โดนกระแสสังคมเล่นงานซะอ่วมไปเลย สำหรับรายการเรียลิตี้โชว์ "บิ๊กบราเธอร์" หลังมีการนำภาพคลอเคลียของหนุ่ม-สาวที่เข้าแข่งขันออกมาโชว์ตามอินเทอร์เน็ตกระทั่งไปปรากฏเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ ก่อนที่บรรดาหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางสังคมและครอบครัวจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ และแสดงอาการคัดค้านถึงขนาดจะขอให้มีการยุติการออกอากาศรายการดังกล่าวนั้น...
ในช่วงเย็นที่ผ่านมาของวานนี้ (18 พ.ค.2548) ทางผู้บริหารของบริษัทกันตนาฯ ในฐานะของผู้ผลิตโดย "ศศิธร ฉันท์เศรษฐ" ผู้จัดการบริหารบริษัทฯ จึงได้จัดให้มีการแถลงข่าวขึ้นเพื่อเป็นการชี้แจงถึงเรื่องต่างๆ โดยบอกว่ารู้สึกเสียใจอยู่เหมือนกันกับการที่มีบางหน่วยงานของรัฐฯ ต้องการจะให้ยุติรายการนี้ลงไป แต่ถ้ามีมติออกมาจริงก็คงจะต้องทำตาม
"เจตนาของเราจริงๆ ก็คือการทำรายการให้กับสังคม เป็นละครบวกวาไรตี้ บวกเกมโชว์ และให้ความบันเทิงรูปแบบใหม่ เราหวังที่จะให้เป็นรายการที่แปลกใหม่ให้เห็นการใช้ชีวิตการอยู่รอดในสังคมว่ามันเป็นยังไง รวมทั้งให้เห็นถึงพฤติกรรมของคนที่มีทั้งด้านมืด และด้านสว่าง"
"ก็เสียใจนะ ในฐานะคนทำรายการ วันนี้จริงๆ ก็อยากให้เห็นภาพรายการที่ชัดเจน แต่ถ้ามีคำสั่งก็จะยุติ รายการนี้เป็นการทดลองให้คนสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ เนื่องจากเป็นเรียลิตี้ภาพมันก็จะมีความรัก การทะเลาะ เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ และความประทับใจ มันคือความจริงของชีวิตมนุษย์ ก็ต้องมีความสุข เศร้า ใน 1 วันของชีวิตต้องเจออะไรบ้าง"
ผู้บริหารกันตนาบอกต่อไปว่า สำหรับกระแสของการประพฤติตัวของผู้เข้าแข่งขันที่ออกไปในทำนองชู้สาวนั้นต้องถือว่าเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องของหัวใจที่จะเกิดขึ้นกับใครๆ ก็ได้ก่อนจะยืนยันไม่เคยคิดที่จะหยิบเอาเรื่องดังกล่าวมาสร้างกระแสแต่อย่างไร
"ตามรูปแบบรายการมันเป็นชีวิตของมนุษย์ ถ้ามีภาพอะไรไม่เหมาะสม เราก็มีการเตือนเขาตั้งแต่ในสัปดาห์แรก ทั้งการนั่ง เดิน การพูด จนเขารู้สึกเกร็ง คือโตโต้คงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ถ้ากันตนาผิดก็ตัดภาพตรงนี้ออกไป แต่เราเห็นภาพนี้เป็นความจริง เขายืนยันว่าไม่มีอะไรเกินเลยไปจากภาพแค่อยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน"
"คือเขารักผู้หญิงคนหนึ่ง และเขาก็ไม่ได้ทำอะไร ซึ่งตอนนี้โตโต้ก็ออกมาแล้วคงไม่มีตรงนั้นอีก ซึ่งถ้ามันไม่เหมาะสมทางกันตนาและโตโต้ก็ต้องขอโทษ ถามว่าเราไปให้น้ำหนักกับตรงนั้นหรือเปล่า ไม่นะ กันตนาไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้เพื่อเป็นจุดขาย เรายืนยันว่าเราโฟกัสทุกด้าน"
ในส่วนของหนุ่ม "โตโต้ ภูวดล จิณศิริ" ซึ่งเป็นผู้แข่งขันที่มีส่วนทำให้เกิดเรื่องขึ้นนั้นบอกว่า ตนขอยอมรับผิดหากสิ่งที่ทำสังคมมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม พร้อมกับบอกว่าสำหรับเขาและเพื่อนๆ ที่เข้าร่วมการแข่งขันนั้นจะไม่ได้คิดเลยว่ามีกล้องคอยถ่ายอยู่
"ทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริง ไม่ได้เขียนสคริปต์ มันก็เป็นวิถีชีวิตมนุษย์แบบหนึ่ง สิ่งใดที่ผมทำแล้วมันผิดต่อสังคมผมก็ขอโทษ เพราะบางที่เราก็คิดไม่ถึงกับผลกระทบจากพฤติกรรมตรงนั้น ทุกคนที่เข้ามาไม่ได้คิดเลยว่ามีกล้องอยู่"