นนางเอกอย่างเดียว มันอยู่ที่ว่าความสามารถเราพร้อมมั้ยที่จะเล่นบทนี้ แล้วตัวเราก็พยายามที่จะเล่นทุกบทให้มันแตกต่างออกไป ให้มันดีที่สุด ไม่อย่างนั้นมันจะไม่สมบทบาท ถ้าไม่สมบทบาทคนดูก็จะดูขัดใจ มี่ก็เลยไม่รู้สึกว่าบทรองหรืออะไร คือใครให้ทำอะไรก็ทำ”
“เราเป็นนักแสดงใหม่ก็พร้อมที่จะรับทุกบทบาทอยู่แล้ว ผู้ใหญ่ก็คงเห็นว่าเหมาะสมเพียงพอแล้วที่จะให้มี่เล่นเป็นตัวนี้ ซึ่งมี่ก็โอ.เค.เราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเลือกดูบทโน้นดูบทนี้เพราะไม่ได้เก่งเพียงพอ มี่เองก็อยากจะลองทุกบท”
ไม่ยึดติดกับคำว่า"นางเอก" แค่เป็น"ตัวเอก"เป็นใช้ได้แล้ว
“ไม่รู้สึกกลัวว่าจะกลับมาเป็นนางเอกไม่ได้ อย่างที่บอกมันอยู่ที่ฝีมือของเรา และถ้าเราเล่นเก่งเล่นดี แต่ถ้าเราเล่นไม่ดีก็ต้องพัฒนาตัวเอง ก็ปรับปรุงตัวเองให้มากขึ้น มี่ไม่เคยยึดติดกับคำว่านางเอกเลย นางเอกในความคิดของมี่คือมีพระเอกเป็นคู่รักในเรื่อง ซึ่งจริงๆแล้วการเป็นตัวเอกไม่จำเป็นจะต้องเล่นเป็นพระเอก-นางเอก ตัวเอกบทอื่นก็ได้ อาจจะดีกว่าเด่นกว่าพระเอก-นางเอกด้วยซ้ำ มี่คิดอย่างนี้นะ”
“ถ้าอยากที่จะปฏิเสธหรืออยากที่จะคุยก็มีโอกาส คือทุกเรื่องถ้าเราไม่พอใจ เราอึดอัดตรงไหนเราคุยได้ แต่ด้วยความเป็นมี่เนี่ย…ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ไง ถ้าเกิดปฏิเสธไปเกิดเป็นคาแร็คเตอร์ที่อยากเล่นมาก แต่เราไม่อ่านบทก่อน มันจะทำให้พลาดไป”
เตรียมใจรับฟังหากโดนเปรียบเทียบฝีมือการแสดงกับรุ่นพี่“นุ่น วรนุช” ...แต่กำลังใจยังดีเพราะมั่นใจว่าไม่ได้ด้อยกว่านุ่นตรงไหน
“ไม่กลัวการเปรียบเทียบเพราะเราไม่สามารถไปเปรียบเทียบกับพี่เขาได้ ส่วนคนอื่นจะคิดถึงยังไงเราก็รับฟังค่ะ แต่ไม่อยากให้คนคิดว่าเปรียบเทียบ สำหรับมี่ไม่ได้คิดว่าการที่มาเล่นกับพี่นุ่นเราจะด้อยกว่าเขาตรงไหน แค่มีประสบการณ์น้อยกว่าและยังไม่เก่งเท่าพี่นุ่น พอได้มาเล่นด้วยกันพี่เขาก็ดีตรงที่คอยแนะนำคอยสอน บอกว่าในฐานะที่พี่ผ่านประสบการณ์มาเยอะมันต้องเล่นอย่างนี้ เราก็ขอบคุณพี่นุ่นเพราะบางครั้งเราก็คิดไม่ถึงว่าต้องเล่นแบบนี้”
“ถ้าเป็นเรื่องความกดดัน ยอมรับตอนเข้าฉากช่วงแรกๆจะรู้สึกเกร็งมาก ตรงที่ว่าเราจะทำตัวยังไง เราไม่ใช่เป็นนักแสดงที่เก่ง ตอนที่เล่นกับพี่ป๋อก็รู้สึกประมาณเดียวกัน ตรงที่พี่ป๋อเป็นซูเปอร์สตาร์เป็นพระเอก พอไปเล่นกับพี่นุ่นก็มีความรู้สึกอย่างนั้น แต่หลังๆสนิทกันก็ไม่มีปัญหาอะไร”
ยอมรับโดนบรรดาแฟนคลับต่อต้านบ้าง หลังต้องมารับบทตัวรอง
“ก็มีบ้าง มี่ทำไมอย่างโน้น ทำไมอย่างนี้ แฟนคลับมี่จะเป็นเด็กมัธยมปลายก็จะเป็นกำลังใจให้เราอยู่เสมอ ว่าพี่อย่าท้อนะเล่นดีมาก อย่างละครเรื่องสิงห์มอเตอร์ไซค์ฯ วันแรกแฟนคลับก็อีเมล์มาบางคนโทรมาบอกว่าสนุกมาก หนูว่าพี่ติ๊งต๊องไปค่ะอะไรแบบนี้ แต่ก็รู้สึกดี”
“แฟนคลับมี่กล้าที่จะติ ด้วยความที่เราเป็นกันเองกับเขา ไม่อยากให้เขารู้สึกเหมือนเราเป็นดาว แล้วก็สูงเกินไปอยากให้เขารู้สึกว่าเป็นเพื่อน ที่เขาสามรถเข้ามาอยู่ใกล้ชิดได้ มันเป็นความรู้สึกที่ดีกว่าค่ะ เพราะการที่เขาได้ใกล้ชิดตัวตนที่แท้จริงของเรา ซึ่งเขาก็บอกว่าเขาชอบที่มี่เป็นคนที่ค่อนข้างติดดินมาก”