โดน “ลูกเกด เมทินี” เปิดฉากทวงเงินค่าตัวเล่นหนัง “จังหวัดที่ 77” จนเป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์หลายฉบับ แต่ “พีท ทองเจือ” ก็ไม่ออกมาโต้ตอบว่าความจริงเป็นอย่างไร กระทั่งบันเทิงผู้จัดการมีโอกาสไปเจอพีทในงานเปิดตัวภาพยนตร์ “BOOKEYMAN” ก็เลยถามไถ่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
งานนี้เจ้าตัวบอกว่า “แค่เรื่องจิ๊บจ๊อย”
“จริงๆ การทำงานตรงนี้เรามีบริษัทที่ดูแลอยู่แล้ว ผมเป็นคนทำงานเบื้องหน้าพอมีอะไรเกิดขึ้นมันเลยดูชัดเจนที่สุด เวลาที่เค้าจะติดต่ออะไรเค้าก็จะมาตามที่ผม สิ่งที่เค้าพูดถึงมันเป็นปัญหาแค่ 1 เปอร์เซ็นต์จาก 100 ผมมีภาระที่จะต้องดูแลอะไรอีกมากมายหลายส่วน ปัญหานี้เป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ ตอนนี้ก็เคลียร์กันแล้วทุกอย่างจบลงด้วยดี”
“มันยังมีปัญหาอีกเยอะที่ไม่มีใครรู้ ปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายบ้างล่ะ มันมีเหตุเยอะในการทำงาน แต่มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ผมจะต้องไปพูดในทุกคนฟัง ผมเป็นคนไม่ค่อยพูด มันก็เลยเหมือนผมโดนคนเดียว ตอนนั้นผมเป็นคนถือเงินก็มีคนเข้ามาหาเยอะ แต่พอเราหมดตัวหมดเงินก็เริ่มให้ร้ายกัน เริ่มมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น แต่ไม่เป็นไรผมถูกฝึกมาดีเรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย”
แม้จะยืนยันว่าเหตุการณ์จบลงไปด้วยดี แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็กระทบกับภาพลักษณ์ของพระเอกหนุ่มไม่น้อย หลังจากที่เคยมีเรื่องกับนักข่าวมาแล้วรอบหนึ่ง
“มันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เมื่อก่อนผมก็มีข่าวแบบนี้อยู่แล้ว ต่อไปผมคงจะทำงานเบื้องหน้าน้อยลงอยู่แล้วเพราะผมเองก็แสดงมาเยอะ ก็ขอขอบคุณผู้จัดที่ทุกท่านที่ส่งบทมาให้ดู กับการทำงานตรงนี้ผมคงจะทำกรณีที่ชอบบทหรือว่าสนิทกันกับผู้จัด”
“ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะหันไปทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำมากกว่า ผมมีโอกาสได้ปูพื้นฐานงานเบื้องหลังมาบ้างแล้ว ถ้ากลับไปเล่นละครอีก งานตรงนี้ก็คงต้องหยุดไปอีก อีกอย่างงานแสดงเป็นงานที่ภาษีแพงมาก จ่ายภาษีครั้งหนึ่งเนี่ยสามารถซื้อรถได้ 1 คันเลย”
กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพีทบอกว่าไม่ท้อ....
“ไม้ท้อเพราะผมเป็นคนที่อยู่ในวงการตั้งแต่เด็ก คือการทำงานในวงการทำให้ผมอดทนกับทุกๆ ด้าน ผมต้องเรียนหนังสือแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องท่องบทละคร พ่อแม่บางทีก็ไม่ได้ว่างไปรับไปส่ง บางครั้งผมต้องหายไปกองถ่ายเป็นเดือน ผมได้ความเข้มแข็งมาจากตรงนี้”
ชัดเจนว่าต่อไปนี้คงพีทในบทบาทของนักแสดงน้อย เพราะตอนนี้เจ้าตัวหันไปจับงานโปรดักชั่นมากกว่า
“ช่วงนี้ส่วนมากผมก็จะทำงานเบื้องหลังและทำงานโปรดักชั่นเซอร์วิสให้กับหนังต่างประเทศ ที่ได้งานตรงนี้ก็เป็นเพราะเค้าเห็นงานหนังที่ผมเคยทำเอาไว้ และเวลามีเทศกาลหนังต่างประเทศผมก็จะไปร่วมงานด้วย ตอนไปก็ไปแลกเปลี่ยนนามบัตรกับผู้ผลิตต่างประเทศ ซึ่งเราเป็นเหมือนคนทำหนังที่อายุน้อยมากเค้าก็เลยค่อนข้างให้ความสนใจ”
ล่าสุดพีทก็รับทำโปรดักชั่นหนังฟอร์มยักษ์ของเกาหลี
“ที่พึ่งเสร็จไปก็เป็นหนังเกาหลีชื่อเรื่องไต้ฝุ่น ซึ่งเป็นหนังที่ใช้เงินในการลงทุนสูงมากๆ ประมาณ 400 ล้านบาท ผมจะเข้าไปดูแลด้านโปรดักชั่นเซอร์วิส คือพวกเค้าจะมากันตัวเปล่า เราจะเตรียมงานทุกอย่างไว้ มีการส่งทีมงานภาคสนามเข้าไปช่วยด้วย เราจะดูแลตั้งแต่เค้ามาถึงจนกระทั่งพาส่งขึ้นเครื่องกลับไปเลย”
“ล่าสุดผมก็รับหนังเกี่ยวกับการแข่งรถ มีเจย์ โชว์เป็นพระเอก ผมจะเข้าไปช่วยเค้าในงานด้านมีเดียส์ และทำประชาสัมพันธ์ นอกจากนั้นแล้วก็ยังรับทำอีเวนท์รถ เตรียมรถแข่งสำหรับปีนี้ เริ่มแข่งรถหลายรายการ ส่วนงานหลักจะอยู่กับน้องไซย่าช่วยเจ็งเลี้ยงน้องครับ”
“ส่วนหนังของผมเองก็มีแพลนจะทำเรื่องต่อไปเหมือนกัน งบประมาณก็ผ่านแล้ว เรื่องก็มีแล้ว แต่ต้องรออีกซักพักคงต้องรอให้น้องไซย่าโตก่อน แต่รับรองว่าเป็นโปรเจ็กท์ใหญ่แน่ ทำทั้งที่ต้องทำให้ใหญ่”
เรื่องต่อไปก็ขออย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกนะจ๊ะ...