xs
xsm
sm
md
lg

ถูกติงปลุกเซ็กซ์ "ช่อง 9" เลื่อน "พรหมลิขิต" "บอย" ยันไม่ยั่วยุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ออกอากาศไปได้แค่ 3 สัปดาห์ สำหรับรายการเรียลลิตี้โชว์แนวใหม่ "พรหมลิขิต บทที่1" ของ "บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ" บอสใหญ่แห่ง "ซีเนรีโอ" ก็โดนสื่อ นักวิชาการชื่อดัง รวมไปถึงตัวแทนเครือข่ายพ่อแม่และเด็กสวดยับ หาว่าเนื้อหารายการกระตุ้นเรื่องเซ็กซ์ มอมเมาเยาวชน

อีกทั้งเวลาที่ทางรายการได้มานั้นเป็นช่วงเวลาเย็นก่อนข่าว (18.00น. - 19.00 น.) ซึ่งประจวบเหมาะกับที่ทางรัฐบาลเข้ามาควบคุมเนื่องจากเป็นเวลาที่เด็กและเยาวชนดูเยอะที่สุดเกรงว่าจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต แค่นั้นยังไม่พอยังมีข้อครหาว่า รายการ "พรหมลิขิต บทที่1" มีรูปแบบ เนื้อหาคล้ายกับไปก๊อปปี้รายการ "The Bachelor" รายการโทรทัศน์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

เพื่อเป็นการเคลียร์ปัญหาข้อข้องใจทั้งหมด เมื่อบ่ายวันที่ 11 ก.พ. ที่บริษัทซีเนรีโอ ชั้น14 ตึก "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" จึงได้มีการจัดงานแถลงข่าวขึ้น โดยบอสใหญ่ "บอย- ถกลเกียรติ","สุธาสินี บุศราพันธ์" สาวเก่งหนึ่งในโปรดิวเซอร์ รวมไปถึงผู้ร่วมรายการ "ก้อง- พรหมพล สุวรรณประทีป" ร่วมกันชี้แจงทุกข้อสงสัยที่เกิดขึ้น

ประเด็นแรกที่ทางรายการ "พรหมลิขิต บทที่1" ชี้แจงก็คือเรื่องที่โดนหนังสือพิมพ์ข่าวสดและโพสต์ทูเดย์จวกว่า เป็นรายการสื่อลามกสนับสนุนมอมเมาเยวชน มั่วเซ็กซ์ เป็นเหตุให้ต้องหลุดออกจากผัง(โมเดิร์นไนน์ทีวี) เรื่องไม่จริงดังว่าเจ้าตัวเลยต้องออกโรงปกป้อง...

"มีการต่อต้าน มีผู้สื่อข่าวสอบถามเข้ามาเยอะพอสมควรว่ารู้สึกยังไงกับข้อครหา ก็เลยเชิญสื่อมาแถลงข่าวย่อยๆ ก่อนก็แล้วกัน จากข้อมูลรู้สึกว่ามีการบิดเบือนมากพอควร ในข้อครหาก็แล้วแต่ผมขอเคลียร์ในแต่ละจุดไป จากหนังสือพิมพ์หรือตามสื่อต่างๆ"

"หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ที่พาดหัวประมาณว่า ต้านรายการทีวีหาผัว ขอบอกว่าไม่ได้หาผัวและเมียด้วยจริงๆเป็นรายการชีวิตของคนอยากเริ่มต้นรีเลชั่นชิป(ความสัมพันธ์) ไม่ใช่หาผัวเมียถ้าให้พูดหยาบๆ จะพูดว่าหาแฟน แต่จะเป็นแฟนหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้ ถ้าคุณอยากสานต่อหรือเริ่มต้นกันก็แล้วแต่ ซึ่งผู้หญิงจะสานต่อด้วยหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างข่าวสดก็ต้อง ขอบคุณมากที่บอกว่าเราเป็นรายการดัง "

ขณะเดียวกัน ทีมงานของ "พรหมลิขิต บทที่1" ก็ฉุนจัด ที่อุตส่าห์คิดรูปแบบรายการมานาน แต่โดนข้อครหาว่าไปก๊อปปี้รายการดังจากเมืองมะกัน "The Bachelor" เลยเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้

"ก่อนอื่นขอยืนยันและต่อต้านเรื่องของรูปแบบที่ชัดเจนมากๆ ว่าคล้ายรายการของสหรัฐอเมริกา ซึ่งผมว่าเป็นรายการ The Bachelor ที่ฉายในยูบีซี อันนี้ไม่จริง ซึ่งของเขาเป็นดาราผู้ชายที่ร่ำรวยมากๆ เน้นรูปหล่อ พ่อรวยมีการงานดีจริงๆ เป็นชายในฝันของสาวๆ"

"The Bachelor คัดผู้หญิงมา 20 คนให้เขาเลือก แต่ละตอนของเขาผู้หญิงจะหายไปทีละคน แต่ของผมมีผู้ชาย 1 คน ที่ยังไม่มีแฟนแล้วอยากมีแฟน แล้วทางรายการจัดหามาให้ 3 คนว่าคนไหนจะตรงใจเขามากที่สุด ซึ่งไม่ใช่การนัดบอดให้มาเจอกัน สุดท้าย 4 ตอนจบเขาจะเลือกเองแต่ผู้หญิงจะสานต่อหรือไม่นั้น เทปยังไม่ออกอากาศ เลยไม่สามารถบอกได้"

พร้อมกันนั้นก็ย้ำว่า ได้ใช้ความรู้และมันสมองทำรายการมานานร่วมสิบปี มีจรรยาบรรณในวิชาชีพมากพอ อีกทั้งมีคนดังในวงการมาร่วมวิเคราะห์ผลดี ผลเสียในรายการ แต่จะให้ถูกใจคนทั้งโลกนั้นคงเป็นไปไม่ได้

"การนัดเจอกันของผู้หญิงกับผู้ชายเป็นยังไงในรายการ มีคุณเหมี่ยว ปวันรัตน์, แมน ศุภกิจ, เล็ก ศรัทธาทิพย์ และภูริมานั่งวิเคราะห์กัน รายการนี้นำเสนอและวิเคราะห์ให้เห็นถึงการเข้าสังคมกับเพศตรงข้ามคิดว่าในเมืองไทยยังปิดเรื่องนี้อยู่เยอะ ถามว่าเรื่องนี้เป็นชีวิตจริงมั้ยซึ่งจริงๆ แล้วมีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านี้อีก "

"ผมรู้สึกต่อต้านต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ผมทำทีวีมาสิบกว่าปี จะมีข้อครหาของการทำทีวีว่าไม่มีจรรยาบรรณ ผมขอค้านว่าผมมีจรรยาบรรณ และผมมีความรับผิดชอบจากในสายวิชาชีพที่ผมจบปริญญาโทด้านบรอดคาสติ้งมา แต่ว่าทุกอย่างที่ทำออกมาแล้วจะถูกใจทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ ทุกสิ่งมีข้อดีข้อเสียในโลกนี้ไม่มีอะไรเพอร์เฟ็ค (สมบูรณ์) หรอกครับ"

ทีมงาน "พรหมลิขิต บทที่1" มั่นใจผู้ร่วมรายการทุกคนซึ่งล้วนบรรลุนิติภาวะ ว่าสามารถแยกแยะถูกผิด มั่วเซ็กซ์ ร่วมเพศคิดได้ อีกทั้งยังเป็นสื่อแนวสร้างสรรค์วอนสังคมไทยอย่าปิดหูปิดตาเยาวชน

"ถามหน่อยว่ามันจะไปยั่วยุเรื่องเซ็กซ์ตรงไหน ถามหน่อยว่าผู้ชายนัดเจอผู้หญิงแล้วมีการนัดเดทกันมันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ เขาไม่มีแฟนก็หาว่าเขาเป็นตุ๊ด แต่พอทำรายการแบบนี้ก็หาว่าสื่อว่าเซ็กซ์จะเอายังไงกันแน่ ทำไม่สื่อจะต้องปิดกั้น ปิดทุกอย่างว่าสังคมไทยเป็นยังไง การปิดกั้นมันเป็นการเก็บกดมากกว่า"

"คุณจะปิดหูปิดตากันทำไม ที่บอกว่ามอมเมาเยาวชน ทุกคนที่มาออกรายการนี้บรรลุนิติภาวะแล้วทุกคนมีอายุเกิน 20 ปี แล้วบอกว่าเยาวชนดูถามหน่อยเยาวชนถูกยั่วยุอย่างไร จากการวิจารณ์ 50 เปอร์เซ็นต์ของที่ดูรายการแล้วก็เอาไปโยงกับรายการThe Bachelor ผมคิดว่าเป็นความไม่แฟร์ของสื่อ เมื่อเช้าก็ได้ดูทีวีแล้วในสื่อทีวีก็มีการพูดถึง แต่ตัวที่พูดก็ไม่ได้ดูรายการไงคือกระแสมายังไงก็ประโคมกันเข้าไป ผมถือว่าไม่แฟร์"

"ผมจะบอกว่ารายการนี้ได้ประโยชน์ที่ทำให้กล้าเข้าสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะกับเพศตรงข้ามผมคิดว่าถ้าถามผมตอนที่เป็นวัยรุ่นอยู่ว่าผมได้อะไรจากรายการนี้ ผมได้รู้ถึงวิธีการจีบสาวนะ มันเป็นการวิเคราะห์เรื่องเล็กๆน้อยๆองการทำความรู้จักกับเพศตรงข้าม ตรงนี้ต่างหากที่รายการนำเสนอมันเป็นรายการที่มีประโยชน์ครับ ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องของครอบครัวก็ดีครับพ่อแม่จะได้ดูกับลูกๆ ด้วย"

"ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมีจรรยาบรรณ เพราะว่าที่จะออกมาเป็นรายการนี้ได้ มันมีฟอร์แมทเพราะเราก็มีความเป็นห่วง มีจรรยาบรรณในการเสนอสื่ออยู่แล้วว่าทำอะไรออกไปแล้วจะไม่น่าเกลียด"

"สุธาสินี บุศราพันธ์" หนึ่งในโปรดิวเซอร์บอกว่า จุดยืนที่รายการต้องการนำเสนอไปถึงเยาวชน คือช่วยเสริมการแลกเปลี่ยนทัศนคติต่อกัน

"เราเองก็เป็นผู้หญิงที่โตมากับสังคมไทย ก็คิดอยู่เสมอว่ารายการมันจะรุนแรงเกินไปมั้ยหรือว่าจะทำอย่างไรให้ผู้หญิงดูไม่น่าเกลียด เราไม่ได้สื่อไปในทางเรื่องเซ็กซ์อยู่แล้ว เราสื่อในทางที่ให้รู้ว่าเวลาเขานัดเดทกันทำยังไง ไปกินข้าวกันยังไง พูดจาแลกเปลี่ยนทัศนคติกันยังไง ไม่ได้คิดว่าสองคนนี้เขาต้องเป็นแฟนกันแล้วต้องไปมีอะไรกัน เพราะเรื่องนี้ทางเราคำนึงอยู่แล้ว"

"คุยกับก้องตลอด ว่าเขาจะทำอะไรบ้างทุกอย่างก็เลยออกมาเป็นธรรมชาติ เราอาจจะไปจับเขาขังอยู่ด้วยกัน 2 คน แล้วเขาเกิดมีอะไรกันก็ได้แต่เราไม่ทำ คนเราจะเป็นแฟนก็ต้องมีการพูดคุยกัน อย่างน้องผู้หญิง 3 คนไม่มีเบอร์ของก้อง และก้องก็ไม่มีเบอร์น้อง ทุกคนสื่อสารกันต้องผ่านรายการ พวกเขาไม่ได้มีการแอบไปทำอะไรลับหลัง"

ขณะที่ บอสใหญ่แห่ง "ซีเนรีโอ" ยังบอกอีกด้วยว่า อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจรอชมตอนสุดท้าย ที่แอบซ่อนสาระดีๆ ไว้ซะก่อน แล้วค่อยออกมาด่ากัน

"รายการนี้อาจจะเป็นที่น่าตกใจ เป็นการพูดในสิ่งที่จะพูดตรงๆในสื่อมากกว่า เป็นเรื่องปกติในสังคมหรือทั่วโลกที่ว่าคุณต้องมีคู่ไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่มีแฟนก็หาว่าเป็นตุ๊ด ตรงนี้เป็นการเปิดรับให้เห็นว่าสังคมนี้มันเป็นยังไงไม่งั้นจะเป็นความเก็บกดไป อย่างข่าวฆ่าข่มขื่นทุกวันนี้มีมั้ย มี เพราะว่าเก็บกดถูกปิดกั้น"

"ในขณะที่ผู้หญิงในรายการมี 3 แบบ 3 สไตล์เป็นผู้หญิงจริงๆ ในสังคม ไม่ได้เป็นตัวละครที่เราเซ็ตขึ้นมาก็มาดูซิว่า 3 แบบนี้ผู้ชายชอบแบบไหน ผลท้ายสุดแล้วผู้ชายบางคนอาจจะชอบแบบนั้นหรือแบบนี้ก็แล้วแต่ ท้ายรายการก็จะถามทางบ้านว่าเป็นคุณจะเลือกใคร หรือว่าเชียร์ใครหรือคิดกันว่าคุณก้องจะเลือกใคร แล้วก็เอามาวิเคราะห์กันว่าทำไม ตรงนี้เป็นสาระที่ดีๆของรายการมากๆ และก็เป็นการให้ข้อมูลในเชิงของความคิดเห็นที่เป็นปกติของสังคมนี้"

ฟังทางผู้ผลิตรายการพูดกันไปแล้ว ลองมาฟังความคิดเห็นของผู้ร่วมรายการตัวหลักอย่าง "ก้อง - พรหมพล สุวรรณประทีป" ที่พูดถึงสาเหตุในการสมัครเข้ามาเล่นในรายการนี้ว่า....

"ตั้งแต่ที่มาเข้าร่วมรายการนี้ ผมก็เป็นห่วงว่าภาพพจน์เสียหรือเปล่า พอได้คุยกับทีมงานทุกคนทราบว่าเขามีความรับผิดชอบมีจรรยาบรรณอยู่แล้ว ผมเชื่อในเครดิตก็ทำให้คิดได้ว่า การร่วมงานอย่างนี้ไม่น่าจะมีอะไรที่เสียหาย เพราะปกติผมเป็นคนขี้อาย เกรงว่าทำอะไรแย่ๆไปกลัวภาพพจน์ออกมาไม่ดี แต่ที่นี่มีบุคลากรที่เก่งๆ และมีความรับผิดชอบกันทั้งนั้นผมก็ขอให้ทุกคนกลับไปดูรายการอีกทีนึงอาจได้เห็นอะไรดีครับ"

เกิดกระแสข่าวออกมาแบบนี้ ทางช่อง 9 เองน่าจะมีการเคลื่อนไหวอะไรออกมาบ้างหรือไม่ ทางรายการ "พรหมลิขิต บทที่1" บอกว่ายังไม่ได้คุยเท่าไหร่

"ยังไม่ได้คุยอะไรเท่าไหร่ ยังไม่ทราบอะไรทั้งสิ้น ทุกๆ อย่างที่เราทำในโทรทัศน์นี้ ถ้ามีใครมาพูดว่าเรา แล้วเราเปลี่ยนแปลงไปตามที่เขาว่ากัน ประเทศเราคงล่มสลาย กับคนที่มีวิชาชีพที่จะทำอะไรแล้วมาเปลี่ยนเขาไปตามลมนั้น ประเทศคงไม่เจริญ ถ้าให้ผมลอยไปตามลมทิศไหนก็แล้วแต่ ประเทศคงไม่เจริญ คนเราความเชื่อบางอย่างในตัวเอง ผมก็เป็นเหมือนคุณๆ ทุกคน"

"ท้ายสุดสื่อมีหน้าที่เสนอความจริง สื่อไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินอะไรใครนี่คือสิ่งที่เรานำเสนอ เขาอาจจะชอบแบบนี้แล้วทำแบบนี้แล้วยังไง เขาไม่ได้ไปฆ่าใคร"

นอกจากสื่อต่างๆ จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงรูปแบบ และเนื้อหาที่ค่อนข้างจะสื่อออกไปทางเพศมากแล้ว นักวิชาการชื่อดังหลายท่านยังตั้งข้อหาการชี้นำและสื่อมอมเมาเยาวชนอีกกระทง

"ถ้าจะชี้นำก็ชี้นำว่าไปออกเดทแล้วต้องทำยังไง ไม่ได้ชี้นำให้ไปมีเซ็กซ์กับใคร มันผิดมั้ยที่ไปกินข้าวกับผู้หญิงแล้วทำตัวแบบนี้ มันดีเสียอีกผมว่า ซึ่งจริงๆ ผมไม่ได้ทำรายการให้มันสื่อไปขนาดนั้นเลยด้วยซ้ำ"

"ถ้าให้ถามคนเป็นพ่อแม่ ผมก็เป็นพ่อคนหนึ่งทีมีลูกสาวถ้าลูกโตขึ้นแล้วยังมีรายการนี้อยู่ จะให้ผมไปบอกว่าอย่ารายการนี้ผมคงไม่ทำ"

ส่วนผู้ใหญ่ทางช่อง (โมเดิร์นไนน์ทีวี) จะมีการเปลี่ยนแผนหรือปลดรายการออกจากผังหรือเปล่า ทาง "ซีเนรีโอ" บอกว่ายังไม่มีข้อสรุปใดๆ

"ยังไม่มีข้อสรุปอะไร ก็แพลนกันว่าจะทำต่อ อยู่ที่ช่องครับผมไม่มีปากเสียงตรงนี้ว่า มันควรจะเป็นอย่างไร ผมกะให้อาทิตย์นี้ผมจบซีรี่ส์แรกอยู่แล้ว เพราะตอนแรกผมกะเอารายการนี้ มาคั่นละครรักแปดพันเก้า ซึ่งอาทิตย์หน้าจะกลับมา แต่รายการนี้มีคนดูชอบเยอะก็อาจจะมีกลับมาอีก อาจไปลงที่เวลาอื่นก็แล้วแต่ช่องถ้าให้พูดตรงๆ ไม่เข้าใจกับหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นที่คนมาแอนตี้กับผู้หญิงกับผู้ชายที่คบหากัน คนมันต้องมีการเรียนรู้ถึงการเข้าหาสังคมนะครับ"

ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.พ. นายสุระ เกนทะนะศิล ผอ.โมเดิร์น ไนน์ ทีวี ได้ออกมายืนยันว่า ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาเรื่องเนื้อหาของรายการ ”พรหมลิขิตบทที่1” แล้วก็เห็นว่า ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย แต่ในเมื่อมีเสียงต่อต้านขึ้นมาค่อนข้างมาก ผอ.สุระจึงได้ให้มีการเลื่อนการออกอากาศตอนจบของรายการดังกล่าวออกไปเป็นวันเสาร์ที่ 19 ก.พ. เวลา 23.00-24.00น. เนื่องจากว่าเวลาออกอากาศเดิมนั้นเป็นตอนเย็น (18.00-19.00น.) อาจจะไม่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ผอ.สุระได้มีการพูดคุยตกลงกับถกลเกียรติ วีรวรรณ เจ้าของรายการ ”พรหมลิขิตบทที่ 1” เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น